วันนี้ (30 กันยายน 2564) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้แถลงความร่วมมือในการผลิตรายการข่าวกับ บริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมี พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ. และนายแพทย์ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ประธานกรรมการบริหาร GMC ได้ร่วมลงนามในครั้งนี้
สำหรับการร่วมผลิตข่าวในครั้งนี้ ได้ดึง กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญไพบูลย์, สันติสุข มะโรงศรี และสถาพร เกื้อสกุล ซึ่งจะนั่งแท่นอ่านข่าว 7 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งเป็นวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเช้า 06.00-07.00 น., ช่วงเที่ยง 12.00-14.00 น., ช่วงค่ำ 18.00-20.00 น. และช่วงดึก 20.30-22.30 น. นอกจากนี้ยังมีรายการศาสตร์แห่งสยามวันละ 2 นาที และรายการช่วงเสาร์-อาทิตย์ มีสองรายการที่ออกอากาศช่วงเวลา 16.00-17.00 น. คือรายการลายกนกยกสยาม และรายการ ณ ครับ โดยเริ่มการออกอากาศในวันที่ 3 มกราคม 2565
เน้นการเสนอข่าวให้ตรง ครบทุกด้าน เสนอข่าวทั้งสอฝั่ง และไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูก ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน เพราะคู่แข่งคือสื่อออนไลน์ ททบ.ยังเชื่อว่าสื่อกระแสหลักยังเป็นปัจจัยสำคัญในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และจากการผสมผสานของทีมกองบรรณาธิการข่าวของ ททบ. และการได้ร่วมงานกับ 4 พิธีกรที่มีผู้ติดตามอย่างมาก ซึ่งเป็นการทำงานและกำหนดทิศทางการนำเสนอข่าวร่วมกัน จะทำให้เราสามารถให้ข้อมูลครบทุกด้าน และผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยที่ไม่ต้องดำเนินการใส่ความเห็นให้เกิดความขัดแย้ง โดยทาง ททบ. จะได้รับผลประโยชน์ปีละ 65 ล้านบาท และมีระยะเวลา 1 ปี ซึ่งสามารถต่อสัญญาได้แบบปีต่อปี
นอกจากนี้ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเลขช่องจากช่องหมายเลข 1 เป็นช่องหมายเลข 5 ซึ่งเป็นเลขอันเป็นเอกลักษณ์ของ ททบ. และจะเป็นวันแถลงผังใหญ่ของ ททบ. ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการที่ททบ. 5 ถูกจัดอันดับเรตติ้งอยู่ที่อันดับที่ 18 นั้น ทางกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ. เปิดเผยว่า ไม่ได้เป็นนโยบายหลักในการทำงานของททบ. เพราะเรตติ้งไม่ใช่ตัววัดสำคัญ แต่การที่ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วน กระชับ และสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนที่ดีได้ ซึ่งการร่วมมือจาก GMC นั้นจะทำให้เราได้ข่าวที่มีคุณภาพและดึงคนดูได้อย่างแน่นอน
GMC เชื่อมั่นว่าการดำเนินการในครั้งนี้จะทำให้เราสามารถขึ้นไปยัง TOP10 ของเรตติ้งโทรทัศน์ได้อย่างแน่นอน และทำให้รายการข่าวชูโรงขึ้น TOP3 ของเรตติ้งภายในระยะเวลา 3 เดือน จากการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาและนำเสนอความจริง ซึ่งจากผลประโยชน์อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่มาก แต่การร่วมงานและสร้างสมดุลระหว่างทางช่องและบริษัทเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราอยากสร้างให้ททบ. เป็นสถานีโทรทัศน์ที่พึ่งพากันได้และเติบโตกันไปได้ด้วยกัน ซึ่งการนำเสนอข่าวจะแตกต่างจากที่เคยออกอากาศบน TOPNEWS อย่างแน่นอน
