fbpx

“มุกใต้สะดือ” เรื่องสนุกหรือคุกคามทางเพศ?

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนตอนผู้เขียนทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง อดีตหัวหน้าเคยเล่น “มุกใต้สะดือ” ขณะเล่าเรื่องนวนิยายกำลังภายในที่เขาชื่นชอบ โดยมีฉากหนึ่งว่าด้วยเตียงน้ำแข็งของตัวละคร ก่อนที่เขาจะหันมาหาผู้เขียน (ซึ่งชื่อน้ำแข็ง) บอกว่า “พี่ก็อยากขึ้นเตียงน้ำแข็งเหมือนกัน” แล้วหัวเราะสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงาน “ชาย” คนอื่นๆ 

นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้ยินมุกใต้สะดือ แต่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า “ถูกคุกคาม” ด้วยคำพูดที่ไม่ควรหลุดออกมาจากปากของคนเป็นหัวหน้า และใช่! สิ่งที่อดีตหัวหน้าพูดหลังจากนั้นคือ “แค่ล้อเล่นขำๆ อย่าซีเรียสเลย!” 

เชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกมุกใต้สะดือแบบนี้ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่การล้อเล่น หรือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ลวนลาม” กันแน่ เพราะส่วนใหญ่คนที่เล่นมุกลักษณะนี้ ก็มักจะจบลงด้วยการแก้ตัวว่า “แค่ล้อเล่น” “แซวขำๆ” หรือถ้าหนักกว่านั้นก็กล่าวหาว่าเรา “คิดมากไปเอง”

“การคุกคามทางเพศ” ในความคิดของหลายคนอาจหมายถึงการใช้ความรุนแรงเพื่อพยายามข่มขืน ลวนลาม แต่รู้ไหมว่าเรื่องเล็กน้อยอย่างการเล่นมุกใต้สะดือก็ถือเป็นการคุกคามทางเพศอีกรูปแบบหนึ่ง The Modernist ขอร่วมสร้างความเข้าใจเรื่องมุกใต้สะดือขำๆ กับการกระทำที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศ เพื่อให้ทุกคนได้ “ระมัดระวัง” การล้อเล่นที่ (อาจ) ไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะกลายเป็น “ผู้กระทำ” หรือ “ผู้ถูกกระทำ” โดยไม่รู้ตัว

มุกใต้สะดือ = คุกคามทางเพศ

การคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเพศไหน วัยอะไร หรือสถานะทางสังคมแบบไหน ก็สามารถตกเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศได้ทั้งนั้น และสิ่งหนึ่งที่ผู้ถูกระทำทุกคนรู้สึกเหมือนกันคือ “รู้สึกอับอาย” จนไม่กล้าบอกให้คนอื่นรู้หรือเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ 

สถิติความผิดทางเพศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงปี 2560 – 2563 พบว่ามีผู้เสียหายจากการถูกคุกคามทางเพศมากกว่า 8,000 คน แต่ข้อมูลของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พบว่าเกือบ 90% ของคดีล่วงละเมิดทางเพศในประเทศไทย “ไม่เคยถูกรายงาน” แปลว่ายังมีผู้ถูกกระทำอีกมากมายที่เก็บซ่อนความเจ็บเนื้อช้ำใจจากการโดนคุกคามทางเพศเอาไว้เพียงลำพัง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเข้าใจของคนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงการคุกคามทางเพศ มักจะจำกัดอยู่แค่การข่มขืน ลวนลาม สัมผัสเนื้อตัวร่างกายโดยอีกฝ่ายไม่ยินยอมเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วการคุกคามทางเพศยังครอบคลุมถึงเรื่องการใช้สายตาจ้องมอง ผิวปาก พูดแซว ส่งข้อความลามก ไปจนถึง “การเล่นมุกใต้สะดือ” ที่ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมสนุกสนานเฮฮาอย่างสังคมไทย และทุกครั้งก็จะมากับคำพูดลงท้ายที่ว่า “แค่ล้อเล่นนะ” ถ้าใครยังลุกขึ้นมาโวยวาย ก็จะถูกปิดปากด้วยคำว่า​ “แกคิดไปเอง” จนผู้ถูกกระทำต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวเข้าไว้ เพราะนอกจากจะกลายเป็นคนทำให้บรรยากาศ “กร่อย” แล้ว ดีไม่ดีจะโดนหนักมากกว่าเดิม

จึงไม่แปลกใจว่าทำไมผู้ถูกกระทำจากพฤติกรรมคุกคามทางเพศส่วนใหญ่จึงไม่ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอาผิดผู้กระทำ เพราะนอกจากความเข้าใจเรื่องการคุกคามทางเพศที่มีอย่างจำกัดแล้ว การทำเรื่องตลกใต้สะดือที่ออกแนวคุกคาม ให้เป็นเรื่องขำขันปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ปิดปากและทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์กับความไม่สบายใจจาก “มุกตลกแต่ไม่ฉลาด” แค่ครั้งเดียวไปอีกนานแสนนาน

ชีวิตนี้จะไม่หัวเราะเลยหรือไง?

เป็นเรื่องจริงที่มนุษย์ใช้เรื่องตลกขำขันมาเป็นตัวช่วยเพื่อสร้างมิตรภาพ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย และเชื่อมโยงกับคนใหม่ๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกมุกตลกจะสามารถนำมาใช้ได้ โดยเฉพาะเรื่องทะลึ่งใต้สะดือ ที่ถึงแม้สนิทกันมากแค่ไหน บางทีก็ยังต้องดูตาม้าตาเรือก่อนจะยิงมันออกไปด้วยซ้ำ

แต่ในสังคมให้ความสำคัญกับ “หน้าตาทางสังคม” แบบสังคมไทย การจะลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าคนยิงมุกใต้สะดือ (ที่อาจจะยังไม่ผ่านกระบวนการกลั่นกรองทางความคิด) ก็เป็นเรื่องยากยิ่งกว่าการนิ่งเฉยหรือฝืนหัวเราะให้ผ่านสถานการณ์นั้นไปได้เร็วๆ เพราะการพูดอะไรที่ “จริงจัง” และสวนทางกับคนส่วนใหญ่ในวงสนทนาที่กำลังหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน ก็อาจเท่ากับการเป็น “ตัวทำลายบรรยากาศ” และไม่น่าคบเอาเสียเลย อย่างไรก็ตาม Human Right Watch เคยอธิบายว่า หลายครั้งผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQIA+ จำเป็นต้องฝืนหัวเราะกับมุกตลกใต้สะดือหรือเหยียดเพศ แม้พวกเขาหรือเธอจะกำลังรู้สึกว่า “โดนดูถูก” อยู่ก็ตาม

หลายครั้งเวลามีดราม่าเรื่องมุกใต้สะดือ กลุ่มผู้หญิงมักเป็นคนที่ออกมาแบ่งปันประสบการณ์และความไม่พอใจในมุกตลกเหล่านั้น และสิ่งที่ตามติดกันมาก็คือ “ผู้ชายบางคน” ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น “แย้ง” ว่าชีวิตจะจริงจังกับทุกเรื่องเลยหรือไง ไม่รู้จักหัวเราะกับเรื่องตลกหรือมุกขำๆ บ้างเลยหรือ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่พูดแบบนี้ เขา “ไม่รู้สึกอะไรเลย” เวลาที่ถูกแซวแรงๆ จริงหรือ หรือพวกเขามักจะยืนอยู่ในตำแหน่งของผู้กระทำอยู่เสมอ ก็เลยไม่รู้สึกเห็นใจหรือเข้าใจผู้ถูกกระทำกันแน่

แต่ที่แน่ๆ คือไม่มีใครอยากเป็น “ตัวตลก” เช่นเดียวกับไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศ และคนเราก็ไม่จำเป็นต้องหัวเราะให้เรื่องตลกที่รู้สึกว่าคุกคามตัวเอง

โดนยิงมุกใต้สะดือใส่… ทำยังไงทีนี้

แน่นอนว่า “วัฒนธรรมการพูดเล่น” ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมยังให้การรับรอง ทำให้การลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองอาจจะไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียไป โดยเฉพาะในบริบทของการทำงาน ที่อาจหมายถึงการผิดใจกับหัวหน้าหรือทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งคงไม่ดีแน่ แต่ผลกระทบจากการถูกคุกคามทางเพศก็มีผลกับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ถูกกระทำเหมือนกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่ทวีความหนักหนาและสร้างบาดแผลในใจให้กับตัวเองไปเรื่อยๆ 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง และบางครั้งการลุกขึ้นสู้ก็อาจจะไม่ได้หมายถึงชัยชนะในกำมือของเราเสมอไป แต่มันคงดีกว่าการปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังไปเรื่อยๆ ตัวเองก็โดนยิงมุกไม่สร้างสรรค์ใส่ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องรักษาไปอีกนาน

แต่เหนือกว่าการบอกให้ผู้ถูกกระทำลุกขึ้นสู้ คนปล่อยมุกก็ควร “เลิกผลิต” มุกใต้สะดือไม่สร้างสรรค์ และตระหนักรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะรู้สึกตลกและเอนจอยกับมุกพรรค์นั้น คนเรามาจากร้อยพ่อพันแม่ พื้นฐานของชีวิตและประสบการณ์แตกต่างกัน มีเรื่องราวมากมายที่จะทำให้คนรอบข้างรู้สึกขำและไม่จำเป็นต้องเป็น “เรื่องใต้สะดือ” เพียงอย่างเดียว

การปล่อยมุกสร้างสรรค์และไม่ทำร้ายใครน่าจะเป็นตัวชี้วัดการเป็น “เทพเจ้าแห่งมุกตลก” ได้ดีกว่ามุกใต้สะดือที่อาจจะทำให้คนฟังรู้สึกไม่สบายใจ เว้นเสียแต่คุณจะหมกมนุ่นกับเรื่องเพศมาก ถึงกับต้องเอามาเปลี่ยนเป็นมุกกากๆอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นแบบนั้นคนที่ต้องลุกขึ้นมาขอความช่วยเหลือก็อาจจะเป็นคุณเองนั่นแหละ!

ที่มา THAILAND INSTITUTE OF JUSTICE (TIJ) / ไทยรัฐ / cmply

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า