fbpx

ความหลากหลายของข้าราชการไทย และบทบาทของเพศหญิงที่ควรเติมไม่ให้สภาเละเป็นโจ๊ก

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหายของคำว่า “เละ” และ “โจ๊ก” ไว้ดังนี้ 

เละ (๔) ว. โดยปริยายหมายความว่า สับสนวุ่นวายไม่เป็นระเบียบ เช่น ลูก ๆ ทำครัว วางข้าวของกันไว้เละ พ่อแม่ไม่อยู่ บ้านเละหมด. 

โจ๊ก (๔) (๑) น. ตัวตลก. (อ. joker) (อ. joke). (๒) น. เรื่องตลก. (อ. joke). (๓) ว. ตลกขบขัน. (อ. joke). 

อาหารเช้าวันนี้คือ “โจ๊ก” พร้อมกับนั่งฟังรายการทางคลับเฮาส์ที่มักจะพูดถึงการบริหารงานของรัฐบาลที่ฟังดูกี่ทีก็คิดให้มันเป็นเรื่อง “โจ๊ก” ต้อนรับวันใหม่ ผู้นำเสนอรายการพูดคือความ “เละเทะ” ของการบริหารงานที่ล้มเหลวไม่จบสิ้น ร้ายยิ่งกว่านั้นคือการไม่ยอมรับเสียงต่าง ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมประชาธิปไตย ผวนคิดถึงประชาธิปไตยในฝันที่ตอนนี้ “เละเป็นโจ๊ก” พอพอกับโจ๊กที่อยู่ในถ้วยที่วางตรงหน้า 

ถ้าจะมีคำสองคำที่เอามาใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางสังคมในช่วงเวลานี้ได้ “โจ๊ก” และ “เละ” คงมาใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆให้เห็นภาพชัดเจนได้ เช่น การจัดการการเฝ้าระวัง และป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ “เละ” บางครั้งใช้ “เละเทะ” ที่บ่งบอกถึง ความวุ่นวายไม่มีระเบียบ และ การสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดโควิด-19 ที่มีความ “โจ๊ก” เป็นที่มาของความไม่น่าเชื่อถือของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการปัญหาดังกล่าว      

ข่าวหลายสำนักพูดเรื่องระบบยุติธรรม ที่ “เละ” พอ ๆ กับ “โจ๊ก” ในเหตุการณ์ที่ผู้รักษาสันติราษฎร์ตกเป็น “จำเลย” ในหลายกรณี หรือ “โจ๊ก” ที่นักการเมืองชอบใช้ และพูดถึงเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งประชาชนไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องตลกแม้แต่น้อยในภาวะที่คนอีกหลายคนพยายามอยู่ให้รอดจากภาวะเศรษฐกิจ โรคระบาด และความพยายามจะเข้าถึงบริการสุขภาพซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน

ความ “โจ๊ก” มักถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่สร้างความ “เละ” ให้กับคู่แข่งขั้วตรงข้าม เพราะการทำให้นักการเมืองคนใดคนหนึ่งเป็น “ตัวตลก” เป็นการสร้างให้ประชาชนคิดว่า นักการเมืองคนนั้นเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ร้ายไปกว่านั้นคือการเอาความเป็นเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศสภาพมาลดทอนความน่าเชื่อถือของบุคคล เป็นเรื่องที่เห็นกันบ่อยครั้งในพื้นที่ทางการเมือง  

นักการเมืองหญิง หรือแม้กระทั่งข้าราชการที่เป็นผู้หญิงในตำแหน่งสูง ถูกตั้งคำถามถึงความสามารถในการเป็นผู้นำอยู่บ่อยครั้ง จากนักการเมืองชายในะระดับเดียวกันหรือสูงกว่า แม้กระทั่งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาก็อาจจะเคลือบแคลงสงสัยถึงความสามารถของผู้หญิงในฐานะหัวหน้า และผู้นำองค์กร ทำให้การเป็นผู้หญิงในสภาผู้แทนราษฏร หรือในองค์กรของรัฐ ต้องคอยระวังที่จะแสดงออกความคิดเห็นบางอย่าง หรือแม้กระทั่งเรื่องการเป็นตัวของตัวเองในฐานะผู้นำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยระบอบอำนาจแบบชายเป็นใหญ่         

“โจ๊ก” หรือ “ความตลก” ถูกนำมาใช้อธิบายผู้หญิง หรือคนที่มีความหลากหลายทางเพศที่กล้าพูดความคิดของตัวเอง เป็นตัวของเอง หรือใช้ลดคุณค่าของภาวะผู้นำ เมื่อใครก็ตามมีความเป็น “ผู้หญิง” ที่มากไป คุณลักษณะของความเป็นหญิงตามความคาดหวังทางสังคมถูกมองเป็นเรื่องตรงข้ามกับภาวะความเป็นผู้นำ ดังนั้นการใช้อำนาจ การลงโทษ ความเด็ดขาดและไม่ประนีประนอม การไม่แสดงความรู้สึก และการอ้างเรื่อง “การใช้เหตุผลในการตัดสินใจเป็นหลัก” จึงเป็นคุณลักษณะที่ยอมรับได้เพียงเท่านั้นในผู้นำชาย และหญิงในหลายสถาบันทางสังคม  

การจำกัดความหลากหลายของภาวะผู้นำโดยเข้าใจเพียงแค่ “ผู้ชาย” และ “ความเป็นชาย” คือ “ผู้นำ” ส่งเสริมการใช้อำนาจจากบนลงล่าง และเป็นผู้นำตามหน้าที่และสายบังคับบัญชาที่เห็นผลลัพธ์สำคัญกว่าผู้ใต้บังคับบัญชา นำมาซึ่งวิกฤติทางการเมือง และความ “เละเทะ” ของสถานการณ์บ้านเมือง ที่ร้ายไปกว่านั้น ผู้นำที่ใช้ความเป็นผู้นำแบบเหรียญด้านเดียว เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการดำรงซึ่งระบอบประชาธิปไตย ที่ควรจะโอบรับความต่าง และความหลากหลายของพลเมืองของรัฐทุกคน  

บางทีสิ่งที่สังคมไทยต้องการมากที่สุด คือ ความหลากหลายของนักการเมือง และผู้นำ ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และเป็นผู้นำที่ใส่ใจและเข้าใจความหลากหลายของมนุษย์ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง สังคมไทยต้องการผู้นำที่พร้อมจะอยู่กับประชาชน และพยายามที่จะเข้าใจประชาชนในฐานะที่ผู้นำเหล่านั้น คือ “ผู้ให้บริการ” ทางสังคม หรือที่พวกเราทุกคนเรียกพวกเขาว่า “ข้าราชการ”       

บางครั้งการใช้ความเป็น “ผู้หญิง” ตามบรรทัดฐานทางสังคมเป็นเรื่องที่หายไปในความเป็นผู้นำ เพราะประชาชนในภาวะลำบากต้องการผู้นำที่เห็นอกเห็นใจ พร้อมจะโอบอุ้มอุปถัมภ์ และบางครั้งร้องไห้ไปพร้อมกับความทุกข์ยากลำบากของประชาชน 

ถ้านักการเมืองหญิง และนักการเมืองหลากหลายเพศสามารถเป็นตัวเอง และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ของผู้ชาย และมีกลไกส่งเสริมที่ทำให้เสียงของพวกเขาดัง และไม่ถูกกลบด้วยการลดคุณค่าจากความเป็นเพศ เพศสภาพ และเพศวิถี พวกเขาเหล่านั้นจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านของพวกเราเป็นระเบียบมากขึ้น 

บางทีพวกเราควรจะเรียกร้องให้คนทุกคนในฐานะผู้นำ และคนดูแลกำกับนโยบายของประเทศลดความเป็น “ชาย”ลงไป และเพิ่มคุณลักษณะของความเป็น “หญิง” ที่จะช่วยสร้างสมดุล สนับสนุนความเท่าเทียม และลดอำนาจของระบอบชายเป็นใหญ่ที่ทำร้ายพวกเราทุกคน     

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า