fbpx

ชา เครื่องดื่มจากแดนมังกร แต่กลับมีคำศัพท์ที่เรียกได้ 2 แบบ

ชา เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก อันเนื่องจากสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายหลายประการเช่น ทำให้ร่างกายสดชื่น ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันโรคได้มากมาย

ต้นกำเนิดของชาเกิดขึ้นที่ประเทศจีนเมื่อราว 2000 ปีที่แล้ว (หากนับตามตำนานอาจย้อนได้ถึง 4000 ปี) และแพร่หลายทั่วโลกผ่านการค้าขายกับชาติต่างๆ ทั้งทางบกในเส้นทางสายไหม และทางทะเลผ่านการค้าในเมืองท่า และด้วยคุณสมบัติต่างๆ ของชา ทำให้เครื่องดื่มนี้ได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก จนบางชาติถึงกับมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับชาเลย ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนต้นกำเนิด, ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้แต่ประเทศอังกฤษที่ต้องมีเวลา tea break สำหรับพักดื่มชากันเลยทีเดียว

แต่หากพิจารณาคำว่า ชา ในแต่ละภาษาทั่วโลกนั้น กลับมีเสียงอ่านหลักๆ ถึง 2 แบบคือ cha และ te ทั้งที่ควรจะมีแค่แบบเดียวหากเรียกตามภาษาจีนต้นกำเนิดคือ 茶 (chá, ฉา) แล้ว tea มันมาจากไหนล่ะ?

ชาวเอเชียค้าขายทางบก จึงเรียกว่า cha

เป็นการเรียกชาตามเสียงอ่านในภาษาจีนต้นกำเนิด โดยภาษาต่างๆ ที่เรียกแบบนี้มักมาจากการค้าขายกับจีนทางบกผ่านเส้นทางสายไหม ทำให้รับเสียงอ่านมาจากภาษาจีนโดยตรง เช่น

ภาษาญี่ปุ่น 茶, ちゃ (cha)
ภาษาเกาหลี 차 cha
ภาษาเวียดนาม trà (จ่า)
ภาษาไทย ชา
ภาษาเปอร์เซีย چای‎ (chây)
ภาษาฮินดี चाय (cāy)
ภาษาอาหรับ شَاي‎ (shāy)
ภาษาตุรกี çay
ภาษารัสเซีย чай (chay)

จะเห็นว่าภาษาที่เรียกชาแบบ cha ต่างเป็นภาษาที่ติดต่อค้าขายกับจีนทางบก หรือเส้นทางสายไหม ทำให้ภาษาเหล่านี้รับการเรียกชาจากสำเนียงจีน chá โดยตรง สังเกตได้ว่าหากประเทศไหนอยู่ใกล้จีน การออกเสียงแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ ทั้งภาษาญี่ปุ่น, เกาหลี, เวียดนาม รวมถึงไทย

สำหรับภาษาในแถบอินเดียและตะวันออกกลาง มีการเปลี่ยนเสียงเล็กน้อยจาก cha เป็น chay ในภาษาเปอร์เซีย ก่อนที่จะเผยแพร่เสียงอ่านนี้ไปยังภาษาข้างเคียง

ชาวยุโรปค้าขายทางทะเล จึงเรียกว่า te

แต่เมื่อไปดูที่ภาษาฝั่งยุโรปทั้งหลาย กลับเรียกชาแบบ te ซึ่งเสียงอ่านต่างจาก cha อย่างชัดเจน เป็นเพราะว่าพวกเขารับชามาจากการค้าขายทางทะเล แทนที่จะเป็นทางบกแบบประเทศในเอเชีย ดังคำเรียกของภาษาดังต่อไปนี้

ภาษาอังกฤษ tea
ภาษาฝรั่งเศส thé
ภาษาอิตาลี tè
ภาษาสเปน té
ภาษาเยอรมัน Tee
ภาษาดัตช์ thee

ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าหากชาวยุโรปค้าขายกับจีนทางบก จะต้องผ่านอาณาจักรต่างๆ ในตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นออตโตมันหรือเปอร์เซีย ก่อนที่จะไปถึงจีน ซึ่งกว่าสินค้าเหล่านี้จะมาถึงยุโรป ราคาสินค้าก็โดนอัพภาษีค่าผ่านทางประเทศต่างๆ จนแพงหูฉี่

ประจวบเหมาะที่ในช่วงเวลานั้นชาวยุโรปสามารถเดินเรือเป็นระยะทางไกลได้ เริ่มต้นจากการค้นพบทวีปอเมริกาของโคลัมบัส ทำให้ช่วงศตวรรษที่ 16-17 พวกเขาพยายามหาทางเดินเรือไปยังตะวันออกไกลด้วยตัวเองโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านอาณาจักรต่างๆ ทางบกอีกต่อไป

เมืองท่าหลักที่ชาวยุโรปค้าขายกับจีนในยุคนั้นคือเมือง Amoy ซึ่งเป็นเสียงอ่านภาษาฮกเกี้ยนของเมืองเซี่ยเหมิน (Xiamen, 廈門) ในมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ทางตอนใต้ของจีน ภาษาที่คนแถบนั้นพูดกันคือภาษาฮกเกี้ยน ซึ่งเรียกชาหรือ 茶ว่า ‘tê’

จากเสียงอ่านนี้ ถ้าคนไหนที่สามารถพูดภาษาแต้จิ๋วได้ ก็คือคำเดียวกับ “เต๊ หรือ แต๊” นั่นแหละ เพราะภาษาแต้จิ๋วกับฮกเกี้ยนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เรียกรวมๆ ว่าภาษาหมิ่น (Min Language, 閩語)

เมื่อชาวยุโรปฟังคนฮกเกี้ยนเรียกใบชาว่า tê (เต๊) ก็รับเสียงอ่านไปใช้เรียกในภาษาตัวเอง เริ่มจากชาวดัตช์ที่เรียกชาว่า thee เมื่อพวกเขานำชาไปเผยแพร่ในยุโรปจนเป็นที่นิยม ภาษาอื่นๆ จึงเรียกชาโดยมีเสียงอ่านอิงจากภาษาดัตช์ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น

ยกเว้นภาษาโปรตุเกส ที่เรียกชาว่า chá เนื่องจากพวกเขาค้าขายผ่านมาเก๊า ซึ่งใช้สำเนียงกวางตุ้ง และเรียกชาว่า caa

นอกจากภาษาฝั่งยุโรปแล้ว ภาษามาเลย์และอินโดนีเซียก็เรียกชาว่า teh เพราะว่าค้าขายผ่านทางเรือกับคนฮกเกี้ยนเช่นกัน

สรุปการเรียกชา

ทุกภาษาล้วนเรียกเครื่องดื่มชาจากคำเดียวกันคือ 茶 แต่ใช้เสียงอ่าน 2 แบบจาก 2 สำเนียงของภาษาจีน

Cha คือการเรียกชาในภาษาจีนกลาง และใช้กับภาษาของประเทศที่ติดต่อค้าขายกับจีนทางบก (เส้นทางสายไหม) หรือประเทศที่ใกล้ชิดทางวัฒนธรรมกับจีน เช่นญี่ปุ่น, เกาหลี, เวียดนาม

Te คือการเรียกชาในภาษาฮกเกี้ยนและแต้จิ๋วทางตอนใต้ของจีน คนยุโรปค้าขายกับจีนผ่านคนฮกเกี้ยน จึงเป็นที่มาของคำเรียกชาของหลายภาษาในยุโรป


อ้างอิง
https://qz.com/1176962/map-how-the-word-tea-spread-over-land-and-sea-to-conquer-the-world/
https://www.vahdamteas.com/blogs/tea-us/tea-or-cha-or-chai-the-etymology-of-tea-why-the-english-call-it-tea-the-chinese-call-it-cha-and-indian-call-it-chai
https://theculturetrip.com/asia/china/articles/epic-origins-word-tea/
https://en.wiktionary.org/wiki/茶

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า