fbpx

BKK Rail แอปคำนวณเวลาเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ที่จะทำให้ “คมนาคมไร้รอยต่อ” ไม่ใช่แค่ฝัน

การเดินทางเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องออกไปเรียน ไปทำมาหากิน หรือแม้กระทั่งการเป็นแม่บ้าน ก็ต้องมีความเกี่ยวเนื่องกับการเดินทางทั้งนั้น แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านเราก็ไม่พ้นวัฏจักรของการเคลื่อนย้าย

ในประเทศที่มีกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง และมิหนำซ้ำดันเป็นเมืองโตเดี่ยวที่เพียบพร้อมไปด้วยระบบขนส่งมวลชนที่เกินหน้าเกินตาเมืองใหญ่ในประเทศอีกหลายๆ แห่ง การมีรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟ แท็กซี่ รถตู้ เรือ และอื่นๆ อีกมากมายให้เป็นตัวเลือกสำหรับการเดินทาง แต่ปัญหาที่ชาวกรุงต้องพบพานและแก้ไม่ตก คือความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานที่แฝงด้วยความไม่สมบูรณ์ในการวางแผน การเชื่อมต่อ และการบูรณาการ เพื่อให้การเดินทางนั้นสะดวก ง่ายดาย และประหยัดดังสโลแกนสวยงามว่า “คมนาคมไร้รอยต่อ”

การเปลี่ยนโหมดเดินทางจากระบบหนึ่งไปอีกระบบหนึ่งกลับเป็น Pain Point ของการคมนาคมด้วยระบบขนส่งมวลชนในเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเดินทางด้วยรถเมล์ที่ต้องจดจำว่าสายไหนไปที่ไหน และมีรถเสริมตัดระยะที่ไหนบ้าง หรือแม้กระทั่งการเดินทางที่ง่ายที่สุดอย่างรถไฟฟ้าก็ทำให้เกิดความสับสนและยากต่อการวางแผนการเดินทางเมื่อมีจำนวนสายผุดขึ้นมามากมาย จุดเชื่อมต่อมากมี และที่สำคัญคือถ้าหากเลือกจุดเชื่อมต่อผิดก็ส่งผลให้เงินค่าโดยสารต้องถูกจ่ายมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเวลาในการเดินทางที่ต้องเพิ่มขึ้นไปอย่างเท่าทวีคูณ ซึ่งถ้าต้องจดจำโดยใช้สมองแบบ Geek รถไฟที่สามารถวางแผนได้โดยมีแผนที่อยู่ในหัวคงเป็นไปไม่ได้สำหรับประชาชนคนธรรมดาที่ยังสับสนกับสีของสายรถไฟฟ้า หรือสถานีที่ชื่อละม้ายคล้ายกันแต่ดันอยู่กันคนละมุมกรุงเทพ

BKK Rail จึงเป็น Application ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าอย่างง่ายดายมากขึ้น ด้วยคอนเซปรถไฟฟ้าทุกสายมัดรวมเป็นหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ได้ดีกว่าการเป็นตั๋วโดยสารร่วมของรถไฟทุกประเภทเสียอีก

BKK Rail ถูกผลิตและพัฒนาขึ้นโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทุกสายในกรุงเทพและเส้นทางต่อเนื่องในปริมณฑล ซึ่งตัวแอปพลิเคชั่นนั้นได้ถูกพัฒนามานานแล้วตั้งแต่สมัยยังมีรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สายในกรุงเทพ และเพิ่มเติมฟังก์ชั่นต่างๆ ที่สำคัญเข้ามาตามความต้องการของผู้ใช้ แต่ด้วยความที่มันยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักจึงทำให้การค้นหาการเดินทางส่วนใหญ่ถูกเทไปที่ Google Map หรือแอปพลิเคชั่นของผู้ให้บริการรถไฟฟ้าต่างๆ

เมื่อมี BKK Rail ปัญหาอายุน้อยร้อยแอปก็จะจบไป แอปนี้เพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้การวางแผนเดินทางต่างๆ ของเราด้วยรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนต่อเนื่องก็จะง่ายขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เรียกได้ว่ามีมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการต่อรถ ราคา ตำแหน่งสถานี เวลาเดินทาง รวมถึงการคำนวณให้เราแบบละเอียดเป๊ะๆ เดินทางไปยังไงสะดวกที่สุด เราจะมาชำแหละให้ดูกันเลยว่าฟังก์ชั่นของ BKK Rail มีอะไรน่าสนใจบ้าง

แผนที่รถไฟเข้าใจง่าย ไม่ต้องร่างเอง

เปิดมาหน้าแรกก็จะเจอแผนที่รถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลที่มีเส้นทางต่อเนื่อง (นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี) ซึ่งจะมีการแบ่งสีเอาไว้ตามสายอย่างชัดเจน และเป็น Diagram ตามหลักการออกแบบที่ใช้เส้นทำมุม 45 90 และ 180 องศา เหมือนกับแผนที่รถไฟฟ้าทั่วโลกที่นิยมทำกัน โดย ณ ปัจจุบันนั้นมีสายที่ปรากฏบนแผนที่ตามปัจจุบันจำนวน 8 สาย เราสามารถจิ้มเลือกข้อมูลสถานีเพื่อดูได้ว่าสถานีที่เราจะไปนั้นอยู่สายไหนได้ด้วย แต่ถ้าหากใครจำสีประจำสายไม่ได้ งั้นมาขอสรุปตรงนี้

  • สายสีเขียวอ่อน : คูคต – สยาม – เคหะฯ (ปทุมธานี – กรุงเทพฯ – สมุทรปราการ) ผู้ให้บริการคือ BTS
  • สายสีเขียวเข้ม : สนามกีฬาแห่งชาติ – สยาม – บางหว้า (กรุงเทพฯ) ผู้ให้บริการคือ BTS
  • สายสีน้ำเงิน : หลักสอง – ท่าพระ – บางซื่อ – ท่าพระ (กรุงเทพฯ) ผู้ให้บริการคือ BEM
  • สายสีม่วง : เตาปูน – คลองบางไผ่ (กรุงเทพฯ – นนทบุรี) ผู้ให้บริการคือ BEM
  • สายสีทอง : กรุงธนบุรี – คลองสาน (กรุงเทพฯ) ผู้ให้บริการคือ BTS
  • สายสีแดงเข้ม : บางซื่อ – รังสิต (กรุงเทพฯ – ปทุมธานี) ผู้ให้บริการคือ SRTET
  • สายสีแดงอ่อน : บางซื่อ – ตลิ่งชัน (กรุงเทพฯ) ผู้ให้บริการคือ SRTET
  • แอร์พอร์ตเรลลิงก์ : พญาไท – สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ – สมุทรปราการ) ผู้ให้บริการคือ AERA1

วางแผนการเดินทางง่าย

แน่นอนว่ายิ่งมีสายรถไฟมากเท่าไหร่ การเปลี่ยนสายต้องทำให้การเดินทางไม่ต่อตรง ซึ่งบางสายนั้นก็มีลักษณะพิเศษที่ต้องวางแผนดีๆ เช่น มีจุดเชื่อมต่อได้มากกว่า 1 ตัวเลือก หรือแม้แต่บางสายที่ไม่ได้เป็นเส้นตรงแต่เป็นวงรอบเมือง ซึ่งถ้านั่งผิดฝั่งปุ๊บเสียเวลามากขึ้นปั๊บ

แอปนี้จึงใจดีวางแผนให้เราได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงมีตัวเลือกให้ด้วยสำหรับการเดินทางที่ไปได้มากกว่า 1 วิธี พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนว่า option ไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ ผ่านกี่สถานี ใช้เวลาเดินทางกี่นาที เพื่อง่ายกับการวางแผน พร้อมคำนวณค่าโดยสารรวดเดียวแบบเสร็จสรรพว่าเราต้องใช้เงินเท่าไหร่ หากเดินทางด้วยสายสายเดียวคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่เพราะไม่ต้องเปลี่ยนเส้น คิดราคารวดเดียว ไปง่ายๆ ซึ่งแอปนี้จะมีประโยชน์กรณีการเดินทางข้ามสาย

งั้นมาลองดูว่าถ้าเราเดินทางข้ามสาย แอปจะคำนวณอะไรมาให้บ้าง เราขอเลือกเส้นทางแบบข้ามฟากกรุงเทพเพื่อให้เห็นชัด สมมติว่า เราจะเดินทางคลองบางไผ่ฟากนนทบุรี เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ เราเลือกต้นทางที่สถานีคลองบางไผ่ ของสายสีม่วง และเลือกปลายทางเป็นสถานีสุวรรณภูมิ ของแอร์พอร์ตเรลลิงก์

ปิ๊ง ตัวเลือกออกมามี 2 ตัวเลือก และแนะนำว่าเส้นไหนเร็วสุด ถูกสุด ระยะทางสั้นสุด

ตัวเลือกที่ 1

สายสีม่วงจากคลองบางไผ่ มาลงเตาปูน เปลี่ยนขบวนรถไปสายสีน้ำเงิน ใช้เวลาเดินเปลี่ยนสายประมาณ 3 นาที นั่งสายสีน้ำเงินจากเตาปูนไปเพชรบุรี เปลี่ยนสายอีก 5 นาที ไปสถานีมักกะสันเพื่อขึ้นแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ไปลงสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 80 นาที ค่าโดยสาร 103 บาท (สายสีม่วง+น้ำเงิน = 68 บาท / แอร์พอร์ตเรลลิงก์ 35 บาท) ผ่านสถานีทั้งหมด 33 สถานี

ตัวเลือกที่ 2

สายสีม่วงจากคลองบางไผ่ มาลงเตาปูน เปลี่ยนขบวนไปสายสีน้ำเงิน ใช้เวลาเดินเปลี่ยนสายประมาณ 3 นาที และนั่งสายสีน้ำเงินไปลงสวนจตุจักร เปลี่ยนสายไปสายสีเขียวอ่อนจากสถานีหมอชิต ไปพญาไท จากนั้นเปลี่ยนสายไปแอร์พอร์ตเรลลิงก์สถานีพญาไป ไปลงสุวรรณภูมิ

ซึ่งตัวเลือกที่ 2 นี้ ใช้รถไฟถึง 4 สาย เวลาเดินทาง 83 นาที ผ่าน 33 สถานีเท่ากัน แต่ราคาพุ่งไปถึง 131 บาท (สายสีม่วง+น้ำเงิน = 49 บาท / สายสีเขียว 37 บาท และแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 45 บาท)

เราจะเห็นได้ว่าการเปรียบเทียบโดยมีรายละเอียดที่ชัดเจนนี้ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่าเอาล่ะฉันจะไปเส้นไหน ทางไหน และเปลี่ยนกี่สายที่จะเดินทางง่ายที่สุดและประหยัดเงินที่สุด นี่จึงเป็นอีกฟังก์ชั่นนึงของ BKK Rail ที่เราว่าดีกว่าทุกๆ แอปที่มีอยู่ตอนนี้

ข้อมูลสถานีชัด ไม่หลงทาง

แต่ละสายแต่ละสถานีมีพื้นที่ตั้งไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นสถานีใกล้เคียงกันก็ตาม ฟังก์ชั่นข้อมูลสถานีจึงมีประโยชน์มากๆ สำหรับมือใหม่หัดนั่งรถไฟ

เมื่อกดข้อมูลสถานีตรงแถบล่างสุดแล้ว เราก็สามารถพิมพ์ชื่อสถานีเพื่อดูข้อมูลได้ เมื่อเข้าไปที่เมนูนี้แล้วก็จะพบผังสถานีขึ้นมา หน้าตาเหมือนที่อยู่ในสถานีรถไฟจริงๆ แบบเป๊ะๆ รายละเอียดต่างๆ ที่อยู่ในเมนูนี้ก็จะประกอบด้วย

  • แผนผังสถานี ถนน และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งกดเข้าไปดูและขยายได้
  • ความถี่ของขบวนรถไฟที่ให้บริการอยู่ขณะนี้ และตลอดวัน
  • สิ่งอำนวยความสะดวกในสถานี เช่น ห้องน้ำ บันไดเลื่อน ลิฟต์ ฯลฯ ของสถานีนั้นๆ มีหรือไม่
  • สถานีเชื่อมต่อที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นข้อมูลการเดินทางต่อไปอีกสายว่าต้องเดินทางไหน
  • ข้อมูลทางออก ว่าแต่ละทางออกนั้นอยู่ตรงไหนบ้าง

และพิเศษสำหรับสายสีแดง และแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่เป็นประเภทรถไฟชานเมืองที่รอบขบวนไม่ถี่เท่ารถไฟแบบเมโทรของสายอื่นๆ ก็จะมีข้อมูลตารางเวลาเดินรถของแต่ละสถานีด้วยว่ารถไฟจะออกจากสถานีนั้นๆ เวลากี่โมง

ข้อมูลที่จอดรถแบบเรียลไทม์

ฟังก์ชั่นนี้ถือว่าดีมากสำหรับคนที่ขับรถมาจอดตามอาคารจอดแล้วจรเพื่อต่อรถไฟฟ้า ในเมนูอื่นๆ > ลานจอดรถ มีข้อมูลลานจอดรถและอาคารจอดแล้วจรที่อยู่ภายใต้การให้บริการของ MRT ทั้งหมด ที่บอกได้ว่าที่จอดรถเหลือกี่คัน ตอนนี้เต็มหรือยัง จอดได้อีกกี่คัน รวมถึงข้อมูลราคาที่จอดรถทั้งรายวัน รายชั่วโมง และรายเดือน

BKK Rail น่าจะเป็นแอปที่บอกได้เต็มปากว่าควรมีติดไว้ที่โทรศัพท์เพื่อความสะดวกและการวางแผนเดินทาง และจะดียิ่งขึ้นกว่านั้นหากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทุกสายในกรุงเทพฯ สามารถใช้บัตรโดยสารร่วมที่ไม่ใช่แค่บัตรใบเดียว แต่ยังรวมค่าโดยสารทุกสายให้เป็นหนึ่งเดียวโดยไม่ต้องคิดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนในการเปลี่ยนสาย มันจะทำให้ชาวเมืองรู้สึกได้ถึงความง่าย สะดวก พร้อมสร้างแรงจูงใจให้คนมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้นเช่นกัน

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า