เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ภาคีเครือข่าย Cofact Thailand จัดงานประชุมเชิงปฏิบัติการ “สองปีโคแฟค ก้าวต่อไป (ไหนดี)” ณ ห้องประชุม Abloom ซอยพหลโยธิน 3 โดยภาคีเครือข่าย Cofact Thailand ได้แถลงความคืบหน้าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และประชุมร่วมกันถึงอนาคตต่อไปของ Cofact Thailand พบว่าสองปีที่ผ่านมา Cofact สร้างการเข้าถึงประชาชนมากกว่า 500,000 คน และสร้างคลังข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลวงมากเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย รวมถึงสามารถเข้าถึงและสร้างความร่วมมือในระดับภาคและชุมชนได้จำนวนมากและต่อยอดโครงการผ่านภาคีสื่อได้เป็นอย่างดีโดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Cofact Thailand กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่ Cofact Thailand ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม นวัตกรรม และ ชุมชนโคแฟคเพื่อรับมือกับข่าวลวง โดยเริ่มพร้อมกับโรคระบาดโควิด-19 ในการรับมือโรคระบาดข้อมูลข่าวสารหรือ Infodemic สองปีที่ผ่านมามีผู้ชมผ่านเว็บไซต์ cofact.org มากกว่า 510,000 ครั้ง โดยในปีที่ผ่านมา Cofact Thailand เน้นการทำงานเชิงระบบในการพัฒนาฐานข้อมูลกลางของข่าวลวงด้านสุขภาพ สังคม วัฒนธรรม โดยน่าจะมีข้อมูลเป็นอันดับ 2 รองจากศูนย์ต้านข่าวปลอมของรัฐบาล ซึ่งสามารถทำให้ประชาชนค้นหา ตรวจสอบข้อมูลลวงที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
สำหรับการทำงานเชิงรุก Cofact Thailand ได้พัฒนาความร่วมมือเข้าสู่ระดับชุมชน ภูมิภาค ระดับชาติ โดยมีร่วมมือของประชาชนในพื้นที่สร้างโมเดลโคแฟคชุมชนรับมือภัยไซเบอร์ รวมไปถึงการร่วมมือกับภาคีเครือข่ายระดับสากล เช่น แพลตฟอร์ม TikTok ที่ดำเนินการโครงการ “โปรดใช้วิจารณญาณในการไถฟีด” รวมไปถึงการพัฒนาบทความ Cofact Special Report ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Friedrich Naumann Foundation for Freedom ประจำประเทศไทย มีบทความมากกว่า 32 บทความ
นอกจากนี้ยังมีบทความในหมดหมู่อื่นๆ และอินโฟกราฟิกที่พัฒนาเนื้อหาข่าวลวงที่วนซ้ำ และมีโอกาสเข้าใจผิดสูงมากๆให้อ่านง่าย เข้าใจง่าย และจัดรายการสด Cofact Live Talk และสานเสวนาชุมชนนักคิดดิจิทัล หรือ Digital Thinking Forum 22 ครั้ง และนอกเหนือจากนี้ยังมีการอบรมร่วมกับ IFCN และ Google News Initiative เข้าถึงผู้คนที่อบรมมากกว่า 1,000 คน และการร่วมมือกับ Meta (Facebook) เพื่อสร้างสังคมออนไลน์ที่ดีมากขึ้นอีกด้วย
Cofact Thailand ยังมีการพัฒนาความร่วมมือกับสื่อมวลชน เช่น เว็บไซต์ Modernist ที่ทำเรื่อง 5 ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดผ่าน 5 กลุ่มบุคคลสำคัญ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก และการพัฒนาความร่วมมือไปยังนิสิต นักศึกษาในการดำเนินการโครงการ Fackathon เพื่อสร้างพัฒนานวัตกรรมในการตรวจสอบข่าวลวง
สุภิญญา กล่าวเพิมเติมว่า ในก้าวต่อไป Cofact Thailand กำลังถกเถียงกันว่าจะพัฒนาไปทางไหนดี จาก 3 แนวทาง ได้แก่ หนึ่ง การขยับเป็นองค์กรตรวจสอบข่าวลวงแบบจริงจังขึ้นเชิงองค์กรข่าว หรือ สอง แนวทางในการพัฒนาให้เป็นองค์กรภาคประชาสังคมในการสร้างเครือข่ายกับชุมชน ในการพัฒนาความร่วมมือและการสร้างการเข้าถึงกับข่าวลวงให้มากขึ้น และ สาม การร่วมขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะในประเด็นสิทธิพลเมืองยุคดิจิทัล เป็นต้น
ดร.พิมพ์รภัช ดุษฎีอิสริยกุล ผู้จัดการโครงการประจำประเทศไทย มูลนิธิฟรีดริช เนามัน เพื่อเสรีภาพ กล่าวถึงการร่วมก่อตั้งเป็นภาคีเครือข่าย Cofact Thailand ว่าในวันนี้ได้เติบโตมาไกลเกินความคาดหวัง และสามารถสร้างพลังให้กับคนจำนวนได้เป็นอย่างดี ส่งผลทำให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อ ให้คนไทยมีภูมิคุ้นกันสื่อยุคดิจิทัลที่ดีมากขึ้นด้วย
กุลชาดา ชัยพิพัฒน์ ที่ปรึกษา Cofact Thailand กล่าวต่อถึงความร่วมมือและพัฒนาโครงการว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ Cofact Thailand เติบโตและสามารถผลิตงานที่สร้างสรรค์ที่อยู่ในช่วงภาวะวิกฤตได้ ที่สำคัญคือประสบการณ์ตลอด 2 ปีที่ Cofact Thailand ได้สร้างแรงกระเพื่อมเป็นนัยยะสำคัญต่อระบบนิเวศสื่อในประเทศไทย และคิดว่าต่อไปบทบาทสำคัญ Cofact Thailand จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดตัวชี้วัดสื่อที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือหรือ Trusted Media Barometer โดยร่วมกับภาคีองค์กรสื่อและแพลตฟอร์มอย่าง Google News Initiative ต่อไป
ทุกท่านสามารถติดตามและตรวจสอบข่าวลวง หากไม่แน่ใจในข่าวไหนนำไปตรวจสอบได้ทาง www.cofact.org หรือ Line @cofact และติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Facebook: Cofact โคแฟค
Content Creator
