หากนึกย้อนไปในช่วงเวลาที่ทุกคนเป็นวัยรุ่น เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงความรักครั้งแรก และความรักครั้งต่อๆ มา ที่นำมาซึ่งความสุข ความอ่อนหวาน สีสันในชีวิต และหลายครั้งความรักในวัยที่เรายังอ่อนต่อโลกนี้ ก็ทำร้ายเราปางตาย แรงกระแทกที่ส่งผลมากกว่าความเจ็บที่ใจ คือความรู้สึกว่าตัวเองกำลังหมดสิ้นศรัทธาในความรัก อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความรัก สิ่งที่มาพร้อมกับชีวิตวัยรุ่น คือเพื่อน ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ที่แบ่งปันความสุขสนุกสนานแล้ว ยังเป็นเหมือนเบาะรองหัวใจ ในวันที่เราผิดหวังจากความรักด้วย
นี่คือภาพที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน และไม่นานมานี้ ภาพเหล่านี้ถูกนำมาถ่ายทอดอีกครั้งในรูปแบบเพลงทั้งหมด 11 เพลง จากอัลบั้ม “28” โดย Three Man Down ศิลปินป็อปร็อก สังกัดค่าย Gene Lab ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่สอง ห่างจากอัลบั้มแรก 2 ปี
“28” ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่อายุของสมาชิกในวงเดินทางมาถึงเลข 28 โดยสะท้อนแง่มุมความรักจากมุมมองของคนที่กำลังก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ ที่มีทั้งความสุข ความผิดหวัง ความเจ็บปวด การหลอกลวง และการเติบโต ซึ่งนอกจากการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านฝีมือของ Three Man Down แล้ว ยังได้ศิลปินและโปรดิวเซอร์มาร่วมงานอีกมากมาย ทั้ง Spatchies, Richard Cracker, Machina, ภีร์ Hardboy, UrboyTJ และ AUTTA ซึ่งนั่นก็ทำให้เพลงทั้ง 11 เพลง มีการเติบโต แตกต่าง และมีสีสันที่น่าสนใจ
“28” บทนำแห่งการเติบโตของเด็กคนหนึ่ง
อัลบั้ม “28” เปิดเรื่องด้วยเพลงในชื่อเดียวกับอัลบั้ม ความยาวเพียง 1 นาทีเศษ ร่วมขับร้องโดยศิลปินที่มีส่วนร่วมในอัลบั้ม โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความฝันที่ไม่สมหวัง ที่สร้างความเจ็บปวด ความผิดหวัง และความเสียใจ ขณะเดียวกันก็ยังคงมีความหวังในการเติบโตและก้าวข้ามความเจ็บปวดนี้ต่อไป
เพลง “28” ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีในฐานะ “บทนำ” ที่ช่วยให้ผู้ฟังเตรียมพร้อมสู่เรื่องราวอันหลากหลายที่จะเกิดขึ้นในเพลงต่อไป ขณะที่ตัวดนตรีก็มีลักษณะ “โหมโรง” และทรงพลังมากพอในการตรึงความสนใจของผู้ฟัง ให้จดจ่อรอฟังเรื่องราวในเพลงอื่นๆ
เพลงรักแบบ “โรแมนติกคอมเมดี”
ในสายตาของเรา Three Man Down เป็นวงร็อกที่มีความซนแบบเด็กๆ อยู่ไม่น้อย ซึ่งลักษณะขี้เล่น ซุกซน และจริงจังกับความรักครั้งแรก ถูกถ่ายทอดผ่านเพลงรักในอัลบั้มนี้ และด้วยดนตรีที่สนุกสนาน ก็ทำให้เพลงรักในอัลบั้ม “28” มีลักษณะแบบโรแมนติกคอมเมดี ไม่ว่าจะเป็นเพลง “ไม่อยากให้เธอไม่สบาย” ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนคนหนึ่ง ซึ่งรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่ามากขึ้นเมื่อมีความรัก และหากคนรักเป็นอะไรไป เขาก็คงจะอยู่ไม่ได้
อีกหนึ่งเพลงรักอย่าง “น้อง” ก็สะท้อนความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของคนคนหนึ่งที่มีต่อรุ่นน้อง เนื้อเพลงที่บอกเล่าอากัปกิริยาสับสน ทำตัวไม่ถูก ทำให้เราสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นแรง และเชื่อว่าหลายคนอาจจะหวนคิดถึงวันที่เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับเพื่อน จนอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ไกลกว่าความเป็นเพื่อน เพลงนี้ได้ UrboyTJ มาร่วมฟีทเจอริง เนื้อเพลงในท่อนแร็ปจึงสะท้อนถึงความปั่นป่วนในหัวใจ จนถึงขั้น “เสียพี่เสียน้อง” และขอขยับเป็นแฟนแทน
การหลอกลวง ความผิดหวัง ความเจ็บปวด
นอกจากความขี้เล่นแบบเด็กๆ สิ่งที่เป็นจุดเด่นในอัลบั้ม “28” นี้ คือความไร้เดียงสาต่อความรัก จนทำให้เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งต้องพบกับความผิดหวังและความเจ็บปวด สะท้อนผ่านเพลงอกหักถึง 5 เพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น “เด็กเกินไป” ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่คิดว่าความรักครั้งแรกจะดีเหมือนอย่างที่ฝัน แต่สุดท้ายกลับถูกทิ้ง และไม่เคยได้รับคำอธิบายใดๆ นอกจาก “โตขึ้นมาก็จะเข้าใจ” และแน่นอน ความรักครั้งนี้ทำให้เด็กคนหนึ่งเจ็บเจียนตายทีเดียว ซึ่งนอกจากเนื้อร้องที่สะท้อนความเจ็บปวดได้ดี เสียงของกิต นักร้องนำ ก็ถ่ายทอดความไร้เดียงสา ความเจ็บปวด และความน้อยใจในเพลงนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การหลอกลวง เป็นประเด็นที่ปรากฏในอัลบั้ม “28” อยู่หลายครั้ง โดยมีรูปแบบที่แตกต่างหลากหลาย อย่างเพลง “เมา” ที่ว่าด้วยการถูกความรักมอมเมา จนหลงคิดว่าอีกฝ่ายก็มีใจ และเพลง “ไหนบอกเลิกแล้ว” เพลงที่มีน้ำเสียงโกรธเคือง แต่เจือไปด้วยการตัดพ้อ ถึงข้ออ้างที่ว่า “เลิกกับแฟนเก่าแล้ว” แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเลิกได้จริง ความโกรธเคืองในเพลงนี้ ถูกเน้นย้ำโดยท่อนแร็ปของ AUTTA โดยเลือกใช้คำที่ค่อนข้างแรง ตรงไปตรงมา แต่เปรียบเปรยได้อย่างสวยงาม ขณะเดียวกันก็สร้างจังหวะจะโคนอย่างมีศิลปะ บวกกับดนตรีที่ซับซ้อน ผสมผสานหลากหลายแนว ซึ่งเป็นลายเซ็นของ AUTTA ก็ทำให้เพลงนี้ชนะใจเราได้ไม่ยาก
ส่วน “เปิดตัวเขา” ก็เป็นอีกเพลงที่สะท้อนถึงการหลอกลวง ในรูปแบบที่ทำให้อีกฝ่ายไร้ตัวตนในความสัมพันธ์ ทว่าเมื่อเลิกรากันไป กลับสามารถเปิดตัวคนใหม่ได้ทันที ไม่ต้องมีการหลบซ่อน นำไปสู่คำถามว่า ความสัมพันธ์ลับๆ นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ โดยท่ามกลางเนื้อเพลงที่ประชดประชัน ยังสอดแทรกด้วยความรู้สึกไร้ค่า ไร้ตัวตน และตัดพ้ออยู่ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งเพลงที่เรารู้สึกว่าเป็นเพลงอกหักที่ “โตขึ้น” ในอัลบั้มนี้ คือ “ปล่อยให้เวลา” ที่กล่าวถึงความทรมานจากรักที่ไม่สมหวัง ความโดดเดี่ยวจากการถูกทิ้ง ด้วยดนตรีป็อปร็อก และเสียงร้องที่บาดหัวใจ สะท้อนถึงความเจ็บปวดอยู่เพียงลำพัง รอให้เวลาเยียวยาความเจ็บปวดนั้นในที่สุด
รักษาความเป็นเด็กเพื่อจะเติบโต
อีกหนึ่งเพลงที่เราชื่นชมมากเป็นพิเศษ คือ “คนใหม่” เพลงจังหวะกวนๆ สนุกสนาน ที่ให้ภาพของการนั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อน และระบายความรู้สึกเมื่อเห็นแฟนเก่ามากับคนใหม่ พร้อมเสียงพูดคุยปลอบใจของเพื่อนๆ ซึ่งสะท้อนความสนุกสนานของชีวิตวัยรุ่น และบทบาทของเพื่อน ที่เป็นเบาะซับแรงกระแทกชั้นดี ให้อาการอกหักไม่ส่งผลรุนแรงจนเกินไปนัก
ขณะที่ “ปล่อยให้เวลา” กล่าวถึงการใช้เวลาเยียวยาบาดแผลในใจ แต่ “คนใหม่” กลับล้อเลียนเรื่องเวลา โดยมีเสียงบอกว่า “เวลาไม่ได้ช่วยอะไร” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิกกวนๆ ของ Three Man Down ที่เสริมจุดเด่นในเพลงนี้ ให้ยิ่งกวนและสนุกขึ้นไปอีก
ต่อมาคือเพลง “ไม่อยากชิน” ที่เรียกว่าเป็นบทสรุปของอัลบั้ม ซึ่งบอกเล่าความรู้สึกหมดศรัทธาในความรัก จากความผิดหวังซ้ำๆ เป็นอีกหนึ่งเพลงที่สะท้อนภาพการเติบโต ทว่าเป็นการเติบโตที่ดูจะไม่ค่อยสวยงามเท่าไรนัก
อย่างไรก็ตาม เพลงสุดท้ายของอัลบั้มนี้ นั่นคือ “วิธีไม่เสียใจ” ก็ดูเหมือนจะช่วยฉุดดึงอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยโทนที่สดใส ร่าเริง แม้จะอกหักก็ตาม โดยเลือกที่จะลุกขึ้นตั้งคำถามกับคำบอกเลิกสุดมักง่ายที่ว่าให้ลืมไป ทั้งที่คนที่ถูกทิ้งคงไม่ได้ลืมง่ายๆ เป็นการโต้กลับคนใจร้ายที่หักอกตัวเอง ด้วยการย้อนถามแบบกระแทกใจสุดๆ
บทสรุปสุดท้าย ที่แทนที่จะเป็นการเติบโตโดยปราศจากความหวังและความศรัทธาในความรัก แต่กลับปิดท้ายด้วยการลุกขึ้นตั้งคำถามกับฝ่ายที่ทอดทิ้งและหักอก ด้วยดนตรีที่สนุกสนาน สะท้อนให้เห็นถึงคุณสมบัติอย่างหนึ่งของความเป็นเด็ก คือความมีพลัง ความหวัง และการไม่ยอมจำนน ซึ่งแทรกซึมอยู่ในกระบวนการเติบโตของมนุษย์ จากเด็กสู่การเป็นผู้ใหญ่ และแม้ว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่การรักษาความเป็นเด็กในหัวใจ น่าจะช่วยให้การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
นี่คือสิ่งที่อัลบั้ม “28” บอกเรา
Photographer
