เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เว็บไซต์ tasteatlas.com ได้จัดทำ 100 อันดับเมนูอาหารสูตรดั้งเดิมที่ได้คะแนนในระดับที่เรียกว่า “ยอดแย่” ที่สุดในโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี ‘แกงส้ม’ เมนูอาหารยอดฮิตของไทยเข้าไปติดอยู่ในอันดับที่ 12 ของโลกในโผครั้งนี้อีกด้วย
จนทำให้เกิด #saveแกงส้ม ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เรียกได้ว่าเป็น Hashtag ที่รวมตัวคนรักอาหารไทยเลยก็ว่าได้ เพราะคนไทยยกให้ ‘แกงส้ม’ เป็น Top 10 เมนูอาหารยอดฮิต
จึงทำให้มีการถกเถียงกันว่าผู้จัดอันดับนั้นไปชิมเมนูนี้จากที่ไหนมา ใช่สูตรอาหารที่แท้จริงของไทยหรือเปล่า
ซึ่งเอาจริงๆ อันดับที่เราได้ก็ยังไม่ถือว่าไม่แย่ที่สุดในโลก เพราะยังมีคะแนนแย่กว่าเราร่วม 10 อันดับอยู่ด้านบนขึ้นไปอีก
อ่านเพิ่มเติม : ทำความรู้จัก ‘TasteAtlas’ ผู้นิยามตัวเองว่าเป็น ‘สารานุกรมของรสชาติ’
วันนี้ The Modernist เลยอยากจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 5 อันดับแรกของเมนูอาหารที่ถูกจัดว่าเป็นอาหารสูตรดั้งเดิมที่แย่ที่สุดในโลกกัน ว่าเป็นของประเทศอะไร ทำจากอะไร และทำไมมันถึงได้รับคำเยินยอให้ติดอันดับท็อปๆ ของโผในครั้งนี้
อันดับที่ 5 ‘Fried spider’
เมนูอาหารจากประเทศกัมพูชาที่ไม่ต้องสาธยายให้มากความ ก็คงจะเดาออกว่ามันคือเมนูอะไร
อาหารจานนี้เกิดจากเมืองสะควน ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘Spider Town’ หรือ ‘Spiderville’ ด้วยเหตุผลที่มีตัวบึ้ง หรือแมงมุมอาศัยอยู่จำนวนมาก และคนในท้องถิ่นต้องปรับตัวต่อการอดตาย จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาหันมาบริโภคแมงมุมในช่วงปี 1970 จนถึงปัจจุบัน
ผ่านการนำแมงมุมมาชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมกับสมุนไพรสดในท้องถิ่น โดยมักกินคู่กับข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว
ผู้คนที่เคยลิ้มลองมักบอกว่ารสชาติเหมือนปลาคอดผสมไก่ และควรกินส่วนขา แต่ไม่ควรกินส่วนลำตัว เพราะอาจมีอวัยวะและของเหลวภายในร่างกายออกมา
เมนูนี้ได้คะแนนรีวิวบน TasteAtlas ไป 2.1 คะแนนด้วยกัน โดยแบ่งเป็นคะแนนที่เอียงไปทางชื่นชอบเมนูนี้เพียง 24% ส่วนอีก 76% ที่เหลือถูกแบ่งครึ่งให้กับคะแนนรีวิวที่เฉยๆ และไม่ชอบเมนูนี้เอาเสียเลย
ซึ่งนอกจากเมนูนี้จะได้อันดับที่ 5 ของเมนูยอดแย่ติดอันดับโลก มันยังควบตำแหน่งอันดับที่ 1 ของเมนูที่ได้รับคะแนนโหวตบน TasteAtlas ว่าเป็นเมนูสตรีทฟู้ดยอดแย่ และเมนูของทอดแบบ deep-fried ยอดแย่ติดอันดับโลกด้วยเช่นกัน
อันดับที่ 4 ‘Anis de Flavigny’
เมนูจากประเทศฝรั่งเศส ที่จะเรียกว่าเมนูก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะมันคือลูกอมต่างหากล่ะ
ลูกอมชนิดนี้มาจาก Flavigny-sur-Ozerain ในแคว้นเบอร์กันดี ผ่านสูตรดั้งเดิมที่ผลิตกันมาตั้งแต่ปี 1591 โดยกรรมวิธีการผลิตลูกอมชนิดนี้เริ่มจากการนำเมล็ดโป๊ยกั๊กมาเคลือบด้วยส่วนผสมของน้ำตาล และน้ำบนกระทะ ใช้เวลาถึง 15 วันในการหมุนกระทะเพื่อเปลี่ยนเมล็ดเล็กๆ ให้กลายร่างเป็นลูกอมที่มีปริมาตร 1 กรัมเท่าๆ กัน และแต่งกลิ่นภายนอกเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับมัน
ลูกอมชนิดนี้ประกอบไปด้วย 10 รสชาติ ได้แก่ โป๊ยกั๊ก, แบล็กเคอแรนท์, มะนาว, ขิง, ส้มเขียวหวาน, มิ้นต์, ดอกส้ม, ชะเอมเทศ, ไวโอเล็ต, และกุหลาบ
ในส่วนของรสชาติ ตามแหล่งข้อมูลอ้างอิงไม่มีปรากฏแน่ชัด แต่เราลองอนุมานเอาว่า จริงๆ แล้วไม่น่าจะมีใครกินเมล็ดโป๊ยกั๊กเข้าไปทั้งเมล็ด อย่างมากก็เอาไปป่นผสมในอาหาร เครื่องดื่ม หรือทำเป็นยา หรือเอาไปต้มเพื่อกินกลิ่นและรสของมันที่อยู่ในน้ำ คงไม่ใช่การกินมันโดยมีลูกอมรสหวานๆ เคลือบอยู่เป็นแน่
เลยอาจจะเป็นที่มาให้คะแนนโหวตใน TasteAtlas ของเมนูนี้อยู่ที่ 2.0 คะแนนเท่านั้น
อันดับที่ 3 ‘Hákarl’
เมนูอาหารจากประเทศไอซ์แลนด์ ที่ทำจากเนื้อปลาฉลามที่ผ่านการหมักบ่มเป็นเวลานาน ครั้งแรกจะหมักเนื้อถึง 3 เดือน และจากนั้นจึงแขวนต่อให้แห้งอีกราว 4-5 เดือน รวมแล้วปาเข้าไปร่วมแปดเดือนถึงจะได้ลิ้มลองเมนูนี้
โดยเวลาจัดเสิร์ฟจะนำเนื้อปลามาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เสียบด้วยไม้จิ้มฟัน ก่อนจะกินคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดที่เรียกว่า ‘ปลิดวิญญาณ’ อย่าง Brennivin ด้วยความแรงของระดับแอลกอฮอล์กว่า 37.5% หรือ 40% เลยทีเดียว
Hákarl มีถึง 2 แบบ คือ Glerhákari ก็คือปลาชนิดเนื้อนุ่มสีแดง และ Skyrhákari ปลาชนิดเนื้อนุ่มสีขาว
เมนูนี้ถูกมองเป็นอาหารของ ‘ผู้กล้า’ เนื่องจากมีปริมาณแอมโมเนียสูง และมีรสคาวสูง มักทำให้ผู้ที่กินเข้าไปเกิดอาการอ้าปากค้าง บางครั้งคนที่กินมันเป็นครั้งแรกก็ควรบีบจมูกขณะกัดคำแรกเข้าไป เนื่องจากกลิ่นจะแรงกว่ารสชาติมาก
ด้วยความโจษจันของเมนูดังกล่าวตามที่เล่าไปในย่อหน้าข้างบน ทำให้เมนูนี้ได้คะแนนรีวิวบน TasteAtlas เพียง 1.9 คะแนน โดยเป็นคะแนนที่เทไปยังความเห็นที่ไม่ชอบเมนูนี้เลยแม้แต่น้อยเกินกว่า 50% ของคะแนนรีวิวทั้งหมด
ผู้คนทั่วทั้งโลกที่ให้คะแนนรีวิวอาหารเมนูนี้ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันในรสชาติอันยอดแย่ของมัน ถึงขนาดที่ว่าบนเว็บไซต์เดียวกันนั้น Hákarl ติดอันดับ 1 ของเมนูยอดแย่ในหลากหลายหมวดด้วยกัน
ไล่เรียงตั้งแต่เป็นอันดับ 1 ของเมนูทานเล่นยอดแย่ของโลก, อันดับ 1 ของเมนูอาหารทะเลยอดแย่ของโลก, อันดับ 1 ของอาหารจานปลายอดแย่ของโลก หรืออันดับ 1 ของเมนูปลาน้ำเค็มยอดแย่ของโลก
เรียกได้ว่าพ่อทุกสถาบันจริงๆ
อันดับที่ 2 ‘Pizza Cake’
เมนูอาหารจากประเทศแคนาดา มีส่วนประกอบของแผ่นแป้ง ซอสมะเขือเทศ เปปเปอโรนี และชีส ดูจากส่วนประกอบที่ว่ามาก็ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกแตกต่างจากพิซซ่าทั่วไปนัก
ที่มันแปลกมีอยู่อย่างเดียวเลย คือการที่มันนำพิซซ่าหลายๆ ชั้นมาซ้อนทับกันให้กลายเป็นรูปแบบของเค้กที่อบในหม้อหรือถาดเสียอย่างนั้น..!
เมนูนี้เกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อครั้งที่เครือร้าน ‘Boston Pizza’ ในแคนาดาจัดแคมเปญฉลองครบรอบ 50 ปี ที่มีชื่อว่า ‘Pizza Game Changers’ ที่เปิดให้ประชาชนมาลงคะแนนเสียงโหวตผลิตภัณฑ์จากไอเดียที่เกี่ยวข้องกับพิซซ่า
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตที่ปรับกระเป๋าหน้าอกให้กลายเป็นกระเป๋าใส่พิซซ่าขนาดสามเหลี่ยม, ลูกอมรสชาติพิซซ่าที่ถูกเคลือบด้วยมิ้นต์, ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศในรถกลิ่นพิซซ่า หรืออย่างพิซซ่าที่ถูกนำมาเรียงซ้อนกันให้กลายเป็นเค้กชิ้นนี้ ก็ถูกโหวตด้วยเช่นเดียวกัน
มันจึงกลายเป็นเมนู ‘พิซซ่า’ ภายในร้านนี้ที่ต้นตำรับอาจจะต้องกุมขมับ
จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เมนูนี้ถูกผู้คนรีวิวไปด้วยคะแนนเพียง 1.9 คะแนนเท่านั้น โดยคะแนนค่อนข้างเอียงไปทางเฉยๆ ไม่สนใจเมนูนี้ และไม่ชอบเมนูนี้ ซึ่งถ้าเราดูรูปเมนูนี้แล้ว จากไอเดียความสร้างสรรค์ของร้านพิซซ่าก็ต้องบอกว่าช่างคิด แต่เอาเวลาไปคิดเมนูอย่างอื่นที่ดีกว่าก็อาจจะเป็นทางออกที่ดี
หนำซ้ำเมนูนี้ยังติดอันดับ 1 ของเมนูพิซซ่าที่ยอดแย่ที่สุดในโลกของ TasteAtlas ด้วยเช่นกัน
อันดับที่ 1 ‘Indigirka Salad’
เมนูสลัดจากประเทศรัสเซีย ที่มีต้นกำเนิดมาจากสาธารณรัฐซาฮา ทำจากปลาเนื้อขาวจำพวก Nelma หรือ Muksun ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่กระจายอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรอาร์กติก ซึ่งก่อนจะนำมาประกอบเป็นเมนูนี้ ปลาเหล่านี้จะถูกแช่แข็งจนเย็นจัด จากนั้นจึงนำมาหั่นเป็นลูกเต๋าผสมกับหัวหอม เกลือ พริกไทย และน้ำมัน
ถ้าสมัยใหม่ขึ้นก็จะมีการใส่พวกไข่ปลา ยี่หร่า หรือน้ำสลัดต่างๆ เพิ่มเติมลงไป เมนูนี้ถือเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของคนที่นี่เลยก็ว่าได้
หากใครนึกไม่ออก มันค่อนข้างคล้ายคลึงกับเมนู ‘สเต็กทาร์ทาร์’ ของฝรั่งเศส คือการนำเนื้อสัตว์ดิบมาผสมนู่นผสมนี่ และกินมันทั้งดิบๆ นี่แหละ
เมนูนี้ได้รับคะแนนรวมโดยเฉลี่ยบนเว็บไซต์ TasteAtlas เมื่อวันเก็บสำรวจช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 1.4 คะแนน ซึ่งมีคะแนนรีวิวค่อนไปทางเฉยๆ และไม่ชอบในเมนูนี้
ในทางหนึ่งการกินของดิบเฉยๆ อาจจะไม่ได้แปลกแตกต่างอะไร แต่พอเนื้อสัตว์นั้นกลายเป็นน้ำแข็ง คนที่ไม่คุ้นชินก็คงปรับตัวตามความอร่อยไม่ทันเหมือนกัน จึงได้เป็นเมนูดั้งเดิมยอดแย่ติดอันดับโลกในครั้งนี้ไป
ที่แย่ไปกว่านั้น เมนู ‘Indigirka Salad’ ยังติดอันดับ 1 ในหมวดเมนูเรียกน้ำย่อยยอดแย่ของโลก และอันดับ 1 ในหมวดเมนูสลัดยอดแย่ของโลกตอนนี้อีกด้วย
เมนูแกงส้มบ้านเราติดอันดับที่ 12 ยังช่วย #saveแกงส้ม กันจะแย่ แล้วชาวพื้นเมืองที่หลงไหลในการกินเมนูนี้เขาจะต้องช่วย save เมนูนี้ขนาดไหนกันเชียว
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับ 5 อันดับแรกของเมนูที่ TasteAtlas จัดว่าเป็นอาหารที่แย่ที่สุดในโลก คุณมองว่าอาหารทั้งหมดที่กล่าวมาสมควรที่จะถูกจัดอันดับตามนี้หรือไม่ หรือหากคุณมีโอกาสได้ลิ้มลองสักเมนูหนึ่ง คุณอยากลองเมนูไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า
ทั้งนี้ทั้งนั่นไม่ว่าจะเป็นอาหารจากประเทศใด หรือทำมาจากอะไร อาหารของแต่ละพื้นที่ต้องมีที่มา เหมาะสมกับสภาพอากาศ ความเป็นอยู่ และได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งทำให้อาหารทุกชนิดบนโลกล้วนมีคุณค่าในแบบของมันเอง ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม
อ้างอิง : pmq.com , tasteatlas.com
Content Creator
ผโลทัย ชูศรี
