fbpx

“รักร่วมเพศอย่าทำตัวน่ารังเกียจในที่สาธารณะ” เอธิโอเปียออกกฎเร่งปราบปราม LGBTQ+

ในประเทศเอธิโอเปีย การกระทำที่ถูกเรียกว่า ‘รักร่วมเพศ’ มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี ประเทศแถบแอฟริกาตะวันออกที่มีประชากรรวมแล้วกว่า 120 คน ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักมีความคิดแบบอนุรักษนิยม ต่อต้านความหลากหลายทางเพศ รวมถึงต่อต้านผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมบ่อยครั้ง ขณะที่นักเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมทางเพศในแอฟริกาก็พยายามขับเคลื่อนประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง

ทว่าการผลักดันประเด็นของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในเอธิโอเปียดูจะยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สำนักงานการท่องเที่ยวแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย โพสต์แถลงการณ์หนึ่งฉบับบนเฟซบุ๊กว่า โรงแรมและผับบาร์ในเมืองจะไม่อนุญาตให้ผู้เข้าพักมีกิจกรรมรักร่วมเพศในพื้นที่โดยเด็ดขาด หากใครพบเห็นการกระทำดังกล่าว สามารถไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดทันทีเพื่อแจ้งความ

ประเด็นของเรื่องนี้ที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกไม่ได้มีเพียงแค่ข้อห้ามที่ต่อต้าน LGBTQIA+ เท่านั้น แต่ในแถลงการณ์ยังมีถ้อยคำว่า ‘การกระทำอันน่าขยะแขยงซึ่งเป็นที่ถูกเกลียดชังทั้งจากมนุษย์และพระเจ้า’ ไปจนถึงการระบุว่าหากพบเห็นจะมีการแจ้งความดำเนินคดีทันที และขอให้ผู้ใช้บริการ ‘มีความเห็นอกเห็นใจ’ ต่อโรงแรมและสถานบริการที่ท่านเข้าใช้บริการด้วย

หลังจากสำนักงานการท่องเที่ยวแอดดิสอาบาบาออกแถลงการณ์ได้ไม่นาน กรมตำรวจเอธิโอเปียได้เปิดสายด่วนเพื่อบริการการรายงานเรื่อง ‘กิจกรรมที่เบี่ยงเบนค่านิยมทางสังคมและผิดกฎหมาย’ ขึ้นมาเพื่อทำงานสอดคล้องกับหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะ

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่ผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างมาก เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าแทนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานรัฐจะดำเนินงานเพื่อบริการหรือปกป้องประชาชน แต่กลับใช้เวลาที่มีในการปราบปราม ผลักคนบางกลุ่มให้กลายเป็นคนชายขอบ และเสริมสร้างความเกลียดชังหมู่ประชาชน ไปจนถึงกรณีที่ว่าตอนนี้มีข้อความและคลิปวิดีโอที่สร้างความเกลียดชังจำนวนมาก แต่เจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์ไปจนถึงตำรวจ กลับนิ่งดูดายและไม่ทำอะไรเลย

ชุมชน LGBTQIA+ ในเอธิโอเปีย พยายามแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายที่เหยียดเพศของรัฐ และต่อต้านการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ ปล่อยให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศเผชิญกับการถูกละเมิดทางออนไลน์โดยไม่ทำอะไร โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ที่มีการโพสต์คลิปวิดีโอล่าแม่มด ขู่ทำร้ายผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งความเกลียดชังและการคุกคามทางออนไลน์อาจนำไปสู่ความรุนแรงในชีวิตจริงได้

เนื้อหาที่ว่ามีทั้งการเผยให้เห็นว่าศิษยาภิบาลหรือผู้ปกครองในคริสตจักรโปรเตสแตนต์ ถ่ายคลิปเรียกร้องให้คนที่เป็นเกย์ต้องถูกทำโทษ ด้วยการจับเปลื้องผ้าแล้วเฆี่ยนตีต่อหน้าสาธารณะ หรือคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเอธิโอเปีย รณรงค์ให้ผู้คนตามล่าคนที่เป็นเกย์แล้วฆ่าทิ้งให้หมดด้วยวิธีใดก็ได้ จะเอามีดแทงท้ายทอย หรือทุบตีจนตายก็ได้ทั้งนั้น

นักเรียนคนหนึ่งในแอดดิสอาบาบาที่ไม่ได้ปกปิดว่าตนเป็น LGBTQIA+ ระบุว่าเขาเล่น TikTok ตามปกติ แล้วมีกลุ่มคนมาคอมเมนต์โจมตีในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่เขาไม่ได้ตอบกลับคอมเมนต์เหล่านั้น หลังจากนั้นไม่นาน พอเริ่มโพสต์คลิปออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน นักเรียนคนดังกล่าวถูกเพื่อนร่วมโรงเรียนดักทุบตีจนแก้มร้าว และตอนนี้เขาก็ไม่รู้สึกว่าที่ไหนจะปลอดภัยอีกเลย ทั้งชุมชนแถวบ้าน หรือโรงเรียนที่ตัวเองเรียนอยู่

สำนักข่าวต่างประเทศหลายเจ้าระบุตรงกันว่า เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมจำนวนมากบนโลกออนไลน์ที่มีทั้งข่มขู่ คุกคาม หรือนัดรวมตัวกันทำร้ายร่างกายผู้มีความหลากหลายทางเพศ สร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้คนอย่างมาก จนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนที่พอมีทุนทรัพย์เลือกเดินทางออกนอกประเทศ แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีเงินทองมากพอ ไม่ได้มีคอนเนกชันหรือมีเส้นทางชีวิตที่เลือกได้มากนัก พวกเขาต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ ปกปิดตัวตนเหมือนย้อนกลับไปยัง 50-70 ปีก่อน ที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่สามารถเปิดเผยตัวตน ไม่สามารถมีความภูมิใจในอัตลักษณ์ของตัวเองได้เลย

องค์กร House of Guramayle ในเอธิโอเปีย ที่สนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ ยืนยันว่าได้ส่งเรื่องการพบคลิปเหยียดเพศไปยัง TikTok มาพักใหญ่แล้ว แต่ก็ทำได้แค่รอว่าเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่แพลตฟอร์มจะดำเนินการ และเมื่อเกิดกรณีคล้ายกันขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ควบคู่กับการเรียกร้องที่ดังขึ้นทำให้ เบ็น ราเทอร์ (Ben Rathe) โฆษกของ TikTok ออกมาแถลงการณ์ว่าได้ลบเนื้อหาที่ถูกร้องเรียน และแบนบัญชีที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนไปแล้ว

ปัญหาเรื่องการต่อต้านผู้มีความหลากหลายทางเพศในแอฟริกายังคงมีให้เห็นเสมอ ซ้ำร้ายดูเหมือนจะยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้โลกจะเข้าสู่ปี 2023 ที่ผู้คนในหลายประเทศจะพยายามผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ ผลักดันเรื่องสมรสเท่าเทียมหรือเรียกร้องสิทธิที่พวกเขาพึงได้รับตั้งแต่แรก แต่ประเด็นละเอียดอ่อนอย่างวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมานาน ความเชื่อส่วนบุคคล หรือความเชื่อทางศาสนา ก็อาจทำให้การใช้ชีวิตของ LGBTQIA+ ไม่ได้ง่ายดายขึ้นกว่าเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก

ที่มา apnews / thepinknews / reuters / washingtonblade

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า