fbpx

BORN PINK ENCORE BKK การกลับมาอีกครั้งของ ‘BLACKPINK’ ที่เติมเต็มความรู้สึกให้บลิ๊งค์ได้เสมอ

จาก BORN PINK สู่  BORN PINK ENCORE BANGKOK

        ไม่นานหลัง BLACKPINK ปล่อยอัลบั้ม BORN PINK ในปี 2022 พร้อมกับลิสต์การสร้างสถิติและความสำเร็จที่ยาวเป็นหางว่าว พวกเธอได้ประกาศคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ครั้ง 2 อย่าง BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] กวาดคำวิจารณ์ที่ดีจากสื่อมวลชนที่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตและผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในทวีปยุโรป เพราะพวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่มียอดผู้เข้าชมคอนเสิร์ตมากที่สุดในยุโรปรวมแล้วกว่า 1.6 แสนคน

        ปี 2023 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ BLACKPINK ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เวิลด์ทัวร์ครั้งนี้ยังสร้างสถิติใหม่ด้วยการมียอดจำหน่ายบัตรเข้าชมทั่วโลกรวมด้วยมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.4 พันล้านบาท)

        หากนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทัวร์จนถึงตอนนี้ BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] มียอดจำหน่ายบัตรมากกว่า 1.2 ล้านใบ จากการแสดงกว่า 50 รอบ และยังคงสร้างสถิติต่อไปเรื่อยๆ เนื่องจากการเวิลด์ทัวร์ยังไม่จบลง 

        ส่วนประเทศไทยซึ่งเป็นที่แรกของการทัวร์ในเอเชีย (ไม่นับรวมเกาหลีใต้ที่มักจะเป็นจุดสตาร์ทของศิลปิน K-Pop) ในวันที่ 7-8 มกราคม 2023 ที่สนามศุภชลาศัย ก็เผยให้เห็นว่าความนิยมของ BLACKPINK ในไทยยังคงล้นหลามเหมือนเคย เพราะบัตรคอนเสิร์ตทั้ง 2 วัน ถูกจำหน่ายหมดไปอย่างรวดเร็ว และมีผู้พบเห็นว่าบัตรคอนเสิร์ตถูกกดไปขายต่อด้วยราคาสูงจนน่าตกใจ 

        หากจะถามความทรงจำที่ยังติดตาตรึงใจต่อคอนเสิร์ตครั้งแรก คงหนีไม่พ้นจำนวนผู้คนในโซนบัตรยืน เพราะถึงทุกคนจะรู้ว่าบัตรนั่งถูกขายจนหมดตั้งแต่แรก ทว่าบัตรยืนยังกลับยังไม่ขึ้น Sold Out สักที จึงทำให้ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะมีผู้คนมากแค่ไหน กระทั่งได้เห็นภาพมุมสูง ถึงได้รู้ว่าประชากรบลิ๊งค์ในโซนบัตรยืนมีจำนวนมหาศาล เพราะคอนเสิร์ตวันแรกมีประชากรบลิ๊งค์อยู่ในโซนบัตรยืนราว 4 หมื่นคน ส่วนวันที่ 2 อาจแตะหลัก 5 หมื่นคน

        เมื่อคอนเสิร์ตในไทยจบลง พวกเธอเดินหน้าเวิลด์ทัวร์ต่อ ท่ามกลางข่าวลือในหมู่บลิ๊งค์ไทยที่คาดเดาว่า BLACKPINK จะจัดคอนเสิร์ต Encore ที่ไหนบ้าง บางเสียงเชื่อว่าพวกเธอจะกลับมาไทยอีกครั้งด้วยเหตุผลหลากหลาย เช่น ผลตอบรับเต็มเปี่ยมจากครั้งแรกที่ทำให้บัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยง เหตุผลที่ว่าไทยคือบ้านเกิดของลิซ่า หรือแม้กระทั่งสมมติฐานว่าคราวก่อน BLACKPINK ยังไม่ได้จัดคอนเสิร์ตที่ราชมังคลากีฬาสถานตามที่ตั้งใจไว้

        และแล้วสมมติฐานนี้ก็เป็นจริง เมื่อข่าวการประกาศจัดคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] ENCORE BANGKOK ในวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2023 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของ BLACKPINK 

        เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน บลิ๊งค์ไทยก็จะได้หายคิดถึงและเจอกับทั้ง 4 คนอีกครั้ง 

เมื่อได้พบกับ BLACKPINK และ BLINK จีน (not all)

– BLINK จีน (not all)

        เมื่อบทความนี้คือการรีวิวคอนเสิร์ต จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราซึ่งเป็นผู้เขียนจะไม่ใส่ความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้สัมผัสมา 

        ก่อนเริ่มคอนเสิร์ต เรามีโอกาสได้พูดคุยกับบลิ๊งค์ไทยบางส่วนที่กระจายตัวอยู่รอบๆ สเตเดียม ซึ่งส่วนใหญ่ยิ้มแย้ม เป็นมิตร พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยน ตอบคำถามคาใจ จนอนุมานได้ไม่ยากเลยว่าทุกคนมีความสุข แม้สภาพอากาศในวันที่มีการแสดงจะร้อนจัด อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกอิ่มเอมจากการได้พูดคุยกับคนคอเดียวกันของเราเริ่มจางลงเมื่อก้าวสู่พื้นที่ B8 โซนที่นั่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเวทีมากนัก 

        ที่นั่งแทบทั้งแถบเต็มไปด้วยบลิ๊งค์ต่างชาติ เมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้น บลิ๊งค์ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันต่างพากันลุกขึ้นยืนทั้งที่บัตรในครั้งนี้เป็นบัตรนั่งทั้งหมด ในเมื่อบัตรด้านล่างไม่ได้จัดที่นั่งแบบลาดลง หากมีคนใดคนหนึ่งลุกขึ้นยืน คนข้างหลังจะโดนบังและมองไม่เห็นเวที ทุกคนที่อยากจะเห็น BLACKPINK จึงต้องลุกขึ้นยืนอย่างช่วยไม่ได้ มิหนำซ้ำ ผู้คนจำนวนมากที่ลุกยืนเหมือนจะยังไม่พอใจ จึงเริ่มปีนขึ้นเก้าอี้เพื่อจะเห็นเวทีให้ได้มากที่สุด พร้อมกับชูโทรศัพท์สูงเหนือหัว ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนอื่นๆ ที่ไม่ได้อยากยืนหรือปีนเก้าอี้ตามคนเหล่านี้ 

        เมื่อการแสดงเบรคแรกผ่านไป ผู้คนเริ่มกลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง แต่ก็ยังคงมีบลิ๊งค์ชาวจีนอีกจำนวนมากที่ยังคงยืนบนเก้าอี้ ถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะถ่ายได้ ท่ามกลางเสียงก่นด่าของคนด้านหลัง ในวินาทีนั้น เสมือนว่าเราไม่ได้กำลังนั่งดูคอนเสิร์ตอยู่ไทย แต่บินไปดูคอนเสิร์ตที่จีน แล้วเห็นคนจีนกำลังตะโกนด่าทอใส่กัน 

        บางเสียงก็ค้านว่าที่ต้องยืนไม่ใช่แค่เพราะมีคนเริ่มยืนเท่านั้น แต่เวทีที่เหล่าแฟนคลับรู้สึกว่ายังยกสูงไม่พอ ทำให้บัตรที่นั่งราคาแพงไม่สามารถมองเห็นเวทีได้ชัดเจน เพราะจะเห็นแต่ศีรษะของคนข้างหน้า แต่ความคิดเห็นส่วนใหญ่ไม่ได้มองเรื่องดังกล่าวเป็นหลัก และตำหนิไปยังการกระทำไม่เข้าท่าของบลิ๊งค์เสียมากกว่า

        อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานที่ที่ใหญ่กว่าเดิมมาก จากการจัดคอนเสิร์ตในอิมแพคอารีน่า มาสู่สนามศุภชลาศัย จนในครั้งนี้คือราชมังคลากีฬาสถาน ท่ามกลางบลิ๊งค์หลายหมื่นคน ปย๊งบง (แท่งไฟรูปค้อนประจำด้อม) ที่ถูกชูจนสุดแขน และสิ่งสำคัญคือ BLACKPINK ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ความรู้สึกแย่ๆ จากแฟนคลับแค่ไม่กี่กลุ่มดีขึ้นทันตา  

– BLACKPINK

        แม้ต้องเจอสภาพอากาศร้อนจัด แฟนอินเตอร์ชวนขมวดคิ้ว แต่ความตั้งใจของทุกคนที่เดินทางมายังพื้นที่แห่งนี้คือการได้ดูการแสดงดีๆ ของ BLACKPINK ที่ไม่ว่ากี่ครั้งพวกเธอก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ซึ่งการเจอกันครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการปลอบใจแฟนคลับที่เจอเรื่องราวแปลกๆ ในคอนเสิร์ตแบบไม่ได้ตั้งใจก็ว่าได้

        สำหรับมุมมองที่มีต่อ BLACKPINK พวกเธอยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเคย พลังงานเหลือล้นของลิซ่า โซโล่สเตจที่ดูไม่เคยเบื่อของเจนนี่ ความออดอ้อนและขยันพูดภาษาไทยทุกครั้งที่มีโอกาสของจีซูกับโรเซ่ รวมถึงสลับสับเปลี่ยนลิสต์เพลง เปลี่ยน performance บางอย่างให้แตกต่างไปจากคอนเสิร์ตเมื่อต้นปี 

        ดนตรีสด ซาวด์เอฟเฟกต์ พลุ แสงเลเซอร์ เปลวไฟ หมอกควัน กับเสียงดนตรีบีทหนักๆ ที่ได้ยินไปทั่วแม้สนามกีฬาจะกว้างมากก็ตาม ทั้งหมดโหมบรรยากาศสนุกสนานให้ทั้งศิลปินและแฟนคลับ และส่งให้ BLACKPINK ได้โชว์สิ่งที่พวกเธอตั้งใจเตรียมมาให้กับบลิ๊งค์ไทยเต็มที่ โดยเฉพาะกับเพลง DDU DU DDU DU (Remix) ที่เพิ่มมาในช่วง ENCORE เปลี่ยนคอนเสิร์ตเกิร์ลกรุ๊ปให้กลายเป็นคอนเสิร์ต EDM แบบไม่ทันรู้ตัว

        ในคอนเสิร์ต BORN PINK ครั้งก่อน เรารู้สึกชอบช่วงโซโล่ของทุกคนมากที่สุด และครั้งนี้กับ BORN PINK ENCORE ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม เราเกิดความสงสัยเล็กๆ ว่าการแสดงของพวกเธอจะเปลี่ยนไปจากเดิมไหม จนได้เห็นกับตาว่าจากที่โรเซ่เคยร้องเพลง Hard to Love กับ On the Ground ก็เปลี่ยนเป็นการนั่งร้องเพลง Gone แล้วค่อยตามด้วย On the Ground ส่วนเจนนี่มาพร้อมกับเพลง You and Me ที่เพิ่มไลน์เต้นให้หนักแน่นกว่าเดิม 

        ลิซ่าได้เปลี่ยนจากการแสดงสองเพลงอย่าง LALISA กับ MONEY เป็น MONEY อย่างเดียว แต่มีช่วงเบรกแดนซ์ที่เรียกเสียงเชียร์ได้ลั่นสนาม และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือคอนเสิร์ตก่อนเราได้เห็นจีซูแสดงเพลง Lair (Cover Version) คราวนี้บลิ๊งค์ไทยได้เห็นเธอแสดงเพลง FLOWER ที่เป็นเพลงโซโล่เดบิวต์ของตัวเองแล้ว 

        ช่วงโซโล่ที่ได้เห็นเป็นเพลย์ลิสต์ที่บลิ๊งค์จำนวนมากต่างคุ้นตา เพราะเป็นลิสต์จากเวที Coachella 2023 ที่ BLACKPINK ได้ขึ้นแสดงในฐานะ Main Stage (Coachella Stage) ซึ่งถือเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ได้เป็น Headliner ของงาน 

        ในช่วงพูดคุย ลิซ่าเล่าประสบการณ์ก่อนเป็นศิลปินว่าตัวเธอเองก็เคยมาดูคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ 1-2 ครั้ง เธอรู้ว่าการเดินทางมายังสนามกีฬาแห่งนี้มันยากลำบากมากๆ ทั้งอากาศร้อนจัด ปัญหาเรื่องที่จอดรถ จึงต้องขอบคุณบลิ๊งค์ทุกคนมากๆ ที่แม้จะเจอปัญหาหลายอย่าง แต่ก็ยังเดินทางมาดูพวกเธอ มาสร้างความทรงจำร่วมกันในสเตเดียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และคนที่ทำให้พวกเธอมายืนอยู่ตรงนี้ได้ก็คือบลิ๊งค์ทุกคน 

        ความลังเลตอนแรกว่าจะเบื่อไหมกับการดูคอนเสิร์ตศิลปินวงเดิมในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงไม่กี่เดือน ถูกลบทิ้งเมื่อเราเห็น BLACKPINK อีกครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นแม้หลายคนจะมองว่าไม่คุ้มค่า บางคอมเมนต์ถึงขั้นบอกว่าแม้จะเป็นคอนเสิร์ต Encore แต่สุดท้ายความแตกต่างแบบไม่มากนักก็เท่ากับการดูคอนเสิร์ตเดิม 4 วัน แต่ในมุมมองของบลิ๊งค์หลายคน ก็คงเปรียบเสมือนคนดูหนังที่มีภาพยนตร์เรื่องโปรดที่ดูได้ซ้ำๆ แบบไม่มีเบื่อ 

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า