fbpx

‘D2B’ บอยแบนด์ไทยที่ใช้เทคโนโลยีหลีกหนีความเป็นจริง

ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยินการใช้ ‘เทคโนโลยี’ ในการพาคนที่รักให้กลับมาเสมือนว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลา และข้อมูลเก่าที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมให้เทคโนโลยีได้เรียนรู้ ก่อนที่มันจะสร้างห้วงเวลาพิเศษที่คน ๆ นั้นจะกลับมาได้อีกครั้ง

ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของการนำคนที่ทุกคนรักให้กลับมาเสมือนมีชีวิตได้อีกครั้ง คือการนำ ‘บิ๊ก’ หนึ่งในนักร้องบอยแบนด์ชาย ‘D2B’ ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในยุค พ.ศ. 2544-2546 ก่อนที่ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ .2546 บิ๊กจะประสบอุบัติเหตุ และอาการทรุดลงเป็นเจ้าชายนิทรา จนเขาเสียชีวิตลงใน พ.ศ. 2550

หลังจากนั้นไม่นานนัก ‘บิ๊ก’ ก็ได้มีโอกาสกลับมาโลดแล่นอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตหลายครั้ง ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยต่อการทำโชว์พิเศษ เพื่อสานฝันให้คนดูได้เห็นพวกเขาทั้งสามคนกลับมายืนด้วยกันอีกครั้ง

เราเลยขอพาคุณไปดูว่าที่ผ่านมาแต่ละยุคสมัย การกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของ ‘D2B’ นั้น RS ใช้เทคโนโลยีอะไรในการฟื้นคืนชีพ ‘บิ๊ก’ ให้กลับมาสร้างความสุขกับคนดูได้เหมือนเดิม

ทำความรู้จักความดังของ ‘D2B’ โดยสังเขป

‘D2B’ คือวงบอยแบนด์ไทยสังกัดค่าย RS ที่เกิดจากการนำเด็กฝึก 3 คน มารวมตัวกัน เพื่อตั้งเป้าให้เป็น ‘N Sync ของเมืองไทย (‘N Sync คือเป็นบอยแบนด์สัญชาติอเมริกัน ที่ออกเพลงแนวทีนป็อป ผสมกับการเต้นที่เป็นเอกลักษณ์) ซึ่งประกอบด้วย ‘แดน-วรเวช ดานุวงศ์’ ‘บิ๊ก-ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ’ และ ‘บีม-กวี ตันจรารักษ์’

อัลบั้มแรกของ D2B ในชื่อเดียวกันกับวง เผยแพร่ครั้งแรก พ.ศ. 2544

พวกเขาออกอัลบั้มแรกเมื่อช่วงปลาย พ.ศ. 2544 ในชื่อ ‘D2B’ มีเพลงดัง ๆ อย่าง ‘ต่อหน้าฉัน (เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร)’ หรือ ‘ซ่าส์ (สั่นๆ)’ ซึ่งนอกจากตัวเพลงจะได้รับความนิยม กระแสแฟนคลับของตัวศิลปินก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเหนียวแน่นจนน่าตกใจ

อาจเพราะเป็นยุคเดียวกันกับกระแสฟีเวอร์ของ ‘F4’ หรือละครชุด ‘รักใสใส หัวใจสี่ดวง’ ของไต้หวันที่นำมาฉายในไทยทางช่อง 3 เมื่อราว ๆ ปี พ.ศ. 2544-2545 ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมป็อปของศิลปินชายในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี

‘D2B’ ดังเป็นพลุแตกจากบุคลิกที่แตกต่างกันของทั้ง 3 คน ความหล่อ บุคลิกที่เท่ น่ารัก ทั้งหมดล้วนทำให้แฟน ๆ ต่างตกหลุมรัก และติดตามพวกเขาอย่างเหนียวแน่นอยู่เสมอ

อัลบั้มที่สองของ D2B ในชื่อ ‘Type II’ เผยแพร่ครั้งแรก พ.ศ. 2546

จนใน พ.ศ. 2546 หลังจากการปล่อยอัลบั้มเต็มที่ 2 ‘Type II’ ในเดือนมีนาคม ถัดมาอีกราว 4 เดือนหลังจากนั้น ‘บิ๊ก’ ประสบอุบัติเหตุจากการขับรถยนต์ส่วนตัวตกคูน้ำ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 บิ๊กสำลักน้ำ มีอาการน้ำท่วมปอด และถูกนำส่งโรงพยาบาล 9 วันถัดมา บิ๊กฟื้นตัวเร็วตามลำดับจนรู้สึกตัวและทักทายทุกคนได้

ทว่าหลังจากนั้น จากการตรวจพบฝีในสมองของบิ๊ก พบว่าเป็นเชื้อรา Pseudallescheria boydii ที่เข้ากระแสเลือดผ่านปอด และเข้าไปกัดกินเส้นเลือดในสมอง จนสมองซีกขวาถูกทำลายเกือบหมด ส่วนสมองซีกซ้ายค่อยๆ ถูกทำลายลง จนทำให้บิ๊กอาการทรง ๆ และทรุดลงอีกครั้ง

จนใน พ.ศ. 2548 บิ๊กกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เพราะสมองส่วนสำคัญและก้านสมองถูกเชื้อราทำลาย แต่ระบบประสาทพื้นฐานของการดำรงชีวิตยังคงทำงานอยู่ และสุดท้ายช่วง พ.ศ. 2550 บิ๊กมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงในปอด ก่อนจะลุกลามเข้ากระแสเลือด และเสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ทางฝั่งของแดน และบีมก็ยังคงทำงานด้วยกันอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่บิ๊กประสบอุบัติเหตุ จนกระทั่งบิ๊กเสียชีวิต โดยมีทั้งการปรับเป็นผลงานเดี่ยว ผลงานคู่ หรือออกเทปในนาม D2B อย่างเดิมเพื่อเป็นการให้กำลังใจแด่บิ๊ก และมอบรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวของบิ๊กอีกด้วย

ซึ่งหลังจากบิ๊กเสียชีวิตลง ก็ถือเป็นการปิดตำนานบอยแบนด์ที่มีอายุเต็ม ๆ เพียง 2 ปี แต่ได้สร้างความทรงจำ และผลงานดี ๆ ให้กับแฟนเพลงอีกมากมาย

ครั้งแรกของการฟื้นคืนชีพ ‘บิ๊ก’ ให้โลดแล่นในนาม ‘D2B’ ได้อีกครั้ง

หลังจากการยุบวงอย่างเป็นทางการ แดนกับบีมก็ยังคงมีผลงานอยู่เสมอ ทั้งผลงานเพลง ละคร ซีรีส์ หรือแม้กระทั่งพิธีกร ซึ่งระหว่างทางก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ ที่อยากให้พวกเขามีคอนเสิร์ตร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง

จนใน พ.ศ. 2557 RS จึงรวมตัวพวกเขาอีกครั้งในนาม D2B ดังเดิม บนเวทีคอนเสิร์ต ‘คิดถึง D2B LIVE CONCERT 2014’ ที่ในวันแถลงข่าวบีมได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “หลายคนถามว่าบิ๊กจะกลับมาไหม ผมคิดว่าดีทูบีเกิดจากเราสามคนก็คือบิ๊ก แดน บีม ถ้าเกิดไม่มีบิ๊กก็คงไม่มีเรา ก็คงจะได้เห็นบิ๊กในคอนเสิร์ตครั้งนี้ แต่จะมาในรูปแบบไหนอยากจะให้ติดตามกันในคอนเสิร์ตครับ”

ภาพ 3D Hologram ของบิ๊ก บนเวที ‘คิดถึง D2B LIVE CONCERT 2014’ ในเพลง ‘คนใจอ่อน (อ่อนใจ)’

จนเมื่อเราได้เห็นกันจริง ๆ ก็พบว่าบิ๊กกลับมาผ่าน ‘3D Hologram’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการฮอโลกราฟี (Holography) โดยเป็นภาพ 3 มิติ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการบันทึกข้อมูลด้วยแสงเลเซอร์ โดยบันทึกริ้วรอยของการแทรกสอด (Interference Pattern) ของแสงเลเซอร์ ทำให้เราสามารถมองเห็นภาพเป็นลักษณะ 3 มิติ แตกต่างจากภาพทั่วไปซึ่งเราจะมองเป็นเพียงภาพสองมิติ ที่ไม่มีความลึกทางมิติของภาพ เป็นภาพแบน ๆ เรียบ ๆ ทำให้ภาพนั้นดูสวยงามมากขึ้น

โชว์เพลง ‘ซ่าส์…(สั่นๆ)’ พร้อมกับภาพ 3D Hologram ของบิ๊ก

ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็ถูกใช้ในหลายคอนเสิร์ตที่ต้องการจำลองภาพ 3 มิติ เสมือนคน ๆ นั้นมาอยู่บนเวทีจริง ๆ อย่างเช่น Michael Jackson หรือการนำตัวละคร Hatsune Miku มาขึ้นเวทีก็ใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน

ครั้งที่สองของการฟื้นคืนชีพ ‘บิ๊ก’ ให้โลดแล่นในนาม ‘D2B’ แบบชัดเต็มตาขึ้น

ภายหลังคอนเสิร์ตรียูเนี่ยนครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2557 ก็มีคอนเสิร์ต Encore อีกครั้งในปี พ.ศ. 2558 ที่ใช้วิธี 3D Hologram ฟื้นคืนชีพบิ๊กเช่นเดียวกัน

ภาพเคลื่อนไหว ของบิ๊ก บนเวที ‘D2B INFINITY CONCERT 2019’

ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในปี 2019 และ 2020 ในคอนเสิร์ต ‘D2B INFINITY CONCERT 2019’ และ ‘D2B Infinity Fun+ 2020’ ที่ ‘บิ๊ก’ ในเวอร์ชั่นภาพเคลื่อนไหวบนจอ LED ได้มีส่วนร่วมในโชว์มากขึ้นกว่าโชว์เดิมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผ่านการจัดวางบิ๊กในระดับเดียวกันกับแดน และบีม เพื่อให้เสมือนกับว่าทั้ง 3 คนได้มาร่วมเต้นไปด้วยกันจริง ๆ

ภาพเคลื่อนไหว ของบิ๊ก บนเวที ‘D2B Infinity Fun+ 2020’

ซึ่งนอกจากการจำลองบิ๊กในเวอร์ชั่นภาพเคลื่อนไหวบนจอ ก็ยังคงมีบิ๊กในเวอร์ชั่น 3D Hologram ที่ได้ภาพชัดเจนยิ่งกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งดูเนียนตา และเสมือนกับว่าพวกเขาเอาบิ๊กกลับมาให้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งได้จริง ๆ

อีกทั้งยังมีเพลงพิเศษสำหรับคอนเสิร์ต ที่เอาเสียงของบิ๊กที่มีอยู่มาสังเคราะห์ให้กลายเป็นเพลงใหม่ล่าสุดจากพวกเขาในชื่อ ‘ยังคิดถึงกัน (หรือเปล่า)’ ซึ่งหากฟังเผิน ๆ เราอาจจะนึกว่าบิ๊กยังอยู่เลยก็ได้ ลองไปฟังเพลงนี้ได้ด้านล่างนี้เลย

ครั้งล่าสุดของการฟื้นคืนชีพ ‘บิ๊ก’ ที่โฆษณาว่า ‘สมบูรณ์กว่าเดิมที่เคยมีมา’

และนี่คือคลิปที่ทำให้เราต้องเขียนเรื่องนี้ออกมา

ทีเซอร์ ‘D2B ETERNITY CONCERT’ ได้เปิดเผยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการฟื้นคืนชีพบิ๊กให้สมจริงมากขึ้น อย่างการใช้ ‘Deepfake’ ที่เป็นการเอารูปหน้าคนหนึ่ง ไปใส่แทนที่ใบหน้าของอีกคนหนึ่งแทน ที่ถึงแม้จะไม่เนียนมากสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเพียงแค่ทีเซอร์ตัวนี้ปล่อยออกมา มันก็ได้สร้างกระแสความสนใจแก่สังคมได้อย่างมากมาย

เพราะในเวลาเพียงไม่กี่ปี โลกของเราก็เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปมาก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และมันน่าจะทำให้การฟื้นคืนชีพครั้งล่าสุดนี้น่าสนใจ และคงทำให้บิ๊กได้กลับมาโลดแล่นบนเวทีคอนเสิร์ต D2B อีกครั้งในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เคยมีมา

นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งกรณีหากสังคมตั้งคำถามถึงการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด คำตอบอีกด้านในการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนทำ และคนดู ก็คงจะอยู่บนคอนเสิร์ตของ D2B ในอีกหลาย ๆ ครั้งนับจากนี้ต่อไปเป็นแน่

ขอบคุณข้อมูลจาก : Youtube ป๋าเต็ด / thairath / wikipedia / mgronline / sanook

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า