fbpx

“ผู้กององอาจ” ตัวประกอบจอมขโมยซีนแห่งโลกภาพยนตร์

      ย้อนไปเมื่อปี 2545 คอหนังชาวไทยได้รู้จัก “7 ประจัญบาน” ภาพยนตร์ไทยแนวแอคชันคอมเมดี ผลงานการกำกับของเฉลิม วงศ์พิมพ์ พร้อม 7 ตัวละครหลัก ได้แก่ จ่าดับ จำเปาะ, เหมาะ เชิงมวย, ตังกวย แซ่ลี้, อัคคี เมฆยันต์, ดั่น มหิทธา, กล้า ตะลุมพุก และจุก เบี้ยวสกุล ซึ่งไม่เพียงแต่ฉากบู๊ล้างผลาญ ระเบิดภูเขาเผากระท่อมเท่านั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยมุกตลกที่เรียกเสียงฮาต่อเนื่อง จนสามารถทำรายได้ถึง 58 ล้านบาท ในปีนั้น

      ต้นปี 2566 “7 ประจัญบาน” กลับมาฉายอีกครั้งทาง Netflix ทว่าสิ่งที่หลายคนพูดถึงกลับไม่ใช่ฉากบู๊ มุกตลก หรือตัวละครหลักทั้ง 7 แต่เป็น “ผู้กององอาจ” ตัวประกอบที่รับบทโดย “ปั๋ง – ประกาศิต โบสุวรรณ” ที่เปิดตัวจาก 7 ประจัญบาน ภาคแรก และเปิดตำนานหัวหน้าที่ลูกน้องไม่รัก ในฉากเหยียบกับระเบิด แล้วลูกน้องพากันวิ่งหนีไปหลบ ลงท้ายที่ผู้กองต้องออกคำสั่งเด็ดขาดว่า “ช่วยกูด้วย ช่วยกูเถอะคร้าบ…”

      นับแต่นั้นมา ผู้กององอาจก็กลายเป็นตัวละครที่เรียกเสียงฮาทุกครั้งที่ปรากฏตัว เพราะนอกจากจะมียศผู้กอง เป็นหัวหน้าทีม 7 ประจัญบาน ผู้กององอาจยังทำหน้าที่เป็นสายลับ ปลอมตัวคอยสืบราชการในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าหาบเร่ขายปลากริมไข่เต่า แขกขอทาน หรือเชลยสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่มักจะโผล่มาดื้อๆ แบบเซอร์ไพรส์ผู้ชม จนเป็นเหมือน checkpoint ที่ผู้ชมเฝ้ารอดูและหัวเราะไปกับการปลอมตัวที่ไม่ค่อยจะเนียนของผู้กองคนนี้

      นอกจากการเป็นสายลับปลอมตัวสุดฮาแล้ว ผู้กององอาจยังฉีกภาพนายทหารฝ่ายพระเอก ที่โดยทั่วไปมักจะมีบุคลิกน่าเกรงขาม สุขุมเยือกเย็น ฉลาด และเป็นนักวางแผน กลายเป็นหัวหน้าทีมซื่อๆ ไม่มีความสามารถโดดเด่น ซุ่มซ่าม และหลงทางเป็นกิจวัตร เป็นภาระและเป็นสนามอารมณ์ให้ลูกน้องกลั่นแกล้งตลอดเวลา

      ประกาศิตเคยเล่าในรายการ “คุยให้เด็กมันฟัง” ถึงช่วงแรกของการรับบทผู้กององอาจว่า ในคิวแรกของการถ่ายทำ เขาได้ร่วมซีนกับ “น้าค่อม ชวนชื่น” เป็นครั้งแรก และซักซ้อมบทพูดกันสดๆ ก่อนถ่ายจริง

      “จำได้เลย เป็นการถ่ายฉากแรกของเรื่อง เป็นคิวแรกที่ถ่ายกันแต่เช้า ซึ่งผู้กององอาจ เป็นหัวหน้าของ 7 พระเอก 7 ฮีโร่ แต่ผู้กององอาจแม่งโง่อวดฉลาด โดนแกล้งตลอด แต่ว่าเป็นคนดีนะ ไม่ใช่คนเหี้ย ซีนแรก ผู้กองต้องเปิดแผนที่ แล้วถามว่าจุดหมายอยู่ตรงไหน ก็ดูโง่ๆ จำได้ว่าเราคุยกับน้าค่อม นัดกันก่อน น้าพูดงี้ดิ เขาก็ไม่รู้จะเอาแบบไหนดี เป็นเรื่องแรกที่ทำงานด้วยกันด้วย คือเราจะชั้นยศสูงมากกว่าพวก 7 คนนั้น ประโยคมันประมาณว่า ‘กูว่ามึงดูให้ดีๆ ก่อนนะครับผู้กอง’” 

      และนั่นก็เป็นภาพจำชั้นดีที่บอกให้เรารู้ว่า หัวหน้าทีมคนนี้ได้รับความเคารพยำเกรงแค่ไหน 

      ไม่ใช่แค่การออกแบบคาแรกเตอร์เท่านั้น แต่บทภาพยนตร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งให้ผู้กององอาจกลายเป็นตัวละครคลาสสิกเหนือกาลเวลา เพราะแม้จะเป็นภาพยนตร์ที่ตัวละครหลักเป็นผู้ชาย ทำให้หลายครั้งมีการเล่นมุกตลกใต้สะดือหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งถือว่าเป็นมุกที่ “ไม่ขำ” แล้วในสังคมไทยยุคปัจจุบัน แต่บท loser ของผู้กององอาจ กลับยังคงสร้างเสียงหัวเราะได้ และเป็นที่กล่าวถึงอยู่เสมอในทุกวันนี้

      สิงหาคม 2566 ผู้กององอาจกลับมาอีกครั้งในมิวสิกวิดีโอเพลง “ทนได้ทุกที” ผลงานเรียบเรียงใหม่โดย TaitosmitH ภายใต้โปรเจ็กต์ ซนซน 40 ปี GMM GRAMMY ที่คราวนี้กลายเป็นนายทหารช้ำรัก แต่ยังคงกรำศึกในสนามรบ ผ่านสมรภูมิรบ ถูกจับเป็นตัวประกัน ถูกทำร้ายร่างกาย และเช่นเดียวกับในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเจอมาหนักแค่ไหน ผู้กององอาจก็ไม่ตาย

      ผู้กององอาจไม่เพียงแต่จะเป็นอมตะ ฆ่าไม่ตายในภาพยนตร์เท่านั้น แต่จากเวลาที่ผ่านไปถึง 21 ปี ตัวละครผู้กององอาจก็ยังถูกพูดถึงอยู่เสมอ ทั้งในบทสนทนาและมีมในโลกออนไลน์ การนำผู้กององอาจมาปัดฝุ่นและสร้างบทบาทใหม่ในมิวสิกวิดีโอ จึงเป็นหมุดหมายที่ดี ที่จะนำตัวประกอบจอมขโมยซีนคนนี้มาต่อยอด ซึ่งก็คงจะดีไม่น้อย หากเราได้เห็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่มีผู้กององอาจเป็นพระเอกตัวจริงเสียที

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า