fbpx

“Arnold” ชีวิตที่ไม่ธรรมดาของ “Arnold Schwarzenegger”

เมื่อพูดถึง Arnold Schwarzenegger หลายคนมักนึกถึง “คนเหล็ก (The Terminator)” ที่เป็นผลงานสร้างชื่อของเขา และทำให้เขาถูกจดจำจากประโยค “I’ll be back. (แล้วผมจะกลับมา)” ความคลาสสิกตลอดกาลของนักแสดงรุ่นใหญ่ผู้นี้ ทำให้สตรีมมิงชื่อดังอย่าง Netflix หยิบยกชีวประวัติของเขามาสร้างเป็นสารคดีชื่อ “Arnold” ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของชายที่เกิดในประเทศออสเตรีย แต่เดินทางมาตามหาความฝันในดินแดนแห่งเสรีภาพอย่างสหรัฐอเมริกา

บทที่ 1 เริ่มต้นออกเดินทาง “นักกีฬาเพาะกาย”

Arnold เกิดที่เมืองทาล (Thal) เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในออสเตรีย ครอบครัวของเขามีสมาชิกอยู่ 4 คน ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ชาย และเขา Arnold ใฝ่ฝันจะออกไปจากเมืองนี้อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเขาได้ดูภาพยนตร์เรื่อง “Hercules and the Conquest of Atlantis” ที่นำแสดงโดย Reg Park ซึ่งเปิดโลกของเขาสู่กีฬาเพาะกาย

Arnold เริ่มเข้ายิมออกกำลังกาย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเข้าแข่งขันเพาะกาย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากครอบครัว ที่ตอนนั้นมองว่านักฟุตบอลอาชีพน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับ Arnold แต่ Arnold มองว่าการเป็นนักเพาะกายสามารถต่อยอดไปทำอาชีพอื่นได้ดีกว่า รวมทั้งยังอาจเป็นใบเบิกทางสู่การใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาด้วย

เขาเริ่มลงแข่งขันเพาะกายครั้งแรกในรายการ Mr. Styria ในปี 1964 ก่อนจะได้รับการทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์ที่เยอรมนี จากนั้นก็ได้เข้าแข่งขันในรายการ Mr. Universe ในปี 1966 และหนึ่งปีต่อมา เขาก็ได้พบกับ Reg Park คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาในวัยเด็ก 

หลังจากการแข่งขัน Mr. Universe ในปี 1968 Arnold ได้รับโทรเลขจาก Joe Weider นักเพาะกายและเทรนเนอร์ที่เทรนนักเพาะกายชื่อดังหลายๆคนในสหรัฐฯ ให้เข้าร่วมการแข่งขัน Mr. Universe ที่จัดขึ้นในไมอามีสหรัฐอเมริกา

Arnold ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่สหรัฐฯ ที่นั่นเขาได้เข้าแข่งขันในรายการ Mr. Olympia ครั้งแรก และก็ได้พ่ายแพ้ให้กับ Sergio Oliva การพ่ายแพ้ครั้งนี้ได้ทำให้เขาต้องปรับทัศนคติเกี่ยวกับการเป็นนักเพาะกายของเขาให้เข้ากับการเป็นนักกีฬาเพาะกายแบบสหรัฐฯ เขาหมั่นออกกำลังกาย ควบคุมอาหารและใช้สารสเตียรอยด์ เพื่อให้เขากลับมาเป็นแชมป์ได้ ในปี 1970 เขาก็สามารถล้ม Sergio Oliva ได้เป็นผู้ชนะในรายการ Mr. Olympia ในปีดังกล่าว และหลังจากนั้นเขายังเป็นแชมป์ในรายการ Mr. Olympia ถึง 8 สมัยด้วยกัน

บทที่ 2 นักแสดงแถวหน้าของโลก “ดาราฮอลลีวูด”

การได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Hercules ของ Arnold นอกจากจะทำให้เขาสนใจในอาชีพนักเพาะกายแล้ว ยังทำให้เขาสนใจในอาชีพนักแสดงด้วยเช่นกัน ในขณะที่เขากำลังมีชื่อเสียงจากการเป็นผู้ชนะในรายการ Mr. Olympia เขาก็เริ่มไปออกรายการโทรทัศน์ในช่องต่างๆ ของสหรัฐฯ เพื่อพูดคุยและให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะกาย และในระหว่างนี้เองเขาก็ได้ทาบทามให้ไปแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “Hercules in New York” ในปี 1970 แต่ทว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้พากย์เสียงทับเสียงบทของ Arnold เพราะเนื่องจากภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันของ Arnold ในขณะนั้นยังไม่คล่องแคล่วและรื่นหูพอสำหรับคนอเมริกัน

แต่มาในปี 1977 เขาก็ได้รับบทนักแสดงนำในเรื่อง “Stay Hungry” ที่เป็นเรื่องราวของนักเพาะกายโดยเฉพาะ นอกจากนี้การเป็นผู้ชนะในรายการ Mr. Olympia ถึง 8 สมัยของเขานั้น ยังถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Pumping Iron” ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาโดยตรง จนไปถึงการเป็นผู้ชนะในรายการดังกล่าว ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายหน้าใหม่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

ในปี 1982 Arnold ได้ถูกทาบทามให้รับบท Conan ในภาพยนตร์เรื่อง “Conan the Barbarian” ถึงแม้ว่าในตอนแรกตัว Arnold จะมีปัญหากับผู้อำนวยการสร้างก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถแสดงในบทบาทนี้ได้ จนกระทั่ง James Cameron ผู้กำกับชื่อดังที่ในขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ได้เสนอบทภาพยนตร์เรื่อง “The Terminator” ให้กับ Arnold เพื่อให้เล่นบทเครื่องจักรสังหาร ตอนแรก Arnold ปฏิเสธที่จะรับบทดังกล่าว จนกระทั่งเขาได้อ่านบทภาพยนตร์จนจบแล้วค้นพบว่าตัวเขาเองเหมาะสมกับบทบาทนี้ที่สุด

ในช่วงที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Terminator นั้น Arnold มีปัญหากับ Cameron ในเรื่องของบทพูดบทหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือประโยค “I’ll come back” เนื่องจาก Arnold มีปัญหากับการออกเสียงคำว่า “ I’ll ” จึงไปบอกกับ Cameron แต่ Cameron ก็ยังยืนกรานที่จะให้พูดประโยคนี้ จนกระทั่งพอถึงการถ่ายทำฉากดังกล่าว Arnold ก็ได้พูดออกไปว่า “I’ll be back” ซึ่งประโยคดังกล่าวก็ได้กลายเป็นภาพจำของเขาในเวลาต่อมา และประโยคดังกล่าวนี้ก็ยังเป็นบทพูดที่ Arnold ต้องพูดในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขาแสดงอีกด้วย

ในโลกของการเป็นนักแสดงนี้ คู่แข่งที่สำคัญของ Arnold นั้นหนีไม่พ้น “Sylvester Stallone” นักแสดงภาพยนตร์สายแอ็คชั่นชื่อดังในทศวรรษที่ 1980 ที่มีผลงานมากมายเช่น Rambo Franchise (First Blood, First Blood Part 2, Rambo 3) , Rocky Franchise (Rocky 1 – 5) ฯลฯ นั่นจึงทำให้ Arnold ต้องสร้างผลงานภาพยนตร์สายแอ็คชั่นเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Stallone โดยนอกจากจะรับบทภาพยนตร์เรื่อง The Terminator แล้ว เขายังรับบทภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เป็นภาพยนตร์สายแอ็คชั่นอีกด้วยเช่น Commando, Raw Deal, Predator และ The Running Man เป็นต้น

บทที่ 3 ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนที่ 38

ปัญหาวิกฤติพลังงานที่เกิดขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ และยังส่งผลให้ Gray Davis ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในขณะนั้น เสื่อมความนิยม เนื่องจากเขาไม่สามารถแก้ไขวิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นได้ นำไปสู่การรณรงค์ถอดถอน Davis ออกจากการเป็นผู้ว่าการรัฐ ด้าน Arnold ในเวลานั้นก็ได้มีกระแสข่าวว่าเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐ ซึ่งในตอนแรก Arnold ได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว

แต่หลังจากที่บุคคลที่ Arnold สนับสนุนให้ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐได้ถอนตัวออกไป Arnold จึงตัดสินใจลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเอง โดยที่การหาเสียงส่วนใหญ่ของเขา มักเป็นการโจมตีความล้มเหลวของ Davis เป็นหลัก จนกระทั่งไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งก็ได้มีข่าวฉาวว่า เขาได้ล่วงละเมิดทางเพศกับผู้หญิงมากกว่า 15 คน ในสมัยที่เขายังเป็นนักแสดง แต่ทว่าข่าวฉาวนี้กลับไม่ได้ทำให้ความนิยมของ Arnold ลดลงแต่อย่างใด ซ้ำยังทำให้เขาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนสามารถชนะการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้ในที่สุด

ขณะที่ Arnold ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนที่ 38 นั้น มีบางครั้งที่เขาทำงานผิดพลาดจนคะแนนนิยมของเขาตกต่ำลง แต่เขาก็สามารถกอบกู้คะแนนนิยมกลับคืนมาได้ จนทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอีก 1 สมัย โดยผลงานที่สำคัญของเขาคือ การแต่งตั้งผู้พิพากษาหญิงและชนกลุ่มน้อยเป็นครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย การปฏิรูปการเมืองโดยไม่ให้มีการล็อกตัวผู้สมัครที่มาจากพรรคการเมืองในการเลือกขั้นต้น เป็นการเปิดกนักว้างให้ผู้สมัครอิสระสามารถเข้าไปทำงานในสภาของรัฐได้ และนโยบายลดมลพิษกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเขาได้ถูกต่อยอดและปรับใช้กับรัฐบาลกลางในสมัยของประธานาธิบดี Barack Obama อีกด้วย

บทสรุป : แนวคิดที่ขับเคลื่อนชีวิตของชายผู้ที่ไม่ธรรมดา

Arnold Schwarzenegger ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่สามารถก้าวไปยังจุดสูงสุดของทั้ง 3 อาชีพ ได้แก่ นักเพาะกาย นักแสดง และนักการเมือง  ซึ่ง Arnold ก็ได้ถ่ายทอด “แนวคิด” ที่เป็นเสมือนกับ “พลังงาน” ในการขับเคลื่อนชีวิตของเขาให้ไปยังจุดสูงสุดของทั้ง 3 อาชีพ ดังนี้

  • มีเป้าหมายที่ชัดเจน

หลังจากได้เปิดโลกจากภาพยนตร์เรื่อง Hercules Arnold มีเป้าหมายที่แน่วแน่ในการเป็นนักเพาะกายอันดับต้นของโลก เขาเริ่มเรียนรู้การออกกำลังกายของนักเพาะกาย เริ่มเอารูปนักเพาะกายมาติดไว้ในห้องนอนของตน เข้าสมาคมนักเพาะกายในท้องถิ่น ฝึกฝนออกกำลังกายอยู่เสมอ จนกระทั่งเขาได้รับการคัดเลือกให้ไปแข่งขันในรายการ Mr. Styria ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอาชีพเพาะกาย หรือตอนที่เขาผันตัวจากนักเพาะกายมาเป็นนักแสดง เขาก็พยายามออกสื่อบ่อยขึ้นจนกระทั่งเขาได้รับเชิญให้ไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง Hercules in New York เป็นต้น

  • สร้างแรงผลักดันให้กับตัวเอง

เป้าหมายของ Arnold ในช่วงต้นนอกจากจะเป็นนักเพาะกายที่มีชื่อเสียงแล้ว เขายังมีแรงผลักดันอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ การได้ออกจากบ้านเกิดของตัวเอง เขาให้ความเห็นว่าตนไม่ได้รู้สึกชอบและพอใจที่ได้เกิดและเติบโตในประเทศออสเตรีย กลับกันเขามองว่าที่ที่เหมาะสมสำหรับเขาคือสหรัฐอเมริกา นั่นจึงทำให้เขาตั้งใจอย่างหนักที่จะเป็นนักเพาะกายอันดับต้นของโลก หรือแม้กระทั่งตอนที่เขาเป็นนักแสดง เขาก็มีแรงผลักดันในการเป็นนักแสดงชื่อดังในสายแอ็คชั่นนั่นคือ Sylvester Stallone จนทำให้เขาต้องผลิตผลงานสร้างความนิยมให้กับผู้ชมเพื่อเอาชนะ Stallone ให้ได้

  • สู้ไม่ถอย ไม่ยอมแพ้

การพ่ายแพ้ในการแข่งขันรายการ Mr. Olympia ที่สหรัฐฯ ครั้งแรก ทำให้ Arnold รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เขานั่งร้องไห้และทบทวนกับตัวเองจนกระทั่งเขาเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ใหม่ ซึ่งต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นผู้ชนะรายการ Mr. Olympia ถึง 8 สมัยด้วยกัน หรือแม้แต่ตอนที่เขาเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาได้ทำงานผิดพลาดจนคะแนนนิยมตกต่ำมาก แต่เขาก็สามารถผลิกสถานการณ์จนทำให้เขาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ 2 สมัยได้สำเร็จ

บทความทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพรวมชีวิตของ Arnold และแนวคิดในการขับเคลื่อนชีวิตแบบคร่าวๆ เท่านั้น สำหรับใครที่สนใจหรืออยากที่จะศึกษาเรียนรู้สารคดีชีวิตและเบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดของ Arnold Schwarzenegger สามารถรับชมได้ที่ Netflix

ผู้เขียน : ณัฐชนน จงห่วงกลาง

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า