fbpx

‘NewJeans’ กับ 5 กฎแห่งความสำเร็จของเกิร์ลกรุ๊ป ที่สร้างขึ้นใหม่ในวงการ Kpop

ด้วยความนิยมที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบอกว่า ‘NewJeans’ เป็น ‘Rookie Monster’ ตัวการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเกิร์ลกรุ๊ป Kpop ในเจเนอเรชั่นใหม่

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2022 NewJeans ได้ปล่อยเพลงแรกของวงมาสู่สาธารณะชน ด้วยสมาชิก 5 คน มินจี ฮันนี่ ดาเนียล แฮริน และฮเยอิน ซึ่งเป็นเกิลล์กรุ๊ปที่จะมาเติมพลังให้กับผู้คนในช่วงฤดูร้อน ที่ร้อนมากและมีแต่ความเหน็ดเหนื่อย ซึ่งการปล่อยเพลงออกมากลายเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการ Kpop โดยเฉพาะในฝั่งของเกิลล์กรุ๊ปในเจเนอเรชันใหม่อย่างเต็มตัว

แม้ว่าการปล่อยเพลงพร้อมมิวสิควิดีโอสำหรับเพลงเปิดตัวของ NewJeans อย่าง “Attention” และ “Hype Boy” จะถูกอัปโหลดโดยไม่มีการเผยแพร่ใดๆ ไม่มีแม่กระทั้งการปล่อยทีเซอร์ตัวอย่าง หรือภาพตัวอย่างใดๆออกมาเลย แต่เพลงดังกล่าวกลับกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว และขึ้นอันดับสูงสุดของเว็บไซต์การฟังเพลงสตรีมมิ่งทั่วเกาหลี และกลายเป็นเกิลล์กรุ๊ปที่โดดเด่นที่สุดในปี 2022 ไปในทันที 

หลังจากการเปิดตัวเพลง “OMG” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา NewJeans ก็ได้สร้างปรากฎการณ์ของวงอีกครั้งในปี 2023  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Ditto” ซิงเกิลก่อนหน้านี้ของ NewJeans ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนทำให้เพลงเข้าสู่ชาร์ตหลักของ Billboard ในสหรัฐอเมริกา “Hot 100” สร้างสถิติได้ภายใน 6 เดือน

ในขณะที่ไอดอลวงอื่นๆ อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำสำเร็จได้ ด้วยสถิติแรกของพวกเธอในฐานะกลุ่มเจเนอเรชั่นที่ 4 NewJeans จึงก้าวไปไกลกว่าเกิลล์กรุ๊ปหน้าใหม่วงอื่นๆและสร้างความแข็งแกร่งในฐานะเกิลล์กรุ๊ประดับโลก

และตอนนี้ความฝันของ NewJeans ในการเป็นไอคอนของยุคสมัยได้กลายเป็นจริงแล้ว เช่นเดียวกับความหมายของวง กางเกงยีนส์ที่เราเห็นทุกวันและไม่เคยเบื่อที่จะสวมใส่ วันนี้ The Modernist จะพามาดู “กฎแห่งความสำเร็จของเกิร์ลกรุ๊ป” ที่สร้างขึ้นมาใหม่โดย NewJeans กัน

1. เกิร์ลกรุ๊ปที่สร้างโดย ‘มินฮีจิน’ ที่น่าเชื่อถือและคู่ควร

มินฮีจิน ผู้ที่เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการ Kpop ในหลายๆวง ซึ่งเธอเคยทำงานรวมกับ SM Entertainment (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “SM”) เมื่อปี 2545 

มินฮีจิน เป็นผู้นำแนวคิดของไอดอลใน เจน 2 และ 3 อย่าง Girls’ Generation (SNSD), SHINee, f(x), Red Velvet , และ EXO ในฐานะ Creative Director ให้กับศิลปิน ซึ่งผลงานของเธอมีความไอคอนิกสูง แปลกและไม่เหมือนใคร และอีกกลยุทธ์ของเธอ คือการทำผลงานให้หลุดออกจากกรอบเดิมๆ โดยใช้เป็นคอนเซ็ปต์ที่เป็น Visual Storytelling ซึ่งเป็นบรรทัดฐานใหม่ของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ภาพ MV วิธีการโปรโมท ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจบริบทของศิลปิน และเพลงนั้นๆมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความเหนื่อยหน่ายในการทำงาน ในที่สุด มินฮีจิน ก็ลาออกจาก SM

และในปี 2019 มินฮีจินประกาศว่าเธอจะสร้างกระแสด้วยการสร้างวงที่แปลกใหม่อีกครั้ง โดยจับมือกับ HYBE ค่ายเพลงของ BTS หลังจากผลงานที่ผ่านมาของไอดอลรุ่นก่อนๆ ที่เธอเคยสร้างไว้ จึงสร้างความคาดหวังให้กับผลงานของเธอที่ตอนนี้เป็นเกิร์ลกรุ๊ปอย่างวง NewJeans ที่เธอกำลังดูแลอยู่

2. “สวยได้แม้ไม่แต่งหน้า” นำเสนอสไตล์รูปแบบสบายๆ

ก่อนหน้านี้ NewJeans รู้จักกันเพียงในนาม “เกิร์ลกรุ๊ปของมินฮีจิน” ที่ได้เปิดตัวพร้อมกับปล่อยมิวสิควิดีโอออกมาหลายเพลงอย่างกระทันหัน ซึ่งมินฮีจินก็มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะรู้ดีว่า NewJeans จะมาเขย่าวงการ Kpop ด้วยแนวคิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมนี้ทันทีหลังจากเดบิวต์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟังเพลงของ NewJeans จะเห็นความแปลกใหม่ที่ไม่เป็นไปตามสูตรมาตรฐานเดิมของวงการ Kpop แนวเพลงที่ NewJeans สร้างขึ้นใหม่ คือ “Easy Listening” ซึ่งมีเสียงร้องที่บริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติของสมาชิก ด้วยวิธีง่ายๆ ที่หลากหลายให้เกิดความรู้สึกถึง “ความซับซ้อนตามธรรมชาติ

ในขณะเดียวกัน สูตรของวงการ Kpop ที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือการนำเสนอในรูแบบของพวกเขา เช่น BLACKPINK ก็ประสบความสำเร็จตามสูตรนี้ และเป็นผลให้เกิร์ลกรุ๊ปอีกหลายวงเลือกที่จะใช้คอนเซ็ปต์ “Girl Crush” เหมือน BLACKPINK

สิ่งนี้แสดงให้เห็นในรายการ Surviver อย่าง “Queendom” ของ Mnet ที่แม้แต่เกิร์ลกรุ๊ปที่ก่อนหน้านี้ยังคงคอนเซ็ปต์ไร้เดียงสา ก็ได้เตรียมการแสดงในคอนเซ็ปต์ “Girl Crush” อย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะ นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่ฝืนแนวคิดของ “Girl Crush” แม้ว่าจะไม่เหมาะกับพวกเขาก็ตาม และจบลงด้วยปัญหาการยุบวง จะเห็นได้ว่านักร้องเองมีความกระหายในคอนเซ็ปต์นี้

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ผู้ฟังผู้ชมทั่วไปอาจเริ่มเบื่อหน่ายกับเพลงที่จังหวะและเสียงที่หนัก รวมถึงการแสดงที่เข้มข้นที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไป ด้วยเหตุนี้ NewJeans จึงเลือกคอนเซ็ปต์ที่จะมาปลอบประโลมสายตาและหูของสาธารณชนที่อ่อนล้า ด้วยแนวเพลงที่ “ไร้การตกแต่ง” ในแบบฉบับของพวกเธอเอง

3. กระตุ้นความคิดถึงคนวัย 30 ด้วยแนวคิด Y2K

หลายๆคน มองว่าช่วงของการเป็นวัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำซึ่งก่อให้เกิดความคิดถึง เมื่อคนในเจนมิลเลนเนียล หรือ GEN Y เป็นวัยที่กำลังทำงานและเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรม มีอายุย่างเข้าสู่วัย 30 ปี ก็มีความคลั่งไคล้ Y2K ซึ่งที่ประเทศเกาหลีก็เช่นกัน เริ่มมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในวงการเพลง และในช่วงแรก ก็มี NewJeans ที่ใช้คอนเซ็ปต์ “Y2K” อย่างเต็มตัว

ในมิวสิควิดีโอ “Attention” สมาชิกวง NewJeans ที่ไว้ผมยาวตรง สวมเสื้อยืดครอป และกางเกงยีนส์ทรงหลวม ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นความรู้สึกให้ห้วนนึกถึงอดีตได้ ในขณะเดียวกัน ในเพลง “Hype Boy” สมาชิกวงก็แปลงร่างเป็นดาราวัยรุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบในช่วงต้นยุค 2000

นอกจากนี้ ในเพลง “Ditto” ที่ใส่เครื่องแบบนักเรียนเก่า การใช้กล้องวิดีโอรุ่นเก่า และการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในมิวสิควิดีโอ ได้สร้างบรรยากาศของการเรียนในอดีต แม้กระทั่งเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในมิวสิควิดีโออย่าง “ผีในโรงเรียนมัธยมหญิง”

NewJeans ยึดมั่นในแนวคิด Y2K ตลอด ตั้งแต่สไตล์ไปจนถึงอัลบั้มและสินค้า ไม่ว่าจะเป็นแอปที่ไว้สื่อสารระหว่างแฟนกับ NewJeans ที่เรียกว่า “Phoning” ตามแนวคิด Y2K นอกจากนี้ NewJeans ยังเปิดตัวป๊อปอัพสโตร์ที่ขายสินค้าต่างๆ เช่น ซีดี กระเป๋าใส่ซีดี และที่วางหนังสือ ซึ่งล้วนเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงในยุค 90 อีกด้วย

เพื่อให้เหมาะกับ NewJeans ที่แสดงความปรารถนาที่จะรวมคนทุกวัยเข้าด้วยกัน แนวคิด Y2K ของพวกเขาจึงจับรสนิยมของวัยรุ่นและคนในวัย 20 ของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

4. กำเนิด “NewJeans meme” เอฟเฟกต์การตลาดแบบไวรัลสำหรับ Gen Z

ทุกวันนี้ หากคุณถามคนรุ่น “Gen Z” เกี่ยวกับดนตรี พวกเขาตอบว่า “NewJeans’ Hybe Boy” ในเนื้อหาของ YouTube ได้มีคนหนึ่งถามผู้คนที่เดินไปตามถนนพร้อมกับหูฟังเกี่ยวกับชื่อเพลงที่พวกเขากำลังฟังอยู่ และคนเหล่านี้มักจะตอบกลับด้วยคำว่า “Hybe Boy”

จุดประสงค์ของมีมนี้คือการให้คำตอบเดียวกันสำหรับทุกคำถาม ซึ่งก็คือ “It’s New Jeans’ Hype Boy”

Gen Z ที่ชอบวิดีโอมากกว่ารูปภาพ และชอบเสพ Short Video มากกว่าเป็นวิดีโอแบบยาว เป็นผลให้มีเนื้อหา “short-form” สิ่งนี้ทำให้การผลิตเนื้อหาง่ายขึ้นและเร็วขึ้น นำไปสู่กระแสความนิยมในวัฒนธรรมสมัยนิยมที่เร็วขึ้น ในยุคของการสื่อสารผ่านวิดีโอนี้ มีมของ NewJeans ได้กลายเป็นกระแสการตลาดแบบไวรัล ส่งผลให้ NewJeans ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

5. สมาชิกทุกคนสมบูรณ์แบบพอที่จะเป็นเซ็นเตอร์ได้ทุกคน

ในฐานะไอดอล สมาชิกแต่ละคนในวงจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ข้อได้เปรียบหลักของกลุ่มอยู่ที่การผนึกกำลังของจุดแข็งที่สำคัญของสมาชิกแต่ละคนเข้าด้วยกัน แทนที่จะให้ทุกคนพยายามเป็นศูนย์กลาง 

อย่างไรก็ตาม NewJeans ตรงกันข้ามกับบรรทัดฐานนี้ สมาชิกทั้ง 5 คน กลายเป็น “ศิลปินรอบด้าน” สมาชิกแต่ละคนมีคุณสมบัติของไอดอล เช่น หน้าตาดีและมีเสน่ห์ รวมถึงความสามารถพิเศษเฉพาะตัว

เพลงของ NewJeans ทั้งหมดอิงตามท่าเต้นฮิปฮอป ซึ่งได้รับการปรับปรุง มีการเพิ่มไดนามิกและความยืดหยุ่นที่เหมาะสม สมาชิกทุกคนของ New Jeans สามารถจัดการกับท่าเต้นที่ยากได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทิ้งช่องว่างในการแสดงการเต้นของพวกเขา

NewJeans ยังเก่งในการแสดงสดอีกด้วย ในเวลาที่ไอดอลบางคนมีปัญหาเรื่องการลิปซิงค์หรือทักษะการแสดงสดค่อนข้างต่ำในรายการเพลง การแสดงสดของ NewJeans มักจะได้รับการตอบรับที่ดี พวกเขามีทักษะการร้องที่ยอดเยี่ยมและสมาชิกทั้งห้าคนก็มีโทนเสียงที่ทันสมัย ซึ่งทำให้เกิดสไตล์ “ป๊อปฟังง่าย” ในแบบฉบับของ NewJeans

ตามเว็บไซต์สตรีมมิ่งเพลงในประเทศเกาหลี แม้จะเพลงจะทำการเปิดตัวเมื่อมกราคมที่ผ่านมา แต่เพลงของ NewJeans อย่าง “Ditto” และ “OMG” ก็ยังคงครองตำแหน่งสองอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงเปิดตัวของพวกเขา “Hype Boy” ยังคงอยู่ใน Top 10 และครองอันดับที่ 3 อีกด้วย

New Jeans ได้รักษาตำแหน่งระดับแนวหน้าของวงการ K-pop ด้วยแนวคิดและความสามารถที่แข็งแกร่ง พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของวงการ K-pop ความสำเร็จของพวกเขาได้กลายเป็นส่วนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพและความเป็นไปได้ของวงการ K-pop ยังคงมีอยู่ต่อไป

ที่มา Trueid , mangozero , the-e-world , nique

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า