fbpx

18 เกร็ดที่รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ได้ จาก ‘เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์’

หมายเหตุ: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง

เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่ ‘เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์’ เรื่องราวตลกร้ายของหญิงคนหนึ่งที่ชีวิตพลิกผันแบบน่าขันสิ้นดี กลับมาสร้างสีสัน สร้างข้อถกเถียง สร้างความน่าสนใจ และสร้างประเด็นทางสังคมมากมายในช่วงเวลาที่ผ่านมา

วันนี้เราเลยหาอะไรเบา ๆ แต่น่าจะสนุกมาเล่าให้ฟังกัน กับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อยู่ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรือรายล้อมซีรีส์ชุด 6 ตอนนี้ ที่รู้ก็ดี หรือหากไม่รู้ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่สำหรับใครดูซีรีส์มาแล้วก็อาจจะตามไปดูเกร็ดที่สอดแทรกเหล่านี้ทวนความจำไปด้วยก็น่าสนุกดีเหมือนกัน ว่าแล้วก็ตามเรามาแกะเกร็ดทั้งหลายจากซีรีส์เรื่องนี้กัน

ภาพจาก Netflix

– วันซวย ๆ วันนั้นของตุ้มนั้นคือวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 จากหลักฐานเดียวที่ปรากฏบนสมุดจดรายชื่อพนักงานที่มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชย 50,000 บาท ที่สุวัตรบันทึกไว้

ภาพจาก Netflix / Facebook – Nontouch Promsri

– มีผลิตภัณฑ์ในเรื่อง 4 ยี่ห้อ ที่ไม่มีอยู่บนโลกจริง ประกอบไปด้วย ‘ธนฉัตร ประกันภัย’ บริษัทประกันภัยที่ตุ้มทำงานอยู่, ‘น้ำปลาตราแพะ’ เครื่องปรุงเจ้าปัญหาที่ทำให้ตุ้มได้รู้จักกับจิ๋ม ล้อเลียนตรง ๆ กับ ‘ซีอิ๊วขาวตราแกะ’ ซีอิ๊วขาวตัวตึงจากตรังในตำนาน ซึ่งไม่ได้ล้อแค่ชื่อ แต่ล้อไปถึงฉลากแบบเป๊ะ ๆ, ‘กรังปรีซ์’ ยี่ห้อน้ำดื่มที่ใช้ประกอบเรื่องอยู่หลายฉาก ทั้งซีนซื้อของที่ซูเปอร์ฯ หรือฉากดื่มน้ำของตุ้ม ที่คิดชื่อใหม่ขึ้นเพราะใหม่-ดาวิกาติดสัญญาพรีเซนเตอร์น้ำดื่มอยู่ และ ‘เปเอะ’ ยี่ห้อน้ำยาล้างจานข้างซิงค์ที่ตุ้มล้างเลือดบนมีด ที่มีที่มาของชื่อจาก ‘เปเอะ ระตะนะเริง’ เฮ้ย! ‘เป็นเอก รัตนเรือง’

ภาพจาก Facebook – Teerachot Jivorasetkul

– เป็นเอกใส่ตัวเองลงไปในเรื่องหลายจุด ทั้งใส่ตัวเองลงในฉากตรวจงานโฆษณาของบริษัทประกันภัย โดยใช้ชื่อตัวละครบนบัตรพนักงานที่ห้อยคอว่า ‘เอกรัตน์ เพ็ญเรือง’ เพราะทั้งชีวิตเขาเคยเป็นแต่คนทำงานโฆษณา ยังไม่เคยเป็นลูกค้ามาก่อน, ใส่หนังสือตัวเองลงไปในชั้นหนังสือของตุ้มสองเล่มอย่าง ‘อย่างน้อยที่สุด’ และ ‘ชั้นครู เล่ม ๓: One stand-up filmaker เป็นเอก รัตนเรือง’ รวมถึงใส่แผ่นดีวีดีหนังตัวเองไว้ในห้องตุ้มหลายเรื่อง ทั้ง ‘มนต์รักทรานซิสเตอร์’, ‘เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล’, ‘Invisible Waves’ แม้แต่ ‘เรื่องตลก 69’ เวอร์ชันก่อนหน้าก็เป็นดีวีดีที่แอบอยู่บนกล่องเหล็กหน้าทีวีของตุ้มอีกด้วย

ภาพจาก Facebook – Nontouch Promsri

– ที่บัตรพนักงานของ ‘ธนฉัตร ประกันภัย’ มีสโลแกนบริษัทอยู่มุมขวาล่างว่า “Whenever Together Forever”

ภาพจาก Netflix

– ทะเบียนรถเปอร์โยต์สีแดงของตุ้มคือ ‘2ขฉ 4712’ ถอดตัวอักษรสองตัวเป็นค่าตัวเลขตามลำดับพยัญชนะ จาก ข.ไข่ จะได้เลข 2 และ ฉ.ฉิ่ง เป็นเลข 9 และเมื่อรวมเลขทั้งหมดจะได้ 27 ที่รวมกันได้เลข 9 พอดิบพอดี ที่อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้

ภาพจาก Netflix / The Momentum

– เป็นเอกพยายามสอดแทรก ‘การเมือง’ ด้วยหลายแง่มุม ทั้งติดสติกเกอร์หมุดคณะราษฎรจำลองไว้ทั่วค่ายมวยครรชิต ใส่ประเด็นเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลเป็นท่อน้ำเลี้ยงผู้ชุมนุม ใส่รูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ตุ้มติดไว้ข้างประตูห้อง ใส่ตัวละครผู้ช่วยตำรวจสวมเครื่องดักฟังที่มีใบหน้าละม้ายคล้าย ‘จิตร ภูมิศักดิ์’ นักกิจกรรมและนักคิดด้านการเมืองคนสำคัญคนหนึ่งของไทย หรือที่เห็นง่าย ๆ ก็คือการเปิดดูข่าว ฟังวิทยุ ดูคลิปออนไลน์ของตัวละครระหว่างทางในการดำเนินเรื่อง

– ตลอดทั้ง 6 ตอน ป้ายเลขห้องเบอร์ 6 ชั้น 16 อาคารสุภัทราคอนโดมิเนียมของตุ้มนั้นพลิกกลับเป็นเลข 9 อยู่ 10 ครั้งถ้วน โดยตอนที่เยอะที่สุดคือตอนที่ 1 ตกลงมา 5 ครั้ง รองลงมาคือตอนที่ 2 ตกลงมา 3 ครั้ง และตอนที่ 3 กับ 4 ตกลงลงมาครั้งเดียว ส่วนตอนที่ 5 และ 6 ไม่ปรากฎการเล่าเรื่องด้วยมุมหน้าห้อง แต่มักจะตัดกล้องเป็นมุมจากในห้องฉายไปยังประตูที่ตัวละครเดินเข้ามาเลย

‘โสฬส สุขุม’ โปรดิวเซอร์ที่มาร่วมเล่นต้นเรื่อง และใช้ชื่อเป็นประธานบริษัทในประกาศนียบัตรพนักงานดีเด่นที่ตุ้มเคยได้รับ – ภาพจาก Netflix

– ตัวประกอบจากคนเบื้องหลังในเรื่องนี้ก็หลายคน ไล่เรียงจาก ‘โสฬส สุขุม’ โปรดิวเซอร์ของเรื่องที่โผล่มาเป็นลูกค้าร้านอาหารญี่ปุ่นโต๊ะตรงข้ามตุ้มในฉากเปิดเรื่อง และเป็นประธานบริษัท ธนฉัตร ประกันภัย ที่มีชื่อปรากฏบนประกาศนียบัตรพนักงานดีเด่นที่ตุ้มเคยได้รับอีกด้วย หรืออย่าง ‘นนทัช พรหมศรี’ กราฟิกดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบบัตรพนักงาน ฉลากน้ำปลาตราแพะ หรือฉลากน้ำยาล้างจานเปเอะ ก็มาเป็นเล่นคนขายลังหวายให้ตุ้ม รวมถึงผู้ช่วยผู้กำกับคนที่ 2 อย่าง ‘สหรัถ โอโน’ ก็มาเล่นเป็นหนึ่งในแก๊งวินฯ ในตอนสุดท้ายของซีรีส์ด้วย

– เรื่องการที่ตุ้มเติมน้ำตาลทรายลงในกาแฟถึง 9 ช้อน ทั้งสองครั้งในฉากชงกาแฟที่ห้องตุ้ม และฉากนัดเจอกับสุวัตรที่ร้านกาแฟนั้น แต่เดิมเป็นเอกตั้งใจให้ตัวละครตักน้ำตาลใส่จนกว่าจะปักช้อนไปตรงกลางให้ตั้งอยู่ได้ แต่พบว่านานไป จึงลดเหลือ 9 ช้อน ซึ่งดันไปเล่นท่าเดียวกันกับตัวละคร ‘พลอย’ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘พลอย’ ที่สั่งกาแฟมาแล้วใส่น้ำตาลไป 9 ช้อนเหมือนกัน

ภาพจาก Netflix / INN News

– ในงานแถลงข่าวซีรีส์ เป็นเอกใส่เสื้อตัวเดียวกันกับเสื้อที่ชายเนิร์ดแสนหื่นกามใส่ในช่วงต้นเรื่องตอนที่ 1

– หากไม่ทันสังเกต เราจะไม่ทันฉุกใจคิดเลยว่า “ทำไมฉากต่อยมวยในช่วงต้นเรื่องตอนที่ 1 ถึงไม่มีคนดู ?” เพราะคำถามแรกที่น่าจะผุดขึ้นมาก่อนคือ “ทำไมอยู่ ๆ ภาพถึงกลายเป็นซีนขาวดำ ?” เป็นเอกเผยผ่านทาง Netflix ว่า จากข้อจำกัดของงบประมาณที่ไม่เพียงพอต่อการจ้าง extra มาเล่นเป็นคนดูแบบเต็มสนาม จึงแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าดำมาคลุมโดยรอบ แล้วถ่ายในโทนขาวดำ เพราะทันทีที่ซีนถูกนำเสนอด้วยโทนนี้ จะไม่มีใครเอะใจเลยว่ามันไม่มีคนดู

“เวลาเราทำหนัง ทำซีรีส์ ไม่ว่ากล้องจะโม้แค่ไหน กฎเดียวที่คุณต้องทำเลยคือ อย่าทำให้คนดูหยุดเชื่อคุณ คุณจะพาคนไปได้เรื่อย ๆ แล้วไม่ว่าคุณจะโกหกพกลมแค่ไหนไม่มีใครว่าอะไรเลย ถ้าซีนนั้นถูกถ่ายเป็นสีปั๊บ คนดูจะเห็นทันทีเลยว่ามันไม่มีคน” เป็นเอกกล่าว

ภาพจาก Facebook – Yemenz Siwawut Sewatanon

– ร้านที่ตุ้มกินข้าวแล้วขังแมลงวันไว้ในแก้วนั้น คือร้าน ‘วัวทองโภชนา’ ภัตตาคารอาหารจีนที่ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรชิงเต๋าแถวซอยเจริญกรุง 45 ตรงข้ามกับไปรษณีย์กลางบางรักนี่เอง

บึงส่าเหล้า ที่บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีอยู่จริง มันเป็นสถานที่ที่โรงงานผลิตสุราจำเป็นต้องสร้างขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับทิ้งสิ่งที่เรียกว่า ‘ส่าเหล้า’ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ‘ยีสต์’ ซึ่งเป็นของเหลวเหนียวข้นสีดำคล้ำที่เหลือทิ้งจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีกลิ่นเหม็นรุนแรงและอาจสร้างมลพิษให้พื้นที่ข้างเคียง เลยอาจเป็นเหตุผลทำให้โรงงานต้องขุดพื้นที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ทิ้งส่าเหล้านี้รวม ๆ กัน

เป็นเอกไปพบสถานที่นี้เข้าขณะไปถ่ายโฆษณารถยนต์ ที่ต้องมีซีนรถวิ่งสะท้อนบนผืนน้ำสวย ๆ ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคที่แหล่งน้ำธรรมดาสะท้อนแสงได้ไม่คมนัก เขาจึงใช้บึงส่าเหล้านี้ถ่ายทำแทนบึงน้ำธรรมดา แล้วก็กลายเป็นบทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างเขากับตากล้องโฆษณาชิ้นนั้นว่าหากเขาฆ่าใครตายสักคน เขาคงเอาศพมาทิ้งที่นี่ ต้นทางไอเดียจึงเริ่มต้นจากตรงนั้น

– เมนูน้ำสุดฮิตของคนในกองคือ ‘น้ำบ๊วย’ 

– เนื้อเพลงเต็ม ๆ ของเพลงประจำตัว ‘ทัด ไททานิก’ คือ

“อ้อ กูชื่อทัด ไททานิก ระวังพวกมึงล่มจม

พูดชัดไทยประดิษฐ์ กูเดินมาให้ก้มลง

กูชอบไปวัดบางกระดี่ ขอพรจากท่านองค์

เรืออื่นเค้าวิ่งอ้อม แต่ไททานิกชอบวิ่งชน

ดอลลี่กูไม่เห็น เพราะตากูเห็นแต่ดอลลาร์

ตอนนี้มีรถเก๋ง ที่กูเพิ่งซื้อตอน ม.ห้า

หลายปีที่กูผ่อน เพราะกูไปยืมตังค์คุณป้า

พ่อแม่กูคิดถึง เพราะกูไม่เคยจะกลับบ้าน

เพลงแร็ปกูนี่ชอบ มาปฏิวัติฮิปฮอปให้มันว่อน

กูทำเพลงเหมือนทำคลอด กูไม่เคยติดโอมิครอน กูยังรอด

กูชนะ ถ้ากูเป็นคอม กูคงเป็นแมคเพราะกูไม่ติดไวรัส อื้อ

ไอใส่ เพราะกูสะอาด สมองใสระดับพระเจ้า เขาเรียกกูว่านักปราชญ์

ปกติกูแร็ปชิล แต่อย่ามาทำให้เกรี้ยวกราด

โอจีนี่แหละกู ระวังพวกมึงจะโอดี เพราะโดนยาเกินขนาด เว้ยเฮ่ย

ทัด ไททานิก เอ้ย ทัด ไททานิก เว้ยเฮ่ย

อ้อ ทัด ไททานิก ทะทะทะทัด ไททานิก เว่ยเฮ้ย”

โดยคนแต่งเนื้อเพลงนี้ก็คือ ‘ตะวันวาด วนวิทย์’ หรือ ‘Tangbadvoice’ ซึ่งเขาได้แต่งเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ไว้สองเพลงด้วยกัน เพลงแรกก็คือเพลงประจำตัวละคร ‘ทัด ไททานิก’ ส่วนอีกเพลงคือเพลงโปรโมตที่ชื่อ ‘กล่องเดียว เละ-ตุ้ม-เป๊ะ’ นั่นเอง

‘เฟย ภัทร เอกแสงกุล’ ผู้รับบทตัวละคร ‘ทัด ไททานิก’ ได้เนื้อเพลงแร็ปของตัวเองมาก่อนวันถ่ายแค่วันเดียว เขาใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างเดินทางกลับบ้านจากจันทบุรี และใช้เวลาคืนนั้นในการแร็ปเนื้อทั้งหมดให้คล่องปาก

‘อารักษ์ อาภากาศ’ เจ้าของเพลงที่ใช้คลอในช่วงปิดเรื่องอย่าง ‘อโหสิกรรม’ มีอายุครบ 69 ปี ในปีนี้พอดิบพอดี อีกทั้งเพลงนี้ก็ไม่ใช่เพลงแรกของเขาที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ของเป็นเอก มีอีกหลายเพลงด้วยกัน อย่างเพลง ‘น้อยก็หนึ่ง’ ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘ฝัน บ้า คาราโอเกะ’ ของเป็นเอก หรือเพลง ‘ส่วนที่หายไป’ ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘ฝนตกขึ้นฟ้า’ เป็นต้น

– สรุปจากทั้ง 6 ตอน มีสิ่งมีชีวิตที่ตายทั้งสิ้น 31 ชีวิต แบ่งเป็นคนตาย 30 คน และแมลงวันที่ตายในแก้วน้ำตุ้มอีก 1 ตัว โดยจากสถิติการตาย แน่นอนว่าตอนที่ตายเกลื่อนที่สุดคงหนีไม่พ้นตอนสุดท้ายที่เป็นไคลแม็กซ์ของเรื่อง โดยมีคนตายถึง 24 คนด้วยกัน ตายเยอะที่สุดในห้องของเอ็ม ช่างสักประจำชั้น 16 ข้างห้องของตุ้ม ที่มีตำรวจตาย 10 คน ซอนนี่และลูกน้องของเขารวมเป็น 2 คน ทัด ไททานิก 1 คน เอ็ม 1 คน และสมาชิกอื่น ๆ ในห้องอีก 4 คน รวมห้องเดียวตายไป 18 คน

รองลงมาคือห้องของตุ้ม ที่มีคนตาย 5 คน ฝั่งครรชิต 3 คน และฝั่งเสี่ยโต้ง 2 คน ยกเว้นสมพันธ์ที่โกงความตายและอยู่รอดมาได้อีกเกือบ 300 ปี จากการที่หัวหน้าแผนกตรวจเช็ควิญญาณให้กลับไปฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง และเขาขอให้ตัวเองตายหลังจากบอลไทยได้ไปบอลโลกสำเร็จ

ส่วนอีกห้องคือห้องของจิ๋ม ที่มีคนตาย 1 คน คือหมวดจอนที่ตั้งใจโกงความตายมาทำภารกิจจับแร็ปเปอร์ดังที่มั่วสุมยาเสพติดให้สำเร็จเพื่อชื่อเสียง แต่ก็ดันตายเพราะกามารมณ์ผสมความซวยของตัวเอง

ตอนอื่น ๆ ก็มีคนตายบ้างประปราย อย่างตอนที่ 1 ก็มีคนตาย 2 คนในห้องของตุ้ม นั่นคือเบิ้มกับน้อย ลูกน้องครรชิต ตอนที่ 2 มีคนตายคนเดียวคือปื้ด ส่วนอีกหนึ่งชีวิตคือแมลงวัน สำหรับตอนที่ 3 คนที่ตายก็คือจอนและสมพันธ์ที่โกงความตายมาได้ทั้งคู่ ส่วนตอนที่ 4 ไม่มีคนตาย มามีอีกครั้งก็คือตอนที่ 5 ที่มีคนตายเพิ่มอีก 2 คน ก็คือฝน และวิโรจน์นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : Netflix Thailand / Nontouch Promsri / Teerachot Jivorasetkul 1 2 / อารักษ์ อาภากาศ / readthecloud

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า