fbpx

ครบรอบ 12 ปี American Horror Story มหากาพย์ความหลอนซ่อนความสนุก

หากใครเป็นสาวกซีรีส์และภาพยนตร์สยองขวัญ-ระทึกขวัญ คงจะคุ้นเคยกับซีรีส์ที่เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์แห่งความน่ากลัว อย่าง American Horror Story เป็นอย่างดี ด้วยพล็อตเรื่องหลุดโลก เนื้อหาที่เข้มข้น หรือความสยดสยองที่ถูกนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีรีส์ชุดนี้ยังคงเป็นที่พูดถึงในหมู่คอซีรีส์สยองขวัญมาจนถึงปัจจุบัน

เนื่องในโอกาสที่ American Horror Story กำลังจะครบรอบ 12 ปี นับตั้งแต่วันออกอากาศครั้งแรก The Modernist ขออาสาพาทุกคน ค่อยๆ ดำดิ่งไปสัมผัสเสน่ห์ของซีรีส์สยองขวัญเรื่องนี้พร้อมๆ กัน

จุดเริ่มต้นของ American Horror Story นั้น เกิดจาก Ryan Murphy ผู้กำกับ นักเขียนบท และผู้อำนวยการสร้าง ที่ฝากผลงานไว้ในวงการทีวีซีรีส์มาแล้วหลากหลาย เขามีความตั้งใจที่จะสร้างผลงานที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยทำมา อาทิ มิวสิคเคิลซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจ อย่าง Glee ประกอบกับความชื่นชอบในแนวสยองขวัญเป็นการส่วนตัว เขาจึงจับมือกับ Brad Falchuk ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Glee ซึ่ง Falchuk ก็รู้สึกชื่นชมและเห็นด้วยกับสิ่งที่ Murphy คิดที่จะทำ จึงตกลงที่จะจับมือกัน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบใหม่อย่าง American Horror Story โดยมีเป้าหมายหลักคือการทำให้ผู้ชมหวาดกลัวอย่างที่สุด

Ryan Murphy และ Brad Falchuk
ที่มา : The Hollywood Reporter

จุดเด่นของซีรีส์ชุดนี้ คือการหยิบเรื่องราวที่มีอยู่จริงมาเป็นวัตถุดิบหลักในการเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ตำนานเมือง และเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง ที่มีชื่อเสียง โดยทั้งหมดอ้างอิงมาจากประเด็นที่โด่งดังเมื่อสมัย Murphy และ Falchuk ยังเป็นเด็ก ทำให้กลิ่นอายของแต่ละซีซั่นของซีรีส์ชุดนี้ มีความย้อนอดีตอยู่เสมอ รวมถึงการเล่าเรื่องที่จัดจ้าน ความเหนือธรรมชาติที่ถูกนำมาใส่ในแต่ละซีซั่นโดยไม่รู้สึกถึงความขัดแย้ง (เว้นแต่บางซีซั่น) หรือจะเป็นเรื่องของการใช้นักแสดงหน้าเดิมๆ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาในแต่ละซีซั่น ซึ่งนักแสดงแต่ละคนก็จะได้รับบทบาทที่แตกต่างจากซีซั่นอื่นๆ เป็นความสนุกสนานของผู้ชมในการรอชมนักแสดงที่ตนเองรักออกมาโลดเล่นบนหน้าจออีกครั้ง

และส่วนสำคัญที่สุดของความเป็น American Horror Story คือ วิธีการนำเสนอไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับจิตใจและสร้างความสยองที่มาจากจิตใต้สำนึก รวมไปถึงการที่แต่ละซีซั่นจะบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่เชื่อมต่อกัน สามารถดูซีซั่นไหนก่อนก็ได้ไม่ผิดแปลกแต่อย่างใด หากแต่ Murphy ได้เคยบอกไว้ว่า ทุกซีซั่นจะมีเรื่องราวที่เชื่อมต่อกัน แต่ว่าจะเชื่อมต่อกันอย่างไรหรือมากน้อยแค่ไหนนั้น อาจจะต้องให้ผู้ชมไปค้นหากันด้วยตัวเอง

12 ปีที่ผ่านมา มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ตลอด 11 ซีซั่นที่ผ่านมา (ขอไม่นับรวมซีซั่นล่าสุดที่ออนแอร์ได้เพียง 3 ตอน) จักรวาล American Horror Story จะมีการเล่าเรื่องที่ไม่มีความเชื่อมโยงกันแบบตรงๆ และในแต่ละซีซั่นจะมีเส้นเรื่องหลักที่แตกต่างกันไป โดยบอกเล่าเรื่องราวหลากหลาย ทั้งคดีฆาตกรรมหลายคดีที่ทับซ้อนกันในบ้านหลังเดียว (Murder House), การทดลองวิทยาศาสตร์อันสยดสยองกับผู้ป่วยจิตเวช (Asylum), สมาคมแม่มดที่ห้ำหั่นกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสูงสุด (Coven), คณะละครสุดพึลึกพิลั่นที่รวบรวมคนประหลาดร่างกายผิดเพี้ยน (Freak Show), โรงแรมอาถรรพ์ที่มีทั้งผีคนธรรมดา ผีฆาตกรต่อเนื่อง และแวมไพร์ (Hotel), อาณานิคมที่สูญสลายแต่คงไว้ซึ่งวิญญาณที่รอคอยวันที่จะแก้แค้น (Roanoke), การมัดรวมลัทธิสุดโหดของอเมริกาที่ตีคู่มากับการเสียดสีการเมือง (Cult), ภัยพิบัติล้างโลกและการปะทะกันระหว่างเหล่าแม่มดกับทายาทซาตาน (Apocalypse), แคมป์กลางป่ากับฆาตกรล่าหู (1984), ยาปลุกพรสวรรค์แต่ก็ต้องแลกกับอะไรบางอย่างที่น่าขนลุกและการร่วมมือกันของมนุษย์กิ้งก่ากับเอเลียนจากต่างดาวเพื่อยึดครองโลกใบนี้ไปจากมนุษย์ที่ไร้ค่า (Double Feature : Part 1 Red Tide and Part 2 Death Valley), การตามล่าหาตัวฆาตกรที่พุ่งเป้าหมายไปที่ชายชาวเกย์เท่านั้น (NYC) โดยเนื้อหาทั้งหมดจะถูกตั้งอยู่เงื่อนไขเดียวของสองผู้อำนวยการผลิต คือ ทำให้ผู้ชมหวาดกลัวอย่างที่สุด ซึ่งขอบอกเลยว่า เนื้อหาของแต่ละซีซั่นไปสุดในทุกทาง เล่นกับความกลัวในจิตใจของคนได้อย่างครบรส ไม่ใช่แค่การหลอกผีเพียงอย่างเดียว

และสำหรับซีซั่นที่โดนใจใครหลายๆ คน และมีการพูดถึงมากที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องราวในซีซั่น 9 ที่มีชื่อว่า 1984 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุค 80s ที่มีกลิ่นอายความ Retro มาแบบเต็มขั้น ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการเล่าเรื่องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์สยองขวัญแนว Slasher (ภาพยนตร์แนวไล่ฆ่า) ที่ฮิตมากในยุค 80s -90s เสื้อผ้าหน้าผมของเหล่าตัวละครที่สะท้อนแฟชั่นของวัยรุ่นยุคนั้นได้อย่างดี หรือแม้กระทั่งเพลงที่ใช้ประกอบในเรื่อง ก็มีความสนุกสนานคละเคล้าไปกับน่ากลัวได้อย่างลงตัว และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ มีตัวละครที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องชื่อกระฉ่อนในยุคนั้นอย่าง Richard Ramirez หรือที่รู้จักกันในนาม “The Night Stalker” ปรากฎตัวในซีซั่นนี้ด้วยเช่นกัน 

ส่วนประกอบความ Retro ถูกผสมผสานรวมกันกับความสยองขวัญในแบบ American Horror Story ได้อย่างลงตัว ออกมาเป็นผลงานที่คาดว่าดีที่สุด และเป็นผลงานที่ตกคนเข้ามาสู่จักรวาลซีรีส์ชุดนี้ได้มากที่สุดเช่นเดียวกัน

American Horror Story Season 9 “1984”
ที่มา : variety

เมื่อมีด้านที่ดีไปแล้ว ก็ต้องมีด้านที่อาจจะแย่ไปบ้างเป็นธรรมดา เข้ากับเรื่องราวในซีซั่นที่ 11 ที่มีชื่อว่า NYC ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของแฟนซีรีส์ชุดนี้อย่างหนักหน่วง เพราะ 10 ซีซั่นที่ผ่านมา ทั้งหมดมีการใช้ภูตผีเป็นส่วนประกอบในการดำเนินเรื่องทั้งหมด แต่ NYC ไม่มีการกล่าวถึงผีเลยแม้แต่นิดเดียว และเหตุนี้คงจะเป็นส่วนที่ทำให้แฟนๆ รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ American Horror Story ที่พวกเขารู้จัก เพราะทุกอย่างในเรื่องมุ่งเน้นไปที่ ความเป็นจริงทั้งหมด โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่า ซีซั่นนี้ค่อนข้างหลุดกรอบความเป็นซีรีส์ชุดนี้ไปเสียหน่อย ขาดความเหนือธรรมชาติ ไม่มีเรื่องราวที่ทำให้ขนหัวลุกมากมายเท่าไหร่ นอกจากจะเจอฉากที่ฆาตกรลงมือฆ่าเหยื่อเพียงเท่านั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า อะไรที่สมจริงเกินไป  คงจะไม่เหมาะกับการเป็น American Horror Story

American Horror Story Season 11 “NYC”
ที่มา : FX Network

สิ่งที่ทำให้ American Horror Story ยังเป็นซีรีส์ที่ผู้ชมยังคงติดตามและพูดถึงมาตลอด 12 ปี

American Horror Story มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากอยู่พอสมควร จากการหยิบเรื่องราวเกิดขึ้นจริงๆ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ตำนานเมืองที่ถูกเล่าขานต่อๆ กันมาอย่างยาวนาน คดีดังในอดีต รวมถึงเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียง (ในด้านลบ) และนำมาร้อยเรียงเรื่องราวให้น่าขนพองสยองเกล้าและเพิ่มความเหนือธรรมชาติเข้าไป ทำให้ซีรีส์ชุดนี้มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก การที่เหล่าแฟนๆ จะยังคงติดตามอย่างเหนียวแน่นคงจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ แล้วทำไมผู้ชมถึงไม่มีอาการเบื่อหน่ายเหล่านักแสดงหน้าเดิมๆ ที่สลับสับเปลี่ยนกันมาให้เห็นหน้าค่าตากันในแทบจะทุกซีซั่น  ไม่มีข้อมูลจากแหล่งใดอย่างแน่ชัด แต่มีข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในซีซั่น 11 ที่ใช้นักแสดงชุดใหม่เป็นส่วนใหญ่ ผู้ชมบางส่วนได้แสดงความเห็นว่า ไม่รู้สึกอินเพราะนักแสดงไม่ใช่คนที่พวกเขาคุ้นเคย จากข้อมูลนี้ อาจจะสรุปได้ว่า การใช้นักแสดงหน้าเดิมไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชมจะเบื่อหน่าย และยังสร้างความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ และต้องการที่จะเห็นนักแสดงที่พวกเขารัก กลับแสดงในบทบาทใหม่ๆ ที่คาดเดาไม่ได้อีกครั้ง

Sarah Paulson ในบทบาทต่าง ๆ ของ American Horror Story
ที่มา : TV OBSESSIVE

เรื่องราวบทใหม่ของ American Horror Story กับ ซีซั่นที่ 12 : Delicate

สำหรับซีซั่นล่าสุดนี้ จะมีความพิเศษตรงที่เป็นภาคแรกที่ดัดแปลงมาจากนิยาย ที่มีชื่อว่า Delicate Condition โดยต่างจากซีซั่นก่อนๆ ที่จะมีสารตั้งต้นมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง โดยเนื้อหาหลักจะเป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังตั้งครรภ์ แต่เธอเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่น่าขนลุกและชั่วร้าย กำลังพยายามทำให้เธอเสียลูกไป และบางอย่างที่ว่านั่น ละม้ายคล้ายกับแมงมุมยักษ์เสียด้วย ถือว่าเป็นซีซั่นที่น่าสนใจทั้งในเรื่องการปรับเปลี่ยนที่มาของเรื่องราวและการเล่นกับความกลัวแนวใหม่อย่างสัตว์แปดขาน่าตาชวนขนลุก ซึ่งถ้าหากใครกลัวแมงมุม แนะนำว่า อย่าดูดีกว่า

ใครที่เป็นแฟน American Horror Story รอชมกันแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Disney+ Hotstar เร็วๆ นี้

American Horror Story Season 11 “Delicate”
ที่มา : PEOPLE

อ้างอิง : entertainment weekly / washington post / logo tv / HuffPost / Netflix Official Thailand / decider / True ID / Rotten Tomato / PEOPLE

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า