fbpx

วิเคราะห์สถานการณ์ เมื่อผู้มีอำนาจคุมหมากบนกระดานการเมืองไทย

สถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยกับดักของระบอบอำนาจนิยมที่ฝังตัวไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ได้วางระบบผสมพันธุ์ทางระหว่างเผด็จการและพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชนไว้ ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องจำยอมยืมมือพรรคของ 2 ลุง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ  ซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พรรคพลังประชารัฐ  ที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อจะได้สามารถดึงเสียงสนับสนุนจาก สว. ให้มาโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เพื่อไทยให้ถึงฝั่งฝันสู่ประตูทำเนียบรัฐบาล

ถึงขนาดต้องเขี่ยพรรคก้าวไกลให้พ้นทาง อันเป็นเงื่อนไขจากฟาก สว. และพรรคร่วมรัฐบาลของฝ่ายอำนาจนิยมเก่า อ้างเรื่องการไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ รวมถึงติดเงื่อนไขที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายแก้ไขกฎหมายมาตรา112 ไปให้สุดด้วยการฉีก MOU ของพรรคร่วมประชาธิปไตยที่มีเสียงถึง 312 เสียงเพื่อให้พรรค พท.ได้มีโอกาสข้ามขั้วไปจับมือกับฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยมอย่างสบายใจ นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองไทย ณ ขณะนี้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่บนเกมกระดานที่พรรคเพื่อไทยกำลังเป็นตัวนำ โดยมีเป้าหมายสู่ทำเนียบรัฐบาลโดยไม่สนวิธีการหรืออุดมการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

เกมที่ชนะแต่เสียเปรียบ

เกมการเมืองที่เพื่อไทยเหมือนว่ากำลังจะได้เปรียบทางการเมือง เพราะสามารถก้าวข้ามพรรคการเมืองอันดับ 1 อย่างพรรรคก้าวไกล ที่มีคะแนนเสียง151 เสียง และเดินหน้าหาเสียงจากพรรคอื่นๆ ทั้งฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายอำนาจนิยม สู่สูตรสลายขั้วก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่สนภูมิหลังพรรคการเมือง อุดมการณ์ของพรรคการเมือง เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเต็มรูปแบบ 

แต่อาการที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าทักษิณ ชินวัตร เลื่อนกลับบ้าน สภาเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีแบบไม่มีกำหนด ล้วนส่อนัยถึงการดีลที่ไม่ลงตัวของพรรคเพื่อไทยยามไม่มีก้าวไกล จากที่เคยเสียงดัง ต่อรองได้ ก็เริ่มเสียงแผ่ว ถูกบีบครั้งมโหฬารเรื่องเก้าอี้คณะรัฐมนตรีที่ต้องแบ่งโควตาให้ลงตัวเสียก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี มิฉะนั้นยากที่จะการันตีส่งเศรษฐาถึงฝั่งฝัน โดยเฉพาะเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เป็นกระทรวงที่เนื้อหอมสุดๆ  ที่มีถึง 3 พรรคต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐรวมถึงเพื่อไทยเอง หรือจะเป็นเก้าอี้กระทรวงทรัพยากรธรรมมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้ากระทรวงเดิมอย่างชาติไทยพัฒนา บ้านใหญ่สุพรรณบุรี ต้องการเก็บโควตานี้ไว้ ขณะที่ พลังประชารัฐก็ต้องการเช่นกัน เรียกได้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ไม่นิ่ง รีบโหวตไปเศรษฐาอาจจะตกม้าตายกลางสภาก็เป็นได้ 

ข้ามมาที่ สว.ก็ส่งสัญญาณตีปี๊บดังๆ ออกมาว่าจะไม่สนับสนุนเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี หากเพื่อไทยไม่ดึงพรรคลุง พรรคใดพรรคหนึ่งเข้าร่วมรัฐบาล เรียกได้ว่าหน้าฉากเดินหน้าอย่างสวยๆ บนพรมแดง แต่หลังฉากเรียกว่าเดินมาแบบหน้าเขียวโซเซ ถูกต่อรองแบบขูดเลือดขูดเนื้อ เผลอๆ อาจต้องเสียเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ไป แถมหากเป็นรัฐบาลได้ต้องคอยระวังช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งจากฝ่ายค้านคุณภาพ และจากพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง การผ่านงบประมาณก็ต้องเคาะให้ลงตัว ดูเพื่อนร่วมทางว่าจะตีปี๊บดังหรือเปล่า รวมถึงการเสนอกฎหมายญัตติต่างๆ ที่ในอนาคตต้องถูกต่อรองจากพรรคร่วม หากพวกไม่เอาด้วยอาจต้องตกม้าตายเช่นกัน

นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ที่เพื่อไทยดูเหมือนจะชนะเกมการเมืองแต่กำลังเสียเปรียบตลอดเวลา ทั้งในขณะนี้และในอนาคต

เป็นรัฐบาลแต่ประชาธิปไตยถดถอย

“กรุงโรมไม่ได้สร้างภายในวันเดียวฉันใด ประชาธิปไตยก็ไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวฉันนั้น และเมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย ประชาธิปไตยถูกทำให้ถดถอย แช่แข็งจนไม่พัฒนา” 

ข้อความข้างต้นคือสภาวะของประชาธิปไตยไทย ที่เสมือนลูกผีลูกคน เพราะถูกบ่อนทำลายจากผู้มีอำนาจมาโดยตลอด ทั้งการรัฐประหาร การใช้องค์กรอิสระทำลายพรรคการเมือง รวมถึงการกดให้ประชาชนแสดงออกได้อย่างยากลำบาก วิธีการต่อไปที่เข้าทางพวกเขา คือการให้โอกาสพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยอ้างการเดินหน้าต่อ ประเทศรอไม่ได้เพราะเศรษฐกิจกำลังแย่ แต่วิธีการที่กำลังทำนั้น กำลังนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ถดถอย ตั้งแต่การจับมือกับพรรคทหารจำแลงอำนาจนิยมเดิมๆ อย่างพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ที่ทำร้ายประชาชนมาเกือบ 9 ปี พยายามทำให้ประชาชนขาดความรู้ ขาดกำลังทรัพย์ ทำให้ไม่สามารถต้านทานอำนาจรัฐบาลอำนาจนิยมได้ หรือจะเรื่องการอ่อนข้อให้กับ สว. มรดกบาปของเผด็จการจนสลัดก้าวไกลออกไป โดยไม่เคารพเสียงของประชาชนหลายล้านเสียง เพียงเพื่อเอาใจกลุ่มคน 250 คนเท่านั้น 

เกมนี้จึงเป็นเสมือนเกมที่เดินเข้าสู่ทางที่เผด็จการลอกคราบตีเนียนในระบอบประชาธิปไตยได้กำหนดไว้ เพราะพวกเขาจะเข้าไปในกลไกประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา ฝ่ายบริหาร องค์กรอิสระ โดยการดึงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมาเป็นนั่งร้านทำให้ฝ่ายตนสามารถต่อรองและคงอำนาจไว้ตลอดกาลได้สำเร็จ

 นี่คือภาพสถานการณ์อันเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจวางหมากไว้ และพร้อมจะทำทุกวิถีทาง ให้สามารถคงอำนาจควบคุมหมากบนกระดานได้ทั้งหมด พร้อมกับการบ่อนทำลายประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดคือของประชาชน ให้ถดถอยลงไป การเมือง ณ ขณะนี้จึงถูกพวกเขาควบคุมไว้ทั้งหมด และกำหนดได้อย่างใจนึก เป็นภาวการณ์ที่เล่นการเมืองไป ประชาธิปไตยถดถอยไป ศีลธรรมทางการเมืองกำลังขาดสะบั้นลง เพราะนักการเมืองบางกลุ่มบางคนกำลังเอาใจเจ้านายผิดคนที่ไม่ใช่ประชาชนนั่นเอง

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า