fbpx

ผลสำรวจเผยภาพข่าว “สงครามอิสราเอล” ส่งผลกระทบจิตใจของคน Gen Z 

จากเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่คาดฝัน นับเป็นเหตุโจมตีในภูมิภาคที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี เพียงแค่สามวัน มีคนเสียชีวิตไปกว่า 1,500 คน จากทั้งสองฝั่ง ภาพเหตุการณ์ หรือกราฟฟิกต่างๆ ไหลท่วมสื่อโซเชียลต่างๆ ตั้งแต่การจับตัวประกันชาวอิสราเอล การทรมาน กลุ่มฮามาสลงมือทำร้ายร่างกาย ไปจนถึงภาพชาวปาเลสไตน์กรีดร้องอย่างใจสลาย ทั้งสองฝ่ายต่างมีภาพคนเจ็บคนเสียชีวิตออกสื่อท่ามกลางซากปรักหักพัง  

แน่นอนว่าภาพเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ ชาว Gen Z มีอายุระหว่าง 11 – 26 ปี และเป็นกลุ่มคนที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับสื่อโซเชียล หลายคนได้เห็นภาพเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าภาพจะออกมาในแนวเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม คนเจนนี้โตมาพร้อมกับเหตุสะเทือนขวัญหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่โรคระบาดครั้งใหญ่ที่ในรอบร้อยปีจะโผล่มาหนหนึ่ง มาจนถึงสงครามยูเครน ซึ่งนับเป็นสงครามภาคพื้นดินครั้งใหญ่ของชาวยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ทั้งยังไม่นับรวมเหตุตลาดหุ้นร่วงครั้งใหญ่ในปี 2008 และ 2020   

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ชาว Gen Z เจอมาหมด ผ่านการเสพสื่อภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว บทความออนไลน์ จนรบกวนสภาพจิตใจของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว ส่งผลต่อทัศนคติในการทำงาน และนิสัยทางการเงิน

รายงานของ Edelman ในปี 2023 พบว่า Gen Z ในวัยทำงาน ที่มีอายุระหว่าง 18 – 26 ปี มีถึง 46% ระบุว่า พวกเขารู้สึกถูกรบกวนจิตใจอยู่เป็นประจำจากภาพข่าวที่สื่อออกมา จนทำให้พวกเขาไม่มีกะจิตกะใจในการทำงาน ในขณะที่ Gen Y ที่เป็นแบบนี้มีอยู่ 38% Gen X มีอยู่ 24% และคนในยุคเบบี้บูมเมอร์ มีเพียง 19% ที่รู้สึกว่า ภาพข่าวกระทบจิตใจ 

ผลสำรวจพบว่า Gen Z ที่เสพข่าวแนวนี้มาทั้งชีวิต จนกระทบจิตใจของพวกเขาก่อให้เกิดพฤติกรรมแตกต่างกันไป บางส่วนก็กลับมามุ่งมั่นหาเป้าหมายในการทำงานอย่างไม่ลดละ และต้องการให้นายจ้างมีความรับผิดชอบด้านมโนธรรมต่อพวกเขามากขึ้น แต่บางส่วนก็รู้สึกสิ้นหวังทั้งกับตัวเองและอนาคตการเงินโลก บ้างก็รู้สึกว่าท่ามกลางความบ้าคลั่งของชีวิตในยุคศตวรรษที่ 21 ทำให้ไม่รู้ว่าจะเก็บเงินไว้ทำไม สู้เอาออกมาจับจ่ายสร้างความสุขให้กับตัวเองดีกว่า  

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงมากขึ้น ทั้งในสหรัฐอเมริกาและที่อื่นๆ ก็ทำให้ชาว Gen Z ซึ่งเพิ่งจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ได้ไม่นาน มีสภาพจิตที่ย่ำแย่กว่าคนเจนอื่น  

ที่น่าสนใจก็คือ ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้ชาว Gen Z รู้สึกเศร้าและวิตกกังวล เกือบ 7 ใน 10 ที่รู้สึกวิตกเมื่อเห็นเนื้อหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในสื่อโซเชียล จากรายงานของ Pew Research ในปี 2021 เพราะ Gen Z ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ไปแบบเต็มๆ  ไม่ว่าจะเป็นในช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนสุดๆ แบบผิดปกติ ไฟป่าที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนและอีกหลายที่จนก่อให้เกิดปัญหาหมอกควัน และน้ำแข็งขั้วโลกละลาย และนี่คือสาเหตุว่า ทำไมชาว Gen Z ถึงเป็นห่วงในประเด็นความยั่งยืนมากกว่าคนใน Gen อื่นๆ   

ก่อนปี 2030 แรงงานในประเทศสหรัฐและที่อื่นๆ ทั่วโลก จะเป็นชาว Gen Z มากเกือบ 1 ใน 3 และคนกลุ่มนี้ก็นิยามความหมายของการทำงานในแบบใหม่ขึ้นมาแล้ว  คือ พวกเขาต้องการงานที่ทำแล้วรู้สึกว่า มีเป้าหมาย พวกเขาให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลในสถานที่ทำงาน ซึ่งต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน และตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การศึกษาและประเด็นทางสังคมอื่นๆ พวกเขายังเน้นไปที่ความสมดุลของการทำงานและการดำเนินชีวิต  

ชาว Gen Z ยังได้รับผลกระทบทางการเงินมากกว่าคนในเจนอื่นๆ เพราะพวกเขาประสบกับโรคระบาดที่คุกคามโลกมานานเกือบ 2 ปี จนเกิดภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ และหนี้การศึกษาที่พุ่งสูง ส่งผลให้คน Gen นี้ มีเงินเก็บน้อยกว่าค Gen อื่นๆในวัยเดียวกัน และเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มทางการเงินตลอดเวลา  

ชาว Gen Z เกือบ 60%  ยอมรับว่า ปี 2023 มีเรื่องเครียดเกี่ยวกับการเงินมากกว่าปีก่อนหน้า และ 85% ของ Gen Z บอกว่า ถ้าตกงานวันนี้ ก็ไม่มีเงินเก็บมากพอในการจับจ่ายให้ผ่านพ้นไปในหนึ่งเดือนแน่นอน พวกเขายังเจอกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง ต้องทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หรือจำใจต้องทำงานที่ค่าแรงน้อยดีกว่าตกงาน และสิ่งเหล่านี้ ก็กลายเป็นแผลทางใจอย่างถาวรของคนเจนนี้ จากการเปิดเผยของผู้เชี่ยวชาญ ที่ยังสงสัยว่า คนวัยหนุ่มสาวจะสร้างฐานะได้อย่างไร ถ้าพวกเขาไม่มีงาน อีกทั้งค่าครองชีพก็พุ่งสูงในปัจจุบัน  

ผลการศึกษายังพบว่า คนวัย 18 – 35 ปี มีถึง 45% ที่รู้สึกว่า ไม่รู้จะเก็บเงินไปทำไมถ้าสถานการณ์โลกยังไม่กลับคืนสู่ภาวะปกติ ชาว Gen Z บางส่วนยังมองว่า เงินทองคือมายา พวกเขาจึงเน้นการจับจ่ายเพื่อสร้างความสุขแบบชั่วครั้งชั่วคราว โดยไม่คิดจะเก็บเงินเอาไว้ 

แน่นอนว่า คนทุก Gen เคยผ่านช่วงเวลาความยากลำบากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกมาทั้งสิ้น อย่างยุค Gen Y ก็เกิดเหตุ 9/11 หรือยุค Baby Boomers ก็เคยผ่านการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิพลเรือนและสงครามเวียดนาม  แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไม่มีเจนไหนที่เสพสื่ออินเตอร์เนทตั้งแต่เกิดเหมือน Gen Z จึงทำให้พวกเขารับรู้ภาพข่าวและเหตุการณ์ต่างๆ อย่างละเอียด จนกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา : finance.yahoo

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า