fbpx

Ghost Tour  ทัวร์สายดาร์กมาแรง ทำรายได้กระฉูด

ทุกสถานที่ล้วนมีความทรงจำ ความทรงจำของผู้คนที่เคยเข้ามาพานพบ อาศัย ดำรงอยู่ ณ สถานที่นั้น ณ ช่วงเวลาหนึ่ง และได้ฝากรอยเอาไว้กับพื้นที่นั้น ๆ  แม้กาลเวลาผันผ่าน แต่ร่องรอยแห่งความทรงจำยังคงดำรงอยู่ กลายเป็นเรื่องเล่า ตำนาน และโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ โดยเฉพาะเหตุการณ์โศกนาฏกรรม เช่น ค่ายกักกันเอาชวิตซ์-เบียเคเนา ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโปแลนด์ และเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทุ่งสังหารที่ประเทศกัมพูชา โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่ประเทศยูเครน สุสานลาวาของเมืองปอมเปอีที่ประเทศอิตาลี รวมไปถึงป่าอาโอกิกาฮาระ ซึ่งอยู่ที่เชิงเขาภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น 

ที่มาภาพ : SBSNews

สถานที่ที่กล่าวไปข้างต้น ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก ที่ต้องการไปซึมซับเรื่องราวเก่าก่อนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จนมีคำนิยามใหม่ในแวดวงการท่องเที่ยวที่เรียกว่า ‘Dark Tourism’ หรือเรียกอย่างตรงตัวว่าการท่องเที่ยวสายดาร์ก ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ซุกซ่อนเรื่องราวโศกนาฏกรรมเท่านั้น แต่ยังแตกแขนงแยกย่อยออกไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังสถานที่ที่เคยมีการกล่าวอ้างว่าเป็นจุดพบเห็นมนุษย์ต่างดาว ซึ่งประเทศไทยก็มีสถานที่ชื่อดังอย่าง เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์ หรือการท่องเที่ยวเชิงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ (Paranormal Tourism) ซึ่งมีตั้งแต่การไปตามรอยสถานที่ที่เคยเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ไปเดินชมสุสาน บ้านผีสิง หรือเข้าพักในโรงแรมหลอน โดยในปี  2022 ตลาดการท่องเที่ยวสายดาร์ก มีมูลค่าตลาดสูงถึง  1 ล้านล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่าจะแตะถึง 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030 

ที่มาภาพ : bloomberg

Dark Tourism เมื่อเรื่องเล่าเคล้าความกลัวสร้างรายได้

ความนิยมของการท่องเที่ยวแบบ Dark Tourism ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จนที่มหาวิทยาลัยเซ็นทรัล แลงคาเชียร์ (University of Central Lancashire) ประเทศอังกฤษ ได้เปิดศูนย์วิจัยการท่องเที่ยว Dark Tourism เป็นการเฉพาะ โดย ดร.ฟิลิป สโตน ระบุว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องการต้องการเข้าอกเข้าใจเหยื่อและทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้มนุษย์ลงมือทำร้ายมนุษย์ด้วยกัน รวมไปถึงความต้องการที่จะค้นพบความหมายบางอย่างในสถานที่ที่เคยเกิดโศกนาฏกรรมในอดีต อย่างไรก็ตาม ดร.ฟิลิป สโตน ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า Dark Tourism ยังคงมีเส้นแบ่งระหว่างการมาเพื่อระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิต กับการมาเพื่อจุดประสงค์เพียงท่องเที่ยวอย่างเดียว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน Dark Tourism ได้กลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดย่อมไปเป็นที่เรียบร้อย

คำว่า Dark Tourism ถูกใช้ครั้งแรกในปี 1996 ต่อมาในปี 2000 มีหนังสือที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังเผยแพร่ออกมาชื่อว่า Dark Tourism : The Attraction of Death and Disaster ทำให้ Dark Tourism ถูกนำมาใช้ในวงกว้างอย่างแพร่หลาย โดยนิยามว่าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวหรือเยี่ยมชมสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความตาย โศกนาฏกรรม สงคราม หายนะ เหตุการณ์ภัยพิบัติ และยังขยายครอบคลุมไปถึงสถานที่ที่เคยเกิดอาชญากรรม และเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ

งานวิจัย An Exploratory Study of the Future Paranormal Tourist Experience on Ghost Tours ที่เผยแพร่ในวารสาร JOURNAL OF TOURISM FUTURES เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวสายดาร์กไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์มาแล้วหลายศตวรรษก่อนที่จะมีคำนิยามนี้เกิดขึ้นมาด้วยซ้ำ เช่น การเดินทางตามรอยแม่มดในช่วงยุคกลาง หรือการบุกเข้าไปเดินสำรวจในโบสถ์หรือปราสาทร้าง แต่ยุคปัจจุบันการเข้ามามีบทบาทของโซเชียลมีเดีย ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่น Millennials หรือ Gen Y  ขณะที่ Chicago Tribune หนังสือพิมพ์ของสหรัฐฯ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ผู้คนสนใจการท่องเที่ยวสายดาร์กว่า เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ความรู้สึกถึงอันตราย และมีความตื่นเต้นที่แฝงไปด้วยความกลัว แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความปลอดภัยอยู่ลึก ๆ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ได้รับการจัดเตรียมและมีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว

ที่มาภาพ : thundertix

Ghost Tour เสิร์ฟประสบการณ์สุดเฮี้ยนโดย Hauntrepreneurs

นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์แล้ว เมื่อเจาะลงไปยังการท่องเที่ยวสายดาร์ก มีสิ่งที่เรียก Ghost Tour ซึ่งเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยว Dark Tourism ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ผู้ประกอบการนำเที่ยวสายหลอน หรือ Hauntrepreneurs จะจัดทริปพาผู้ที่สนใจเรื่องลึกลับไปเดินชมบ้านที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามีดวงวิญญาณสิงสถิต หรือเคยมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น พร้อมไปกับบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของสถานที่นั้น ๆ โดยเว็บไซต์ thundertix ระบุว่าธุรกิจ Ghost Tour หรือ ทัวร์บ้านผีสิง เป็นธุรกิจนำเที่ยวที่้สามารถสร้างรายได้ได้ตลอดทั้งปี และได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นพิเศษในช่วงเดือนตุลาคม เนื่องจากเป็นเทศกาลฮาโลวีน โดยผู้ประกอบการมักจะเปิดให้จองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ และเพิ่มรอบการทัวร์เป็นพิเศษ 2-3 รอบต่อวัน 

สำนักข่าว Orlando Sentinel ของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า Ghost Tour ได้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ผลกำไรมหาศาลเหล่านี้ล้วนกระจายเม็ดเงินลงมาสู่คนในชุมชน ธุรกิจรายย่อย และร้านอาหารที่อยู่ในเส้นทางการทัวร์

ที่มาภาพ : bloomberg

คู่มือทำ Ghost Tour ฉบับกระเป๋า

การทำ Ghost Tour เป็นรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนต่างมองหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าขนลุกและตื่นเต้น แต่การเปิดธุรกิจ Ghost Tour ในไทยอาจจะติดอุปสรรคหลายด้าน เช่น ข้อกฎหมาย โดยเฉพาะประเด็นการเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของสถานที่คงแทบไม่มีใครอยากรื้อฟื้นเรื่องโศกนาฏกรรมในอดีตที่เกิดขึ้นในสถานที่พักอาศัยของตนเอง จึงเป็นรูปแบบธุรกิจที่ยังไม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Ghost Tour ก็เป็นโอกาสที่น่าดึงดูดใจไม่น้อย ดังนั้น The Modernist ก็อยากจะชวนแกะโมเดลธุรกิจ Ghost Tour ฉบับกระเป๋าจากต่างประเทศที่น่าสนใจ ซึ่งหากมองข้ามประเด็นการเป็นทัวร์บ้านผีสิงออกไป ธุรกิจนำเที่ยวรูปแบบอื่น ๆ อาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อทำการตลาดและกำหนดทิศทางของธุรกิจให้มีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น

1.เขียนแผนธุรกิจให้ชัดเจน 

การเขียนแผนธุรกิจช่วยให้สามารถวางแผนการใช้เงิน การลงทุนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงกำหนดกลยุทธ์การตลาดและออกแบบการโฆษณาให้น่าดึงดูด และสิ่งสำคัญคือศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและทำความเข้าใจกับคนในท้องถิ่น เมื่อมีแผนธุรกิจและใบอนุญาตแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือเริ่มโปรโมตธุรกิจนำเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงการตลาดออฟไลน์ในรูปแบบเดิม เช่น สิ่งพิมพ์โฆษณา ใบปลิว และการบอกปากต่อปาก

นอกจากนี้ต้องศึกษาความเป็นมาของสถานที่และประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นและตำนานพื้นบ้านไปพร้อม ๆ กัน เพื่อมอบประสบการณ์ให้ดีที่สุดให้กับลูกทัวร์ ซึ่งการเล่าเรื่องถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ 

2.กำหนดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน

หาให้ได้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาแบบครอบครัว กลุ่มคู่รัก กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ หรือกลุ่มที่ลุ่มหลงในเรื่องราวสยองขวัญ เมื่อกลุ่มลูกค้าชัดเจนจะทำให้สามารถกำหนดทิศทางของทัวร์ได้ตรงกับความสนใจของลูกค้าได้แม่นยำ อีกทั้งต้องคำนึงถึงลักษณะทางกายภาพของสถานที่ว่าเหมาะจะนำรถเข้าไปทัวร์ หรือเดินทัวร์ สองสิ่งนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน จึงต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด และยังสามารถนำสินค้าที่เกี่ยวข้องมาขายในระหว่างนำทัวร์ได้ด้วย

ที่มาภาพ : trolleytours

3.ศึกษาผู้เล่นในตลาดและสร้างความโดดเด่น

ธุรกิจทัวร์ผีสิง ส่วนมากจะตั้งอยู่ในสถานที่ประวัติศาสตร์หรือสถานที่ผีสิง ดังนั้นผู้ประกอบการต้องเลือกที่จะนำเสนอตัวเองให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งการเข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์และตำนานเมืองอย่างถ่องแท้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ 

4.ต้นทุนและกลยุทธ์ด้านราคา

ต้นทุนของธุรกิจทัวร์ผีนั้นเป็นเรื่องที่ระบุยากว่าจำนวนเงินควรอยู่ที่ปริมาณเท่าไร เนื่องจากมีตัวแปรมากมายที่ต้องนำมาพิจารณา โดยค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ในส่วนของพื้นที่สำหรับการจัดทัวร์ รวมไปถึงค่าออกใบอนุญาต ค่าประกันภัย การทำการตลาด และค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ การกำหนดราคาทัวร์ นอกจากคำนวนจากต้นทุนธุรกิจแล้ว ยังต้องคำนึงถึงราคาขายของธุรกิจคู่แข่งด้วย ซึ่งต้องหาจุดสมดุลในการทำกำไรและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกทัวร์ไปพร้อม ๆ กัน ส่วนกลยุทธ์นั้น การจัดโปรโมชั่นลดราคาสำหรับคนในท้องที่และลูกค้าประจำที่กลับมาใช้บริการซ้ำก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ 

ที่มาภาพ : .bloomberg

อ้างอิง emerald / bloomberg / avvale / dailymail / bangkokbiznews / longtungirl / thundertix / onceinlife

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า