ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมนี้ โดยเฉพาะการตั้งรัฐบาลสลายขั้วเดิมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรครัฐบาลเดิมที่ประกอบไปด้วยพรรค 2 ลุงคือ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น ได้สร้างความไม่พอใจในสังคมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ voter ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการให้พรรคร่วมมือกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังมี voter ของพรรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งที่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วดังกล่าว
และด้วยเหตุนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว จึงกลายเป็นที่วิพากษ์-วิจารณ์ต่อคนในสังคม จากการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่ง นพ. ชลน่านก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ จนวลีทางการเมืองคือ “เทคนิคการหาเสียง” จนสร้างความไม่พอใจต่อสังคมเป็นอย่างมากทำให้เกิด #ชลน่านลาออกกี่โมง ที่ใช้ Digital Footprint ของ นพ.ชลน่านเมื่อครั้งหาเสียงในการเลือกตั้งว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรค 2 ลุง ตนจะลาออก มาเป็นสิ่งกดดันให้ นพ. ชลน่านทำตามที่หาเสียงไว้
นอกจาก Digital Footprint การลาออกของ นพ. ชลน่านดังกล่าวแล้ว ยังมี Digital Footprint ของหมอชลน่านที่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง อื่นๆ อีกตามระยะตั้งแต่ยุบสภาฯ เมื่อเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งทาง The modernist ได้จัด Time line Digital Footprint ของ นพ. ชลน่าน มาให้ทุกท่านได้อ่านและเตือนความจำไปพร้อมๆกัน
“เพื่อไทย” อยุธยาป่วน! เสื้อแดงบุกเวทีปราศรัยร้อง “หมอชลน่าน” เปลี่ยนตัวผู้สมัครเขต 3
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 เว็บไซต์บ้านเมือง รายงานว่า กลุ่มเสื้อแดง 3 อำเภอ “ภาชี-อุทัย-วังน้อย”ยื่นขอเปลี่ยนตัวผู้สมัครส.ส.เขต3 จ.พระนครศรีอยุธา พรรคเพื่อไทย อ้างคนนอกเขต พร้อมเรียกร้องให้พรรคทำโพลหาผู้สมัครที่เหมาะสม
ทางด้านนพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า วันนี้เราไม่คิดใหญ่ไม่ได้ เพราะหลังจากที่พวกเราถูกยึดอำนาจไป 8 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติย่ำแย่ ถ้าปล่อยไว้ไม่คิดใหญ่ ประชาชนไม่มีโอกาสฟื้น โดยคิดใหญ่เรื่องแรกเราต้องเอาต้นเหตุความย่ำแย่ทั้งหลายออกจากประเทศไปก่อน เพราะมีคำว่า 3 ป. มายึดอำนาจและสืบทอดอำนาจ จึงขอแรงเอา 3 ป.กลับบ้านไป วันที่ 14 พ.ค. ขอให้ไปเลือกตั้งกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคยกจังหวัดทั้ง 5 เขต ซึ่งเมื่อวาน (22 มี.ค.) มีพรรคการเมือง 2 พรรคไปกินข้าวด้วยกันเจตนาถ่ายรูปโชว์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จับมือกันตั้งรัฐบาล ทั้งที่ประชาชนยังไม่มอบอำนาจให้ โดยทั้ง 2 พรรคนี้จะรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งรัฐบาลให้ได้ 203 เสียง ถ้าประชาชนไม่เอาก็ขอให้เลือกเพื่อไทย
“หมอชลน่าน” ไม่ยืนยัน “ชัยเกษม” เป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่ 3 พรรคเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ข่าวช่อง 8 รายงานว่า “หมอชลน่าน” ไม่ยืนยัน “ชัยเกษม. เป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่ 3 พรรคเพื่อไทย บอกทุกชื่อมีโอกาสหมดยังกก.บห.ยังไม่สรุป แจง ไม่มีชื่อ “อุ๊งอิ๊งค์-เศรษฐา” ในบัญชีรายชื่อเพราะทั้งคู่ไม่ต้องการเป็นผู้แทน
นอกจากนี้นายแพทย์ชลน่านยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลลับกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และหากต้องจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่น ก็จะใช้จำนวน ส.ส.เป็นเกณฑ์แรกในการเลือกว่าจะจับมือกับพรรคใด และต้องดูแนวทางในการทำงานร่วมกันว่าไปด้วยกันได้หรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขต่อรองในการทำงานร่วมกัน
และที่สำคัญที่สุดคือหากประชาชนไม่สนับสนุนก็ร่วมไม่ได้ ทั้งนี้ไม่สามารถยืนยันได้ชัดว่าจะไม่จับมือพรรคใดบ้าง เพราะเคารพการตัดสินใจของประชาชน ให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ตัดสินใจอย่างอิสระ เมื่อประชาชนมอบอำนาจให้แล้วจึงจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่าอะไรที่ประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะไม่ทำ เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นพรรคการเมืองของประชาชนไม่ได้
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่จับมือกับพลังประชารัฐและ พล.อ.ประวิตร
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 เว็บไซต์ The Matter รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยบนเวที ‘5 เมษา คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ซึ่งจัดขึ้นที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม โดยระบุว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และล่าสุดได้ส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ครบทั้ง 3 คน ได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร เศรษฐา ทวีสิน และชัยเกษม นิติสิริ
“เราพูดมาหลายครั้งแล้วว่าไม่มีดีลลับกับใคร แต่ยิ่งพูดข่าวยิ่งออก ฉะนั้น ผมขอประกาศเลยว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลลับกับพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
“ชลน่าน” ย้ำจุดยืน ไม่จับมือ พปชร.-ก้าวไกล ซัด ไม่เอาพรรคทหารจำแลง
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ไทยรัฐดีเบต เลือกตั้ง’66 #เริ่มใหม่ไทยแลนด์ กับไทยรัฐ ดำเนินรายการโดย จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ซึ่งครั้งนี้จัดดีเบตประชันวิสัยทัศน์และนโยบายแบบสัญจรที่ จ.เชียงใหม่
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “ผมต้องขอพูดเรื่องนี้ ต้องประกาศให้ชัด เราพรรคเพื่อไทย ไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ยัน เราไม่มีดีลลุงป้อม ขอประกาศชัด ถ้ามีจับมือกัน ผมขอลาออกหัวหน้าพรรค อันนี้ แม้รู้ผลการเลือกตั้งแล้ว ก็ไม่จับมือ อย่างไรก็ตาม มติพรรคคือมติพรรค แต่ผมพูดในนามหัวหน้าพรรค ถ้ามีมติพรรคมาลบล้างคำพูดผมในอนาคต ผมขอลาออกไง”
ชลน่าน กล่าวต่อว่า คำตอบที่เราบอกไม่จับมือกับ พปชร. คือ ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาล ไม่ต้องถามว่า สิ้นสุดเมื่อไหร่ ส่วนกฎเกณฑ์พรรคก็ต้องมีมติพรรค “ขอย้ำ หากมีการหักคำพูดผม ผมขอลาออก แต่หากพรรคเพื่อไทยไปหักความต้องการประชาชน พรรคเพื่อไทย เตรียมไปเป็นพรรคต่ำ 10 ได้” ชลน่าน กล่าว
เลือกตั้ง 2566 : “แพทองธาร” ทิ้งไพ่ขอเสียงกาเบอร์ 29 พาเพื่อไทยเข้าทำเนียบ
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ Thai PBS รายงานว่า บรรยากาศที่อิมแพค อารีน่า เมือง ทองธานี พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ ภายใต้แคมเปญ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ประเทศไทยเปลี่ยนทันที โดยภายในฮอลล์ สามารถรองรับกองเชียร์ได้ 20,000 คน ทางพรรคได้เตรียมทั้งเก้าอี้ด้านล่าง ติดเวที และเก้าอี้ที่อยู่บนอัฒจันทร์ 3 ชั้น ขณะที่เวทีได้ติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ โดยมีพื้นหลังเป็นภาพข้อความของงาน
“เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” เป็นประโยคแรกของ นพ.ชลน่าน ที่ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมขอบคุณแทนคนพรรคเพื่อไทยที่มาสนับสนุน และขอเสียงประชาชนจะเข้ามาอยู่ในหัวใจของคนเพื่อไทย ท่ามกลางเสียงเชียร์ ดังกระหึ่ม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณเสียงสนับสนุนเพื่อส่งกำลังใจให้พรรค 400 วัน 400 เวที ที่คนเพื่อไทยทำงานหนักมาตลอด เพื่อไทยต้องการให้แลนสไดล์จากการตัดสินใจ และจากการทำงานในพื้นที่
นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนมุ่งเข้าสู่เส้นชัย การปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนมุ่งเข้าสู่เส้นชัย ต้องย้ำกับพี่น้องให้ชัดว่า “แลนด์สไลด์” ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งก็ยิ่งต้องแลนด์สไลสด์ เพราะมีความสำคัญมาก ถ้าไม่แลนด์สไลด์ จะสูญเสียและขาดโอกาส แต่ถ้าแลนด์ไสลด์จะตั้งรัฐบาลในนามของพรรคเพื่อไทย “ไม่แลนด์ไสลด์ไม่ได้ ต้องได้ส.ส.250 คนขึ้นไป ถ้าไม่ได้ 250 คน ตาอยู่ ตาลุง 2 คนจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีใหม่ ประยุทธ์ ประวิตร กลับมาเป็นนายกฯ พี่น้องเอามั้ยครับ”
“พรรคเพื่อไทยยินดีให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล” ชลน่าน ศรีแก้ว
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ The Matter รายงานว่า ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, ภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรค, แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, และประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
ชลน่านเริ่มต้นว่า ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปราฏแล้วว่าก้าวไกลเป็นพรรคที่ได้ลำดับที่หนึ่ง เพื่อไทยได้ลำดับที่สอง ขอขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิและเลือกพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตย “ขอแสดงความยินดีและยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวจัดตั้งรัฐบาล และเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลชวนพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมาร่วม พรรคเพื่อไทยยินดีให้การสนับสนุน และขอยืนยันว่าไม่มีแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล” หมอชลน่านกล่าว
‘ชลน่าน’ บอกเพื่อไทยเป็นเจ้าสาวที่ไม่เรียกสินสอดในการร่วมรัฐบาล!
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะนัดประชุมหารือในการจัดตั้งรัฐบาลช่วงเย็นวันนี้ว่า เป็นการประสานงานพูดคุยกัน ซึ่งเริ่มจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.ได้แถลงไปว่าจะมีการติดต่อประสานมาที่ทางพรรค และทางพรรค พท.ได้รับการติดต่อประสาน ซึ่งเป็นการพูดคุยนอกรอบ โดยกระบวนการหลังจากนั้นเราจะตั้งผู้แทน โดยมอบให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.ได้พบปะพูดคุยกับเลขาพรรคก้าวไกลกันเบื้องต้นแล้ว
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ทฤษฎีในการจัดตั้งรัฐบาลขั้วต่างๆ ว่า หากเพื่อไทยไม่ได้จับมือกับก้าวไกล มีแนวโน้มอาจไปจับกับขั้วอื่นๆ ในฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวยืนยันว่า ไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ หากพรรคเพื่อไทยไม่จับกับก้าวไกล พรรคก้าวไกลก็จะขยับไม่ได้เลย แต่เรายอมรับฉันทามติของพี่น้องประชาชน เราไม่มีเงื่อนไขใดๆ “แม้เราจะเป็นเจ้าสาวสวยๆ แต่เราไม่เคยกำหนดว่าจะต้องเอาสินสอดทองหมั้นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราไม่เคยเสนอก่อน เราเพียงแค่บอกว่าคุณก็เสนอมาสิ เราจะดูว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่เท่านั้นเอง” นพ.ชลน่านกล่าว
‘ชลน่าน’ ลั่นเป็นไปไม่ได้ เพื่อไทยจะจับมือพปชร.ตั้งรัฐบาล ยืนยันหนุนพิธาเป็นนายกฯ
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานว่า ที่ห้องแกรนด์ บอลลูม โรงแรมคอนราด กทม. มีการลงนามข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับประเด็นการวิเคราะห์ในรายการที่พูดถึงว่า ยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แล้วมารวมกับพรรคเพื่อไทย ได้ 182 เสียง เป็นเสียงข้างมาก และพรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาล
มีนักวิชาการมาวิเคราะห์ว่า 3 ล้านเปอร์เซ็น ยืนยันว่าเพื่อไทยไม่เคยรับรู้ รับทราบ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคได้ยินข่าวจากการวิเคราะห์ ยังยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวง เพื่อไทยไม่รับรู้ ขอปฏิเสธ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แม้เหตุการณ์จะเกิดจริงหรือไม่จริง แต่ความเป็นไปได้ที่เพื่อไทยจะรวมกับ พปชร.ยุบพรรค ต้องตอบตรงนี้ว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องตอบแบบนี้ และสำคัญสุดหวังว่าเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันครั้งที่ 501 เรายังยึดมั่นเจตนารมณ์ที่ประกาศหนุนนายพิธา เป็นนายกฯ คนที่ 30 และร่วมมือกับก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
แกนนำเพื่อไทย ประสานเสียง ยืนยันไม่มีดีล ตั้งรัฐบาลที่ฮ่องกง
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า ที่ห้องบอลรูมโรงแรมคอนราด กทม. ซึ่งเป็นสถานที่พรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นัดพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย , พรรคประชาชาติ , พรรคเสรีรวมไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง, พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ เซ็นเอ็มโอยูเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกระแสข่าวแกนนำพรรคการเมืองจากหลายพรรค ได้พบปะ และรับประทานอาหารร่วมกันกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน
หากพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ โดยแกนนำพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน ประสานเสียงพร้อมกัน ว่า “ไม่มี ไม่มี” เมื่อถามว่ายืนยันใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เพื่อไทยยืนยัน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ก็ได้ทวิตเตอร์ ปฏิเสธข่าวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “อยู่ที่ดูไบ ไม่มีแพลนไปฮ่องกง”
“ชลน่าน” ยืนยันเป้าหมายสูงสุด ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มี “พิธา” เป็นนายกฯ
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเด็น “ก้าวไกล-เพื่อไทย” ส่อแววร้าวหรือไม่ ปมแย่งเก้าอี้ประธานสภา
“ฉะนั้นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย ขณะนี้คือต้องทำความเห็นต่างมาเป็นความเห็นร่วมที่ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชน คือการทำรัฐบาลประชาธิปไตยที่เขาคาดหวัง มีนายกรัฐมนตรีชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อันนี้เป็นเป้าหมายสูงสุด” น.พ. ชลน่านกล่าว สำหรับพรรคเพื่อไทย มีเป้าหมายเหมือนกันคือรัฐบาลประชาธิปไตย มีพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เรามีเป้าหมายแบบนี้ เพราะเราต้องการรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากพี่น้องประชาชน 24 ล้านเสียงมอบให้ และสิ่งที่เห็นขณะนี้จากฝั่งผู้ที่ยึดอำนาจเรามาคือจะถูกปิด อันนี้เป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา ซึ่งถ้าไม่ทำตรงนี้ฝั่งนั้นที่กุมอำนาจเดิมยิ้มเลย ลุกขึ้นมาสืบทอดอำนาจต่อได้อีก ฉะนั้นเมื่อเรามีเป้าหมายร่วมกัน การพูดคุยไม่ยาก ส่วนที่ใครจะได้ตำแหน่งไหนอย่างไร มันคือความเหมาะสม และก็เป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดให้ได้ บนพื้นฐานของความไว้ใจเชื่อใจกัน และจับมือไปด้วยกัน
หมอชลน่านปัด ไม่มีสารพัดดีลลับ เดินหน้าตั้งรัฐบาลร่วมกับก้าวไกล พรุ่งนี้ถกพรรคร่วม ยังไม่คุยเรื่องตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ THE STANDARD รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกรณีข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดง FC เพื่อไทย ที่ให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล
นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยมีดีลลับกับพรรคต่างๆ ว่าพรรคเพื่อไทยขอปฏิเสธ หลังจากเลือกตั้งมาพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลลับกับใคร มีแต่ดีลจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมลงนามใน MOU เท่านั้น อยากให้ไปถามคนที่เสนอออกมา หากเป็นดีลลับทำไมถึงมีคนรู้แล้วออกมาปล่อยข่าว ก็อยากให้ไปถามคนนั้น
ส่วนกรณีปรากฏภาพ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อยู่ร่วมเฟรมกับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แล้วนำไปโยงกับดีลลับนั้น เศรษฐาทวีตข้อความออกมาชัดเจน เศรษฐาเป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องนี้เขาเตรียมตัวเป็นเดือน อีกทั้งการดูฟุตบอลเป็นสิทธิเสรีภาพ ยืนยันไม่มีดีลลับ
“เรา (พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ) จะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ The Matter รายงานว่า ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวถามถึงความเชื่อมั่นในการจัดตั้งรัฐบาล ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้กล่าวในช่วงหนึ่งว่า “ในเรื่องความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ในเรื่องการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล เราได้รับมอบอานัติจากพี่น้องประชาชนมารวม 25 ล้านเสียง ฉะนั้น เจตจำนงค์ของพี่น้องประชาชนขนาดนี้แล้ว เราปฏิเสธไม่ได้ครับที่จะทำตามความหวัง ความฝันของพี่น้องประชาชนให้บรรลุในสิ่งที่เขาต้องการคือ รัฐบาลจากฝ่ายเสรีประชาธิปไตย”
“มันเป็นการมัดที่แน่นกว่าการมัดอย่างอื่น เป็นข้อผูกมัดที่เราเองคำนึงถึงเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” เมื่อชลน่านกล่าวจบ พิธาได้ยื่นมือให้จับและทั้งสองก็ถ่ายรูปคู่กัน โดยชลน่านหันไปถามผู้สื่อข่าวว่า “หวานไหมๆ”
“ชลน่าน” ปัดดีลลับ ยัน“เศรษฐา”ดูบอลที่อังกฤษ เคยพูดไว้นานแล้ว ไปส่วนตัวไม่เกี่ยวพรรค
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยชมการแข่งขันฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนเพิ่งทราบจากสื่อ แต่นายเศรษฐาเคยพูดไว้ก่อนแล้วว่าจะไปดูฟุตบอล ถ้าตั้งสมมุติฐานเรื่องดีลลับตนไม่มีความเห็น เชื่อว่านายเศรษฐาไม่ใช่คนเช่นนั้น กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจังหวะเดียวกับที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยเรื่องดีลลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะจับขั้วตั้งรัฐบาลใหม่โดยให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น นายเศรษฐาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ภารกิจที่เขาไปทำเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เป็นภารกิจของพรรค ยืนยันว่าในมุมของพรรคไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร เราขอปฏิเสธว่าไม่มีดีลลับอะไรต่างๆ แม้แต่เจ้าตัวที่ถูกพาดพิงก็แจ้งมาในสื่อโดยตรง ฉะนั้น ขอยืนยันอย่าเอาเหตุการณ์ไปผูกให้เป็นเรื่องสอดรับสอดคล้องกัน ปรากฎการณ์อาจเกินขึ้นในจังหวะที่สอดรับกันได้ แต่ตนมั่นใจว่าไม่ใช่ และขอยืนยันว่าไม่ใช่ในนามพรรคเพื่อไทย
เลือกตั้ง 2566 : ย้ำไม่มีดีลลับ! “ชลน่าน” ขออย่าผูกโยงเหตุการณ์
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เว็บไซต์ PPTV รายงานว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายชูวิทย กมลวิศิษฏ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มีดีลลับจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกลนั้นว่า ตนขอยืนยันว่า ในมุมของพรรคไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร เราขอปฏิเสธว่าไม่มีดีลลับที่ถาม แม้แต่เจ้าตัวที่ถูกพาดพิง เขาก็แจ้งมาในสื่อ โดยตรง เพราะฉะนั้นขอยืนยัน อย่าเอาเหตุการณ์หลายๆ เรื่องไปผูก ให้เป็นเรื่อง ที่มันเหมือนจะสอดรับสอดคล้องกัน ปรากฎการณ์มันอาจจะเกิดขึ้นในจังหวะมุมที่สอดรับกันได้ แต่มั่นใจว่าไม่ใช่ และขอยืนยันว่าไม่ใช่ในนามเพื่อไทย
“ชลน่าน” ยัน ไม่มีสูตรพลิกขั้ว เป็นพรรคอันดับ 1 เชื่อคุมเสียง ส.ส.โหวต ปธ.สภาฯ ได้
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เว็บไซต์ PPTV รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ไม่ได้มีแนวคิดแย่งความเป็นพรรคอันดับ 1 จากก้าวไกล ด้วยการรวมเสียงส.ส.จากพรรคอื่นมาอยู่พรรคตัวเอง ตามที่ถูกวิจารณ์อยู่ตอนนี้ เพราะตอนนี้ถือว่า กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว หมายความว่า ก้าวไกล ชนะ เป็นพรรคอันดับ 1 สมบูรณ์แล้ว
นพ.ชลน่าน มองว่า เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ แต่หากพูดถึง ในทางปฏิบัติการยุบรวมพรรค ย้ายไปอยู่พรรคอื่นสามารถทำได้ นพ.ชลน่าน เผยว่า ต่อให้ทำก็ไม่เกี่ยวกับการชิงตำแหน่งใดใด เพราะ เมื่อตัดสินใจร่วมรัฐบาลแล้วจะมีเสียงเท่าไหร่ก็รวมรัฐบาลอยู่ดี เว้นแต่จะมีการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่เชื่อว่าปลายทางของวิธีนี้คือยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
“ถ้าเงื่อนไขนี้เป็นเหตุเพื่อการจัดตั้งรัฐบาล มันจบแล้ว ก็ กกต.เขาประกาศแล้ว เขาประกาศ 151 เขาประกาศ 141 แล้ว ต่อให้ 141 คุณจะไปรวมมาอีก 80 คุณก็ไม่มีสิทธิเป็นเสียงข้างมาก เพราะรัฐบาลมันจัดตั้งไปแล้ว ยกเว้น คุณบอกว่าคุณมีเสียงข้างมากฉันถอนตัวอันนั้นคือวิธีการปฏิบัติ เขาก็ยุบสภาเขาก็เลือกตั้งใหม่”
“ชลน่าน” ยืนยัน ไม่มีดีลลับที่อังกฤษ เสียงเพื่อไทยไม่แตกวันโหวตประธานสภา
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า ที่พรรคไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมกรรมการบริหารพรรค และประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่เราทราบความต้องการของสมาชิกพรรคที่อยากให้พรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งประธานสภา ซึ่งคณะเจรจาก็มีข้อเสนออีกมุมหนึ่ง จึงจะนำสองมุมมองนี้มาหารือร่วมกันก่อนไปคุยกับพรรคก้าวไกล ว่าทั้งสองพรรคจะมีทางออกอย่างไร เมื่อถามว่า หากคุยกับพรรคก้าวไกลแล้ว ก่อนโหวตเลือกประธานสภา
เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้วจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในมุมเพื่อไทยมั่นใจไม่เกิดขึ้น เกิดขึ้นแต่ในมุมมองของสื่อ เมื่อถามถึงความกังวลในการเสนอชื่อนายกฯ แข่งของฝ่ายรัฐบาลเดิมในวันโหวตเลือกนายกฯ เมื่อรวมกับเสียงของ ส.ว.จะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ เพราะเขามีสิทธิที่จะทำ หากเขาทำเช่นนั้นโอกาสได้นายกฯ สูงมาก เพราะเขามีเสียง 188 บวกกับ ส.ว. 250 ก็เกิน 276 เสียง ก็ถือเป็นข้อกังวล แต่หากการโหวตครั้งแรกๆ เขาน่าจะมีความละอาย ไม่เกรงกลัวต่อบาปก็ได้
ดังนั้น เขาน่าจะละอายที่ไม่เสนอชื่อนายกฯ เสียงข้างน้อยมาแข่ง อย่างไรก็ตาม หากเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง เรามีหน้าที่รับมือไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เมื่อถามว่า ส.ว.บางคนแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่โหวตเลือก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คนที่ตัดสินคำนั้นดีที่สุดคือประชาชน เพราะประชาชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เหตุผลที่เขาจะมีรัฐบาลเสียงข้างน้อย คือเขาเป็นนายกฯ เพื่อยุบสภา และสกัดกั้นไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาลเท่านั้น ต้องถามว่าประชาชนเอาหรือไม่ รับได้หรือไม่
กรณีของ นพ. ชลน่าน นั้นทำให้หลายคนนึกถึงกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส. สืบเนื่องมาจากมติของทางพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมกับรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สำหรับกรณีของ นพ.ชลน่านนั้น นพ. ชลน่านยืนยันว่า ตนจะลาออกแน่ แต่ต้องรัฐบาลให้สำเร็จก่อนเท่านั้น
ผู้เขียน : ณัฐชนน จงห่วงกลาง
อ้างอิง : thaich8 / banmuang / thematter 1 2 / thairath 1 2 3 / thestandard / thaipost 1 / mgronline / pptvhd36 1 / thaipbs / khaosod
Content Creator
