ในขณะที่สังคมจับตามองความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้งจากเสียงประชาชน ด้วยความหวังที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศ แต่ดูเหมือนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เมื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกคนที่ 30 ต้องเผชิญกับอุปสรรคอันถาโถม ถูกร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของการเป็น ส.ส. ปมหุ้นสื่อ อีกทั้งทาง กกต. ก็ยังไม่มีท่าทีรับรองผลการเลือกตั้งในเร็ววัน
ในช่วงเวลาที่ยืดเยื้อยาวนานในช่วงรอยต่อรัฐบาล เรื่องที่หลายภาคส่วนกังวลใจคือประเด็นเกียร์ว่างของข้าราชการ หรือการละเลยการปฏิบัติในหน้าที่ของเจ้าพนักงาน จนเกิดความล่าช้าในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังส่งผลกระทบกับประชาชน
เกียร์ว่างของข้าราชการ คือพฤติกรรมของข้าราชการไม่ว่าจะเป็น รัฐมนตรี ตำรวจ หรือข้าราชการประจำ ที่ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง เหมือนกับรถที่จอดติดเครื่อง แต่ไม่ได้วิ่งไปไหน แถมสิ้นเปลืองพลังงานไปอย่างเปล่าประโยชน์
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ยอมรับถึงเกียร์ว่างของข้าราชการว่ามีมาตั้งแต่ก่อนการยุบสภา และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาช่วงปลายสมัยของรัฐบาล โดยสาเหตุเกิดจากความไม่แน่ใจของข้าราชการที่ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติหน้าที่อย่างไรก่อนรัฐบาลใหม่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อ จึงชะลอบางโครงการที่ไม่เร่งด่วนไว้ก่อน
สถานการณ์ดังกล่าวขัดแย้งกับกฎหมายมาตรา 168 (1) ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ที่ได้กำหนดไว้ว่า เมื่อคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งเพราะอายุของสภาผู้แทนราษฎรหมดลง ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นมาใหม่จะเข้ารับหน้าที่
รัฐบาลใหม่มองไปข้างหน้า รัฐบาลที่อยู่ตรงหน้าต้องแก้ไขวันนี้
แม้ประเด็นที่คนให้ความสนใจคือนโยบายของพรรคการเมืองที่จะก้าวเป็นรัฐบาลชุดใหม่อย่างพรรคก้าวไกล ที่มีมากกว่า 300 นโยบาย สร้างความหวังใหม่ให้กับประชาชนภายใต้คอนเซ็ปต์ “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” ทว่านโยบายเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้จริงก็ต่อเมื่อพรรคก้าวไกลสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งในตอนนี้ นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลก้าวไกล เป็นเพียงนโยบายในฝันที่คนไทยหลายคนต้องการ และนโยบายทั้งหมดจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องในอนาคตที่ประชาชนต้องจับตาดูกันต่อไป
ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทางพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาล ไม่สามารถดำเนินนโยบายต่าง ๆ ได้เพราะยังไม่มีอำนาจในการเข้ามาบริหารประเทศ โดยต้องผ่านหลายขั้นตอน ตั้งแต่การรอ กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง การเปิดประชุมสภาเลือก ส.ส. และ สว. จนไปถึงขั้นตอนการเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน
ข้าราชการนิ่งนอนใจ ขณะที่ประชาชนคนไทยเผชิญปัญหา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยทุกวันนี้มักเป็นเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่ต้องอาศัยกระบวนการทางกฎหมาย และภาครัฐที่ควรยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหามลพิษ ปัญหาพืชผลทางเกษตรกร ปัญหาการทำงานหนักของบุคลากรทางการแพทย์ หรือแม้กระทั่งปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบประชาชนในวงกว้าง และตราบใดที่ประชาชนยังปากกัดตีนถีบในการทำมาหากิน ข้าราชการในรัฐบาลประยุทธ์ควรที่จะหยุดใส่เกียร์ว่างแล้วเดินหน้าแก้ไข หยุดพฤติกรรมปล่อยปละละเลยเพิกเฉยความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะยิ่งจะทำให้ประเทศค่อย ๆ ถอยหลังลงเรื่อย ๆ
ข้าราชการเกียร์ว่างทำตัวไร้ค่า สิ้นเปลืองภาษีประชาชน
ข้าราชการเกียร์ว่างไม่ต่างกับเสือนอนกิน ที่ได้รับผลประโยชน์ด้วยอำนาจของตนเอง โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง ซึ่งผลประโยชน์ดังกล่าวล้วนมาจากภาษีของประชาชนทั้งสิ้น เมื่อยามประชาชนเดือดร้อนกลับปล่อยปละละเลย บ้างก็ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนไปกับโครงการที่ไม่ได้เกิดประโยชน์กับประชาชนจริง ๆ
อีกหนึ่งภาพจำของข้าราชเกียร์ว่างที่หลายคนคุ้นตากัน คงเป็นภาพการประชุมสภาของสว. ที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุมมากกว่า 10 ครั้ง จนได้รับฉายาว่า “สภา 3 วันดี 4 วันล่ม” ในขณะที่ประชาชนเฝ้ารอทางออกของปัญหา แต่ข้าราชการเกียร์ว่างกลับทำตัวไร้ค่า ผลาญเงินภาษีประชาชนไปวัน ๆ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง อยากส่งเสียงสะท้อนกลับไปถามรัฐบาลประยุทธ์ว่า การปล่อยให้เกิดเกียร์ว่างของข้าราชการในช่วงรอยต่อรัฐบาลเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ และทำไมภาษีทุกบาททุกสตางค์ของประชาชนคนไทยกลับกลายเป็นเงินบำรุงบำเรอให้กับข้าราชการกลุ่มเกียร์ว่าง
ทั้งนี้ประชาชนทุกคนต้องหันกลับมามองการเมืองปัจจุบัน โดยต้องไม่ลืมไปว่ารัฐบาลที่ยังรับใช้ประชาชนจนกว่าประเทศไทยจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ก็คือ ‘รัฐบาลประยุทธ์’ ปัญหาที่ยังคาราคาซัง เป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลประยุทธ์ควรจะเร่งแก้ไข มากกว่าการปล่อยให้ข้าราชการเกียร์ว่างตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอรัฐบาลใหม่มาช่วยแก้ไขอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ประชาชนทุกภาคส่วนต้องติดตามผลงานของรัฐบาลประยุทธ์อย่างใกล้ชิดถึงการเกิดข้าราชการเกียร์ว่าง ที่สำคัญต้องไม่ลืมทวงคืนคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลประยุทธ์และเพลงที่กรอกหูมาเป็นเวลานานว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน” ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา คำสัญญาไหนบ้างที่รัฐบาลประยุทธ์คืนความสุขให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
ที่มา : workpointtoday / youtube / parliament 1 2 / wiki.kpi / bbc
Content Creator
