ดนตรียุค 90s โดยศิลปิน Gen Z: หรือเพลงอินดี้ร็อกจะกลับมาฮิตอีกครั้ง?

แม้จะไม่ทันสังเกต แต่หลายคนก็คงสัมผัสได้ว่า ปัจจุบันนี้ แฟชั่นยุค 90s ได้วนกลับมาอีกครั้ง และก็ไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมเท่านั้น แต่วัฒนธรรมดนตรีก็ดูเหมือนจะหวนกลับสู่ยุค 90s เช่นกัน โดยเฉพาะทางฝั่งอังกฤษ ที่มีศิลปินหน้าใหม่วัย 20 กว่าๆ เปิดตัวผลงานเพลงแนวอินดี้ร็อก หรืออัลเทอร์เนทีฟ ให้เหล่าคนฟังเพลงได้หวนระลึกถึงอดีตสมัยยังเป็นวัยรุ่น

เหตุใดศิลปินรุ่นใหม่จึงหันมาทำเพลงที่มีกลิ่นอายของยุค 90s กันมากขึ้น? The Independent ได้สัมภาษณ์ศิลปินวงอินดี้ร็อกหน้าใหม่อย่าง HotWax ซึ่งเพลงของพวกเขาได้รับอิทธิพลอย่างสูงมาจากดนตรีของ Pixies, Hole และ Nirvana ไอคอนแห่งยุค 90s

ทัลลูลาห์ ซิม-ซาเวจ นักร้องนำของ HotWax ได้รู้จักกับวง Hole และสัมผัสเสียงร้องของคอร์ทนีย์ เลิฟ เป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ปี และผู้ที่แนะนำให้เธอก้าวสู่ดินแดนแห่งอินดี้ร็อก ก็คือแม่ของเธอเอง

การผสมผสานกันระหว่างความเงียบและเสียงดัง มีอิทธิพลระดับเปลี่ยนชีวิตของ ซิม-ซาเวจ และในอีก 17 ปีต่อมา ซิม-ซาเวจ และเพื่อนร่วมวงก็เตรียมเปิดตัวผลงานใหม่ ที่มีชื่อว่า A Thousand Times ที่มีกลิ่นอายของดนตรีอินดี้ในทศวรรษ 1990s

HotWax เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของกระแสนิยมดนตรีอินดี้ในหมู่คน Gen Z ซึ่งเพลงอินดี้ร็อกในยุคใหม่นี้ก็ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากวงอินดี้ร็อกช่วงต้นยุค 90s ไม่ว่าจะเป็น Pixies หรือวงที่โด่งดังสุดขีดอย่าง Nirvana

นอกจาก HotWax จากซัสเซกส์แล้ว ยังมี Bleach Lab จากลอนดอน ที่ยังคงใช้ซาวนด์ดนตรีที่ฮิตในหมู่คน Gen X 

เจน ไคล์ นักร้องนำของ Bleach Lab กล่าวว่าอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกโหยหาอดีต เนื่องจากคนรุ่นเธอซึ่งขณะนี้อายุประมาณ 20 ปี ยังเป็นเด็กอยู่ในช่วงปี 1990s ยุค 90s จึงเป็นเหมือนความทรงจำของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ในยุค 90s นั้น วงบอยแบนด์ วง Spice Girls และดนตรีบริทป็อป เป็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุค และในช่วงเวลานั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าวงอินดี้ที่ไม่มีชื่อเสียงจะออกมาวาดลวดลายกีตาร์พร้อมระบายความเกรี้ยวกราดผ่านเสียงคอรัส จะกลายเป็นซาวนด์แทร็กแห่งศตวรรษได้ ดังนั้น เมื่อพูดถึง “เพลงยุค 90s” สิ่งที่เราจะนึกถึงบ่อยครั้ง คือไดนามิกของเสียงดังและความเงียบ ความย้อนแย้งที่เห็นได้ชัดก็คือ นอกจากวง Nirvana แล้ว วงอินดี้ในยุคนี้แทบไม่มีวงไหนเลยที่เป็นที่นิยมตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก

ด้วยเหตุนี้ กีตาร์ร็อกจึงอยู่ยงคงกระพันมากกว่าเพลงแนวอื่นๆ

เบรตต์ วาร์โก เจ้าของรายการ Only Three Lads พอดแคสต์ด้านดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ กล่าวว่า “เพลงของ Pixies, Dinosaur Jr., Nirvana และอื่นๆ ไม่ล้าสมัยและคูลอยู่เสมอ มันเป็นเสียงของวัยรุ่น เสียงของอิสรภาพ เหมือนห้วงอารมณ์อันสับสนที่เราพยายามจะคลี่คลายมันออกมา”

สำหรับประเด็นที่เหล่านักดนตรีวัย 20 ปี ต่างพากันโอบรับอิทธิพลของเพลงยุค 90s นักวิจารณ์บางคนเชื่อว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาเพิ่งค้นพบเพลงที่ ณ ตอนนั้น พวกเขายังเด็กเกินกว่าที่จะจำได้ทันที ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เห็นได้ชัดจากกระแสความนิยมในซีรีส์ Friends และการรีเมควิดีโอเกมรุ่นคลาสสิกอย่าง Resident Evil หรือแม้กระทั่งการหวนคืนสู่วงการภาพยนตร์ของคีนู รีฟส์ ในภาพยนตร์ John Wick หลังจากที่เขาโด่งดังจากภาพยนตร์แฟรนไชส์ยุค 90s อย่าง Bill and Ted และ The Matrix 

“วัฒนธรรมร่วมสมัยของยุค 1990s หวนกลับมาอีกครั้งนับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2010s” ดร.นีล อีเวน นักวิชาการอาวุโสด้านการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์กล่าว “อย่างที่เห็นใน Netflix และแพลตฟอร์มสตรีมมิงอื่นๆ รวมทั้งวัฒนธรรมดนตรี ในทศวรรษ 2010s วงดนตรีกรันจ์หลายวงที่ยุบไปแล้ว กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เช่น ก่อนที่คริส คอร์เนลล์ จะเสียชีวิต วง Soundgarden ก็กลับมารวมตัวกัน”

ในจินตนาการของคน Gen Z ส่วนใหญ่ ช่วง 10 ปีสุดท้ายของศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงเวลาแห่งความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและความเป็นไปได้ แต่ในความเป็นจริง ช่วงเวลานั้นมีทั้งกรณีของโมนิกา ลูวินสกี ที่ถูกประณามจากการมีความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีบิล คลินตัน ขณะที่คลินตันก็อยู่ในช่วงขาลง รวมทั้งอาชญากรรมสงครามในคาบสมุทรบอลข่าน เหตุกราดยิงในโคลัมไบน์ และการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุในรวันดา

แต่เรากลับไม่ได้จดจำยุค 90s ในมุมมองนั้น เรานึกถึงเคิร์ท โคเบน และเสื้อคาร์ดิแกนของเขาที่ฮอตฮิตและดนตรีกรันจ์เป็นดนตรีกระแสหลัก เรานึกถึงนักแสดงในซีรีส์เรื่อง Friends ที่ถ่ายทำซีรีส์โดยไม่ต้องกลัวทัวร์ลงในทวิตเตอร์หรือสัญญาจ้างที่ไม่กำหนดเวลาขั้นต่ำในการทำงาน และสำหรับนักดนตรี นี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ดนตรีสามารถย้ายไปเล่นกลางหุบเขาได้ ดนตรีกรันจ์ที่แบกความเกรี้ยวกราดเข้าสู่ค่ายเพลงใหญ่ หรือวงดนตรีผู้หญิงที่ท้าทายระบอบปิตาธิปไตยอย่าง Bikini Kill และHuggy Bear

“กรันจ์น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านดนตรีครั้งสุดท้าย เพราะเป็นแนวดนตรีที่ต่อต้านลักษณะเชิงพาณิชย์อย่างชัดเจน” นีล อีเวน กล่าว “เรามีเคิร์ท โคเบน ที่พูดถึงประเด็นความเป็นชายและวัฒนธรรมข่มขืน”

แม้วงดนตรี Gen Z จะเล่นดนตรีด้วยความระลึกถึงยุค 90s โดยบังเอิญ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ พวกเขามักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับวงดนตรีรุ่นเก่าเสมอ ซึ่งบางคนก็รู้สึกดี แต่บางคนก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เบีย เลาส์ แห่งวง beabadoobee กล่าวว่า เธอรู้สึกรำคาญนิดหน่อย และรู้สึกเหมือนถูกยกยอมากเกินไป

“หลายคนบอกว่าเพลงของฉันทำให้นึกถึงอดีต แต่ประเด็นคือ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ทุกคนได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งต่างๆ ทุกวันนี้ไม่มีอะไรที่เป็นออริจินัลแล้ว ผลงานของฉันอาจจะมีกลิ่นอายของเพลงอัลบั้มใดอัลบั้มหนึ่ง หรือยุคใดยุคหนึ่ง ซึ่งเป็นเพราะว่าฉันพยายามหาแรงบันดาลใจจากทุกที่ไง”

HotWax ก็เช่นกัน รสนิยมในการเสพดนตรีของพวกเขาส่วนหนึ่งถูกตีกรอบโดยพ่อแม่ ซึ่งเติบโตในยุค 90s แต่ในขณะที่พวกเขารู้สึกขอบคุณอิทธิพลเหล่านี้ พวกเขาก็ไม่ต้องการถูกกำหนดกรอบจากอิทธิพลดังกล่าวเช่นกัน 

“เมื่อจะเริ่มเล่นกีตาร์ ทุกคนต่างก็ต้องเริ่มเรียนจาก Smells like Teen Spirit ทั้งนั้น” โลลา แซม มือเบสของวงกล่าวถึงเพลงดังของ Nirvana ที่นักดนตรีทุกคนต้องผ่านการเล่นเพลงนี้มาก่อน

“ผมไม่เคยคิดว่านี่เป็นเรื่องจงใจนะ” คีแรน เวสตัน จาก Bleach Lab กล่าว “เราไม่เคยบอกว่า เราอยากให้เพลงนี้มีซาวนด์เป็นยุค 90s และเพลงจำนวนมากที่เราฟัง ก็คือเพลงยุคนั้น เพราะฉะนั้น เมื่อเราเขียนเพลงที่เราชอบและมีความสุข ก็มักจะมีซาวนด์คล้ายๆ กัน เราไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่โดยธรรมชาติแล้ว ก็เป็นเพราะอิทธิพลต่างๆ ที่เราได้รับมา ก็เท่านั้นเอง”

ที่มา : independent

Content Creator