fbpx

9 แนวคิด “การทำงานให้สำเร็จรับปีใหม่” จาก “Modern Workplace”

เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปีแล้ว หากลองย้อนกลับไปทบทวนการทำงานช่วงปีนี้ที่ผ่าน เราเชื่อว่าทุกคนคงมีเรื่องราวในการทำงานที่หลากหลายสถานการณ์แตกต่างกันออกไป ปีนี้อาจจะเป็นปีที่สุขของใครบางคน หรือทุกข์ของอีกคนก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหนก็ขอบอกว่า “ปีนี้เก่งมากแล้วนะ”

อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว หลายคนคงเริ่มมองหาเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลื่อนตำแหน่ง มีเงินเดือนที่มั่นคง มีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีเจ้านายที่เข้าใจ มีผลงานที่น่าประทับใจ หรือแม้แต่การมีความสำเร็จเล็ก ๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขในทุกวัน ก็อาจเป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของชีวิตคนทำงาน

สำหรับใครที่มีเป้าหมายในปีหน้าแล้ว แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี วันนี้ The Modernist สรุป 9 แนวคิดชีวิตคนทำงานยุคใหม่ จากรายการ Modern Workplace เพื่อค้นพบแนวทางการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานหลายรูปแบบที่จะช่วยให้คุณก้าวกระโดดสู่ความสำเร็จได้ในปี 2024 

  1. เริ่มต้นจากการมีทัศนคติที่ดี

เริ่มต้นแนวคิดแรกจาก คุณอิม – อิมยาดา เรือนภู่  เจ้าของเพจ แมวบิน นักจัดระเบียบบ้าน โดยเธอได้แบ่งปันเรื่องราวการทำงานของทีมแมวบินในรายการ Modern Workplace ว่า เริ่มแรกก่อนที่ทีมจะสามารถทำงานร่วมกันได้ ทุกคนต้องมีทัศนคติที่ดีและมีแพชชั่นที่เหมือนกัน

เมื่อตัวตนของคนในทีมชัดจะทำให้สื่อสารกันได้ง่ายขึ้น หากเกิดปัญหาในการทำงานก็สามารถช่วยซัพพอร์ตกันได้ในทุกเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อทุกคนในทีมมีทัศนคติที่ดีก็จะส่งผลให้บรรยากาศออกมาดี สามารถสร้างผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

เพราะฉะนั้น ข้อแรกที่จะทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จในการทำงานได้อาจต้องเริ่มจากการ “มีใจ” เพราะเมื่อไรที่เรามีใจรักหรือมีแพชชั่นกับอะไรบางอย่างจะทำให้เรารู้สึกสนุกช่วยผลักดันเราไปให้ถึงเป้าหมายได้สำเร็จ

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. เปลี่ยนความเครียดให้เป็นพลัง

“การทำงาน” กับ “ความเครียด” มักเป็นของคู่กับเหมือนส้อมกับช้อน ซึ่งความเครียดสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยตั้งแต่ลักษณะของงานที่ต้องทำ เพื่อนร่วมงาน สถานที่ทำงาน รวมไปถึงรูปแบบการทำงานในบริษัท ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าทางออกที่ดีคือการหลีกหนีจากความเครียด เพราะความเครียดอาจเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ

ในทางกลับกัน หมออิ๊ก – ทพญ.กัญจน์ภัสสร สุริยาแสงเพ็ชร์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน OOCA ให้สัมภาษณ์ในรายการ Modern Workplace ไว้ว่า ความเครียดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะความเครียดสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราตั้งใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือจัดการความเครียดไม่ให้เยอะจนเกินไป แต่ไม่ใช่การกำจัดหรือทำลายความเครียด 

ทพญ.กัญจน์ภัสสร เล่าต่อว่า จุดเริ่มต้นในการจัดการความเครียดในองค์กรที่สำคัญที่สุดคือนโยบายองค์กรที่จะสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับทุกคน เพื่อให้ทุกคนสามารถแชร์ความรู้สึกของตัวเองได้โดยไม่ต้องแบกรับความเครียดไว้อยู่คนเดียว ในขณะเดียวกันคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความเครียดก็ต้องรู้วิธีจัดการความเครียดตัวเอง เพื่อที่จะสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุข แต่ไม่ใช่การหลีกหนีปัญหาแต่อย่างใด เพราะคุณก็ยังเป็นคนหนึ่งที่มีศักยภาพในการทำงานและประสบความสำเร็จได้เหมือนกับทุกคน

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. ทำงานให้เป็นมืออาชีพ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเป็นมืออาชีพคือคุณสมบัติสำคัญในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ อีกทั้งความเป็นมืออาชีพยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงความรับผิดชอบ ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการทำงาน

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ คุณวิชัย มาตกุล Creative Director แห่ง Salmon House มุ่งมั่นสร้างบรรยากาศการทำงานเหมือนใต้ถุนมหาวิทยาลัยที่ทุกคนปฏิบัติต่อกันอย่างมืออาชีพ จนเกิดเป็นแนวคิดการทำงานแบบ Keep it Professional ด้วยความเคารพและเชื่อมั่นในศักยภาพของพนักงาน 

คุณวิชัยเล่าว่า ความเป็นมืออาชีพจะทำให้ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรในความรับผิดชอบของตัวเอง นอกจากนั้น ความเป็นมืออาชีพเหล่านี้จะช่วยสร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน ผลักดันเพื่อนในทีมคนอื่นให้รู้สึกสนุกกับการทำงานและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. ยิ่งพลาดเยอะ ยิ่งดี

เมื่อเส้นทางความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทำให้เราต้องผ่านด่านของความผิดพลาดและอุปสรรคมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คุณซีเค เจิง ซีอีโอแห่ง Fastwork ได้แชร์แนวคิดในการทำงานว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ชีวิตคนทำงานต้องเผชิญกับความผิดพลาด ถ้าคนเราไม่ผิดพลาดเลยนั่นหมายความว่า เรากำลังขยับช้าไป หรืออยู่ในคอมฟอร์ตโซนมากเกินไปจนกลัวความผิดพลาด 

เพราะฉะนั้น เขาจึงมองว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องกล้าเผชิญกับความผิดพลาด ยิ่งพลาดเยอะ ยิ่งดี แปลว่าเรากำลังไปในทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ ความผิดพลาด เราต้องรู้ว่าพลาดเพราะอะไร แล้วได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดนี้บ้าง หากทำพลาดครั้งแรก แก้ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ต้องทำไม่เหมือนกัน

“ผมไม่ได้ลงโทษคนที่พลาด แต่ผมจะไม่แฮปปี้ถ้าเขาพลาดแล้วไม่เรียนรู้”

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. กล้าที่จะลองผิด ลองถูก

เมื่อเรามีเป้าหมายที่จะลองทำสิ่งใหม่ให้สำเร็จ ก็อาจจะต้องใช้เวลาไปกับการลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งกว่าจะถึงเส้นชัยความสำเร็จก็ต้องอาศัยทั้งความอดทนและความพยายามอย่างหนัก

คุณกิ๊ฟ – ดร.มัตถกา คงขาว นักวิจัยที่ทำงานในห้องปฏิบัติการการแพทย์นาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้เล่าถึงประสบการณ์ทำงานอาชีพนักวิจัยว่า สำหรับนักวิจัยแล้ว คำว่า research เป็นคำที่คอยเน้นย้ำว่า การจะเป็นนักวิจัยต้องทำการทดลองไปเรื่อย ๆ แบบไม่หยุดยั้ง เพราะนี่คือการ research it again and again 

“การทำงานในแต่ละวันของนักวิจัยคือการคิดค้นสูตรที่เหมาะสมที่สุด บางครั้งถ้าโชคดีก็จะทดลอง 10 สูตร ได้ 1 สูตร บางครั้งถ้าโชคร้าย ทดลอง 50 สูตร ก็จะมีแค่สูตรเดียวที่เหมาะสม อีกหนึ่งคติประจำใจที่อาจารย์คอยบอกเราเสมอคือ 95% คือล้มเหลว อีก 5% คือความสำเร็จ การทำวิจัยคุณต้องล้มเหลวก่อน ไม่มีใครที่จะสำเร็จตั้งแต่ขั้นแรก”

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของการทำงานที่ออกมาอาจไม่สมดั่งใจหวัง แต่สำหรับ ดร.มัตถกา แล้ว เธอมองว่า ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า 

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. ทำงานให้สนุกเหมือนเล่น

หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานได้ต้องทุ่มเทสุดความสามารถไปกับเป้าหมายใหญ่ ๆ แต่ที่จริงแล้วหากเราลองซอยเป้าหมายย่อย ๆ แล้วสนุกไปกับงานที่ทำในทุกวัน ก็อาจทำให้เรารู้สึกเติมเต็มและมีความสุขไปกับความสำเร็จเล็ก ๆ ได้เช่นกัน

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ หมอกอล์ฟ – นพ.ธนพล มารัตนะ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Sowon Clinic มีความตั้งใจสร้างพื้นที่ทำงานให้เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นที่ทุกคนสามารถลองผิดลองถูกได้ โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้มาก่อน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้พนักงานได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ให้ทุกคนสามารถตัดสินใจและประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในทุกวัน

จะเห็นได้ว่า บางทีความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเป้าหมายใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่เราก็สามารถมีความสุขกับความสำเร็จเล็ก ๆ ได้  ไม่ว่าจะเป็น การจัดตารางงานในแต่ละวัน การใส่ใจรายละเอียดงานที่ทำ เรียนรู้ทักษะใหม่ รวมไปถึงการมีทัศนคติที่คิดบวกกับผู้อื่น 

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. เปิดรับทุกการเปลี่ยนแปลง

ความสำเร็จมักจะมาพร้อมความเปลี่ยนแปลง เพราะหากเราอยากประสบความสำเร็จเราก็ต้องกล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เรายิ่งต้องพัฒนาตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้น

คุณปู – สุวิตา จรัญวงศ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Modern Workplace ว่า การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่เสถียรที่สุด เป็นหนึ่งในการวัด OKR และ KPI ของพนักงานเลยว่ามีศักยภาพในการล้อตามการเปลี่ยนแปลงได้แค่ไหน หรือมีทัศนคติที่เปิดกว้างกับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

นอกจากนี้ คุณสุวิตา มองว่าโลกดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นที่คนทำงานต้องรีเฟรชทักษะตัวเองทุกเดือนหรือทุกสองเดือนเพื่อลับใบมีดให้คม ที่สำคัญต้องควบคู่ไปกับการมีทัศนคติที่ดี เพื่อตอบโจทย์การทำงานและประสบความสำเร็จได้ในอนาคต

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. ตัวตนของเราต้องไม่เปลี่ยน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนรอบข้างมีอิทธิพลกับเราอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นได้ทั้งคนที่เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแรงกดดันในการทำงาน ยิ่งหากเราต้องเจอกับคนที่คอยสร้างความกดดันให้เราเยอะ ๆ ก็อาจทำให้รู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน

คุณตุ๊ก – ศิริพร ผลชีวิน แม่ทัพใหญ่แห่ง Rakluke Edutex ให้แนวคิดการทำงานไว้ว่า เราต้องเข้าใจว่ามนุษย์โตมาไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน ความคิดความคุ้นชินก็จะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นย่อมมีความแตกต่าง และมีธงความสำเร็จที่ไม่เหมือนกัน

สิ่งสำคัญคือ ธงของเราต้องไม่เปลี่ยน ธงที่จะเอาให้ได้ เอาให้ทัน เอาให้ผ่าน เอาให้ดี ธงพวกนี้ต้องไม่เปลี่ยนเพราะมันคือความเป็นตัวเรา และเป็นความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จ

รับชมทาง Youtube ได้ที่

  1. ให้รางวัลเมื่อทำสำเร็จ

เคยรู้สึกเหมือนกันไหมว่า หลายครั้งที่เราตั้งเป้าหมายไว้บางทีมักจะล้มเลิกกลางทางและไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการที่เราขาดสิ่งกระตุ้นในการทำตามเป้าหมายนั้น ๆ ฉะนั้นการให้ของรางวัลหรือผลตอบแทนคุ้มค่าก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยผลักดันให้เราทำเป้าหมายได้สำเร็จก็ได้นะ

คุณอิฏฐ์ – สิริวัฒน์ ธนุรเวท ซีอีโอของ Sirisoft ได้แชร์มุมมองการตั้งเป้าหมายในการทำงานว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าคนทุกคนอยากประสบความสำเร็จ ฉะนั้น การเซ็ตเป้าหมายและผลตอบแทนที่เหมาะสม จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าเขาประสบความสำเร็จในการทำงาน และรู้สึกเติบโตไปพร้อมกับองค์กร

“สิริซอฟต์เรามี team lead อายุ 26 ถ้าเขาทำได้ ทำไมเราต้องดึงเขาไว้ครับ ดีดนิ้วเลย ตำแหน่งขึ้นก็พัฒนาได้เร็ว ถ้าเราอยากได้คนเก่ง ๆ มาช่วยขับเคลื่อนองค์กร เราต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่รองรับเขา เพื่อให้เขาพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับเรา” 

รับชมทาง Youtube ได้ที่

ทั้งหมดนี้คือแนวคิดที่ The Modernist รวบรวมมาแชร์ให้กับทุกคนที่กำลังมองหาเป้าหมายใหม่ในปีหน้า เพื่อเป็นแนวทางสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จดั่งใจหวัง 

อย่างไรก็ตาม เราต้องเข้าใจว่า กรุงโรมไม่สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว ความสำเร็จก็เช่นกัน เราอาจต้องใช้เวลาเดินทางเพื่อไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ สำหรับใครที่รู้สึกท้อแท้กับเป้าหมายใหญ่ ๆ ก็อย่าลืมแวะพักแล้วมองความสำเร็จเล็ก ๆ ที่อยู่รอบตัวนะ

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า