5 เพลง City Pop ‘สามัญ’ ประจำเพลย์ลิสต์ ที่ฟังก็ดี ไม่ฟังก็ได้ : THE MODERNIST

กระแสเพลง Plastic Love ของ Mariya Takeuchi ที่เพิ่งปล่อยมิวสิควิดีโอเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ทำให้หน้าฟีดเฟสบุ๊ค ครึกครื้นไปด้วยข่าวของเพลงซิตี้ป็อปอีกครั้ง จากเพลงหน้าบีที่ถูกปล่อยครั้งแรกในปี 2527 สู่การเป็นเพลงซิตี้ป็อปที่ดังที่สุดในโลกจนมีคนทำเวอร์ชันโคฟเวอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Friday Night Plans, Caitlin Myers หรือ Millie Snow จากประเทศไทย เพราะกระแสเพลงที่ดีมากนี้ ทำให้ Warner Music Japan ตัดสินใจถ่ายทำเอ็มวีในปี 2019 และปล่อยเวอร์ชันเต็มในปี 2021 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

จากความดังของเพลง Plastic Love ข้างต้น ทำให้ทุกคนทั่วโลกหันมาสนใจ และกำหนดคำเรียกแนวเพลงที่คล้ายกับเพลง Plastic Love ว่า City Pop ทั้งที่จริงๆ แนวเพลงดังกล่าวคือคำจำกัดความของเพลงญี่ปุ่นในช่วง 70’s – 80’s ซึ่งญี่ปุ่นเพิ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาติตะวันตก โดยภาพลักษณ์ของเพลงจะกล่าวถึงความหวือหวาของสังคมเมืองใหญ่ ที่มีความศิวิไลซ์หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การใช้ชีวิตที่เร้าใจไปกับจังหวะสนุกๆของเพลง อาร์ตเวิร์คที่เต็มไปด้วยป้ายต่างๆ และแสงสีนีออนบ่งบอกถึงชีวิตของชีวิตผู้คนท่ามกลางสังคมที่เร่งเร้า ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยที่ City Pop จะเป็นการผสมกันของ AOR (คำนี้ปัจจุบันไม่ใช้กันแล้ว ใช้เรียกแนวเพลง pop rock ในช่วง 40 ปีที่แล้ว), RnB, Funk ผสมด้วยเสียงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เพลงมีความสดใส ออกจะมีกลิ่นซัมเมอร์หน่อยๆ และเพราะช่วงของเพลงดังกล่าว เกิดในยุคคาสเซ็ทหรือแผ่นเสียง ทำให้คุณภาพของเพลงมีกลิ่นอายความเก่าบางอย่าง จากวิธีการบันทึกในสมัยก่อน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นมากอย่างหนึ่งของ City Pop

อย่างที่เราเกริ่นไว้ข้างบน ว่า City Pop นั้นดังมากจนมีวงดนตรีทั่วโลกนำไปโคฟเวอร์มากมาย วันนี้ Modernist ขอแนะนำ 5 เพลง City Pop ที่เราเรียกกันว่าเป็นลิสต์สามัญ สำหรับใครก็ตามที่อยากฟังเพลงแนวนี้ แต่ไม่รู้จะฟังอะไรดี โดยคัดเอาแต่เพลงดังๆยอดวิวเยอะๆ เพื่อให้ง่ายต่อการฟังที่สุด แต่หากคุณอยากลองฟังอะไรที่มากกว่านั้น เราแนะนำช่อง MACROSS 82-99, Night Tempo และอีกมากมาย เพื่อความสนุกและความสดใสที่มากขึ้น แต่เบื้องต้น 5 เพลง (ไม่นับ Plastic Love) ที่เราขอแนะนำใน City Pop สามัญประจำเพลย์ลิสต์คือ

มีอะไรให้อ่านบ้างในบทความนี้?

1. Mayonaka no Door – Stay With Me – Miki Matsubara

อันดับหนึ่งที่เรียกว่าไม่ฟังไม่ได้ ด้วยยอดการเข้าชมกว่า 59 ล้านครั้ง จาก audio และ 13 ล้านครั้งจากมิวสิควิดีโอ ส่งให้เพลงนี้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในลิสต์ของเราไปอย่างสง่างาม จากปี 1979 เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว สู่การไต่อันดับสตรีมมิ่งทั่วโลก ทั้ง Apple Music ใน 98 ประเทศ และขึ้นอันดับ 1 ไวรัลชาร์ตของ Spotify ในช่วงปี 2020 โดยเพลงดังกล่าวดังมาจากการโคฟเวอร์ของ นักร้องสาวชาวอินโดนีเซีย ชื่อ Rainych (เจ้าของ Say So – Japanese ver.) ทำให้คนมากมายไปตามหาต้นฉบับกันมากขึ้น นอกจากเวอร์ชันโคฟเวอร์ของ Rainych แล้ว ยังมีโคฟเวอร์ที่น่าฟังอีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น Chris Andrian Yang, Caitlin Myers หรือถ้าคุณเบื่อเนื้อเพลงแบบเดิมๆ เราขอแนะนำเวอร์ชัน Stay with พัน, หรือ Stay with เท่ง ฟังแก้เบื่อได้

2. Last Summer Whisper – Anri

อันดับสองปาดไปด้วยยอดการเข้าชม 11 ล้านครั้ง กับภาพประกอบเพลงของตัวละคร Megumi Morisato จากอนิเมะเรื่อง Aa! Megami-sama! นั่งหน้าพัดลมที่เราคุ้นเคย โดยเพลง Last Summer Whisper นี้เป็นเพลงอันดับที่ 2 จากหน้าเอของอัลบั้ม Heaven Beach ของนักร้องสาว Anri หรือชื่อจริงคือ Eiko Kawashima ที่ออกจำหน่ายในปี 1982 สู่ความดังอย่างไม่หยุดยั้งในปี 2018 จากการนำเพลงนี้กลับมาลงของช่องยูทูป Synth City Smooth ด้วยดนตรีฟังสบายกับเสียงร้องน่ารักๆ และมู้ดเพลงที่ชวนให้นึกถึงพระอาทิตย์ตกดินริมทะเล ส่งให้เพลงนี้ได้รับอันดับ 2 จากเราไป และถึงแม้เพลงนี้จะไม่มีเวอร์ชันโคฟเวอร์แบบร้องมากเท่าใดนัก แต่เพราะไลน์เบสหนึบๆที่เป็นจุดเด่นของเพลง ทำให้นักดนตรีมากมายในยูทูปเลือกที่จะโคฟเวอร์เบสกันมากกว่า

3. Magic Ways – Tatsuro Yamashita

อันดับสามจากผลงานของคุณทัต สามีของคุณมาริยะ (แต่งงานกันในปี 1982) ด้วยยอดการเข้าชมกว่า 9.8 ล้านครั้ง ทำให้เราตัดสินใจดันเพลงนี้มาไว้อันดับที่สาม Magic Ways เป็น Hidden Track ในอัลบั้มประกอบภาพยนตร์เรื่อง Big Wave (1984) ซึ่งนำแสดงโดย Mark Richard และนักแสดงดังอื่นๆอีกมากมาย โดยที่เพลงหน้า A ของอัลบั้มดังกล่าวคุณทัตเป็นคนเขียนและโปรดิวซ์เอง ในขณะที่หน้า B คือการโคฟเวอร์และได้แรงบันดาลใจจากสมาชิก the Beach Boys อย่าง Brian Wilson อัลบั้มดังกล่าวครองอันดับอยู่ใน Oricon Chart นานกว่า 19 สัปดาห์ ปัจจุบันเพลงนี้ถูกปล่อยให้ฟังในแชนแนลยูทูปของ frwctrl อีกทั้งยังเป็นเพลงที่ นะ Polycat และแสตมป์ อภิวัชร์ ไปร้องเมื่อมีไลฟ์ที่ญี่ปุ่นอีกด้วย

4. Telephone Number – Junko Ohashi

อันดับสี่เป็นผลงานกลิ่นแจ๊สผสมอาร์แอนด์บีและฟังก์เล็กๆ จากนักร้องสาวเสียงคุณภาพ Junko Ohashi ด้วยยอดการเข้าชม 7.1 ล้านครั้งจากผู้ชมฟังทั่วโลก เป็นเหมือนเครื่องการันตีความสามารถของเธอ Telephone Number เป็นเพลงลำดับ 7 จากอัลบั้ม Magical ซึ่งปล่อยออกมาในปี 1984 เป็นอัลบั้มรวมเพลงที่ฮิตที่สุดของเธอ และมีเพลงชูโรงเด่นๆอย่าง I Love You So รวมทั้งเพลงที่เราเลือกเป็นอันดับสี่นี้ด้วย ปัจจุบันอัลบั้มดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 400 – 600 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ แม้ราคาจะสูงขนาดนี้ แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายพยายามอย่างยิ่ง เพื่อจะหาอัลบั้มนี้มาครอบครอง

5. Machi No Dorufin – Kingo Hamada

อันดับสุดท้าย ไม่ได้มาจากยอดการเข้าชมที่สูง (ซึ่งเอาจริงๆก็สูง) แต่เพราะเวอร์ชันโคฟเวอร์ ที่ส่งให้ทุกคนพยายามไปหาต้นฉบับมาฟัง Machi No Dorufin หรือ Dolphin in Town เป็นเพลงจากอัลบั้ม Midnight Cruisin ซึ่งออกจำหน่ายในปี 1982 ด้วยความที่ตัวเพลงจริงๆก็โดดเด่นมากอยู่แล้ว ด้วยเสียงโซโล่แซ็กโซโฟนและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Kingo แต่ทุกคนจะรู้จักเพลงนี้จากการที่ engelwood นำท่อนสุดท้ายของเพลงไปโคฟเวอร์ในชื่อ Crystal Dolphin เมื่อปี 2018 โดยเพลงดังกล่าวทำยอดการเข้าชมไปสูงถึง 47 ล้านครั้งเลยทีเดียว