ในช่วงระยะเวลาที่เศรษฐกิจและสถานการณ์โรคระบาดไม่เป็นใจ ส่งผลให้การวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศหรือที่ไหนไกลๆ ดูจะเป็นเพียงความฝันเลือนลางของคุณๆทั้งหลายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และอาจเป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้ ที่ส่งผลให้ผู้นำและผู้เกี่ยวข้องมากมาย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวตามแผนพัฒนาชาติ พวกเขาจึงเริ่มผลักดันและสร้างสถานที่ใหม่ๆมากมาย เพื่อให้ประชาชนคนเมืองอย่างพวกเรา ได้สัมผัสบรรยากาศของสถานที่เสมือนยกเมืองนอกมาไว้ที่ไทย
Modernist ขอแนะนำ 4 สถานที่น่าเที่ยวในกรุงเทพ ที่น่าสัมผัส น่าไป(เยือน) เพื่อให้คุณๆทั้งหลาย คลายความคิดถึงบรรยากาศแบบต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ก ญี่ปุ่น หรือแม้แต่เกาหลี แค่เพียงคุณไปเยือน 4 สถานที่นี้ ก็สดชื่นเหมือนยืนอยู่ที่จริง
1. Pearl Bangkok – อารีย์
เริ่มต้นกันด้วยแลนด์มาร์คเด่นเป็นสง่าย่านอารีย์ ซึ่งเป็นที่ฮือฮาอย่างมากเมื่อปี 2017 กับอาคาร Pearl Bangkok อาคารซึ่งได้แรงบันดาลใจจากไข่มุกมา-เบ (Mabe) กับความสูง 25 ชั้น สร้างภายใต้แนวคิดมาตรฐานอาคารสีเขียว และใช้วัสดุมิเนอรัลไฟเบอร์ 100 % แสดงถึงการเป็นอาคารที่ใส่ใจต่อทั้งตัวผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ตามหลักการออกแบบอาคารยุคใหม่ โดยที่โปรเจคนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด เรียกว่าเป็นโครงการที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านั้นคือ อาคารดังกล่าวดันมีแฝดหน้าคุ้นชื่อ 30 St. Mary Axe (Swiss Re – The Gherkin) เป็นตึกระฟ้าแสนสวยที่ลอนดอนซะนี่ แถมๆยังมีเพื่อนหน้าตาคล้ายกันอีกที่ บาร์เซโลน่า ปารีส และโดฮา อีกด้วยนะ เรียกว่าแค่มาที่นี่ก็ได้ไปทุกที่เกือบรอบโลก ดังนั้นใครที่ช่วงนี้ยังไม่สะดวกบินออกนอกประเทศ ก็แวะมาเดินเล่นที่ Pearl Bangkok ก่อนได้ ถือซะว่าซ้อมๆ
2. สวนป่าเบญจกิติ – พระราม 4
ขึ้นชื่อว่ากรุงเทพเมืองที่มีแต่ตึกระฟ้า ใครเลยจะรู้ว่าเรามีป่าสีเขียวขนาดใหญ่เร้นตัวอยู่กลางเมืองที่แสนวุ่นวายนี้ ‘บึงยาสูบ’ หรือปัจจุบันคือ สวนสาธารณะเบญจกิติ เป็นอีกทางเลือกสำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบ การเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติโดยไม่ต้องไปที่ไหนไกล ด้วยเนื้อที่กว่า 450 ไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือสวนน้ำและสวนป่า ภายใต้การจัดการดูแลของกรุงเทพมหานคร เรียกว่าเป็นสวนที่ถูกออกแบบเพื่อเป็นปอดที่ 2 ถัดจากสวนลุมพินีให้กับคนเมืองอย่างเราๆได้ใช้งาน สวนเบญจกิติยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยการออกแบบเส้นทางเดิน ทางวิ่ง ทางจักรยาน ทางเดินศึกษาธรรมชาติและสามารถใช้ทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ชมความสวยงามของสวนทั้งหมด ทั้งยังเชื่อมกับสะพานเขียวที่มาจากสวนลุมพินีได้อีกด้วย เรียกว่านอกจากได้ดูวิวสวยๆแล้ว ยังเป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวและประชาชนอย่างแท้จริงอีกด้วย แต่ทั้งๆที่สวนก็สวยอยู่แล้ว กลับมีคนเชื่อว่าเราได้แบบมาจาก Central Park ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชื่อถึงขนาดที่เอาภาพไปเทียบกันจะๆ เรียกว่าไม่ได้บินไปที่อเมริกาก็ไม่เป็นไร เดินดูต้นไม้เปลี่ยนสีที่นี่ไปพลางๆก่อนก็ได้ คล้ายเหมือนกัน
3. Harajuku Thailand – สุวินทวงศ์
ใครที่ชื่นชอบการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เราภูมิใจนำเสนอ Harajuku Thailand ที่เที่ยวไทย เหมือนไปเหยียบญี่ปุ่นแบบเน้นๆ ด้วยระยะทางที่ใกล้แสนใกล้ ย่นจากสนามบินนาริตะ เหลือแค่สุวินทวงศ์เท่านั้น เพียงแค่มาสัมผัสบรรยากาศ ก็เหมือนวาร์ปไปยืนกลางเกียวโตหรือหมู่บ้านญี่ปุ่นยุคเอโดะ เรียกว่าบรรยากาศน้องๆหมู่บ้านทาคายามะที่กิฟู ใส่กิโมโนยืนบนสะพานสวยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนยืนรับลมจากแม่น้ำมิยากาวะก็ไม่ปาน ดังนั้นสำหรับใครที่พับแพลนไปญี่ปุ่นมาหลายปี เพราะสถานการณ์โควิดที่ระบาดอย่างหนัก แนะนำให้แวะมาสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบโบราณสวยๆ ถ่ายรูปเท่ๆ พร้อมทานอาหารญี่ปุ่น ที่ Harajuku Thailand ถึงแม้ชื่อจะชวนให้คิดถึงแฟชันสตรีทแสนสดใส ใจกลางเมืองโตเกียว แต่ที่นี่กลับให้ความรู้สึกถึงเมืองแสนสงบแบบเก่ามากกว่า แต่เอาน่าแค่พูดชื่อเราก็คิดถึงญี่ปุ่นแล้ว คนชอบแดนอาทิตย์อุทัย จะพลาดได้อย่างไร
4. สวนสาธารณะช่องนนทรี – ช่องนนทรี
และอันดับสุดท้ายที่เราอยากแนะนำที่สุด จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากสวนสาธารณะที่เพิ่งเปิดใช้งานเฟสแรกไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ต้อนรับคริสมาสต์ด้วยไฟหลากสี กับสวนสาธารณะช่องนนทรี ภายใต้งบประมาณการสร้างกว่า 980 ล้านบาท เพื่อพลิกโฉมคลองช่องนนทรี ให้เป็นสถานที่เพื่อการใช้งานของคนเมืองท่ามกลางตึกระฟ้าและสำนักงานโดยรอบ สวนแห่งนี้มีดีกรีเป็นถึง ‘สวนสาธารณะคลองแห่งแรกของประเทศไทย’ ด้วยพื้นที่ 70 ไร่ แบ่งเป็น 5 ส่วน มีจุดเด่นคือคลองตรงส่วนกลางและทางเดินยกระดับเพื่อเชื่อมกับ BTS และ BRT ช่องนนทรี เรียกว่าเป็นสถานที่ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘คลองชองกเยชอน’ ที่เกาหลี แบบที่ลอกข้อสอบมาเน้นๆ เหมือนยังกับจับวาง เราจึงขอยกให้ที่นี่เป็นสถานที่น่าเที่ยวอันดับต้นๆของปี 2022 นี้เลย เพียงแค่ยืนถ่ายภาพก็ได้ฟีลเหมือนเป็นนางเอกซีรีส์เกาหลี หรือถ้าคุณไม่สะดวกเจอรถติดบนถนนสาทร เราขอแนะนำคลองที่ดีที่สุดในกรุงเทพอย่าง ‘คลองโอ่งอ่าง’ แทน ถ่ายรูปกับคลองเสร็จ เติมฟิลเตอร์นิดหน่อยก็เหมือนไปยืนอยู่ที่โซล ยิ่งใครไปช่วงหน้าหนาวใส่เสื้อหนาๆถ่ายภาพตอนกลางคืนกับไฟสวยๆของคลองโอ่งอ่าง ยิ่งได้ฟีลเหมือนยืนอยู่ริมชองกเยชอนแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
1. ตื่นตาตื่นใจไปกับPearl Bangkok . {ออนไลน์} แหล่งที่มา : https://www.trandar.com/pearlbangkok-2/
2. TheGherkin, London {ออนไลน์} แหล่งที่มา : https://www.thegherkinlondon.com/
3. เปิดภาพล่าสุดสวนเบญจกิติ {ออนไลน์} แหล่งที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_3040791
4. ที่เที่ยวเปิดใหม่ Harajuku Thailand {ออนไลน์} แหล่งที่มา : https://travel.trueid.net/detail/EpBVVelM1aBp
5. สวนสาธารณะช่องนนทรี เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่ {ออนไลน์} แหล่งที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/social/980575
6. Seoul Urban Regeneration {ออนไลน์} แหล่งที่มา: https://urban-regeneration.worldbank.org/Seoul
Journalist
อาภาภัทร ธาราธิคุณ
Graphic Designer
