fbpx

เสพกัญชาเป็นภาษีช่วยเมือง ‘โคโลราโด’ รัฐที่คนเสพกัญชาช่วยคนไร้บ้าน

“ไม่มีใครอ่านแผนงานจริง ๆ หรอก พวกเขาคิดแค่ว่าคนเสพกัญชาคือผู้สนับสนุนการศึกษาเด็ก ๆ”

ทิม รีดส์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกโรงเรียนผู้รับทุนพัฒนาโรงเรียนของรัฐโคโลราโดให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

โคโลราโดเป็นหนึ่งในรัฐที่อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์เหมือนหลายเมืองทั่วโลก แต่การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นขึ้นในปี 2012 เมื่อหน่วยงานของรัฐโน้มน้าวให้ประชาชนลงคะแนนเสียงอนุญาตให้มีการจำหน่ายและเสพกัญชาเพื่อความบันเทิง จะได้นำเงินภาษีกัญชามาปรับปรุงและพัฒนาโรงเรียน รัฐโคโลราโดจึงเปิดให้มีการจำหน่ายกัญชาอย่างเป็นทางการในปี 2014

สิ่งที่น่าสนใจมากคือจำนวนคนไร้บ้านก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะในโคโลราโดเท่านั้น แต่ในรัฐวอชิงตันที่เปิดเสรีกัญชาในปีเดียวกัน และรัฐโอเรกอนที่เปิดเสรีกัญชาในปี 2015 ด้วย หลายคนจึงตั้งสมมติฐานว่ากัญชาทำให้จำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น

ต้องยอมรับว่ากฎหมายเสรีกัญชาก็มีส่วนดึงดูดให้คนเข้ามาในโคโลราโดมากขึ้นจริง เพราะกัญชากระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองให้เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนการท่องเที่ยวจนยอดจองโรงแรมพุ่งสูงขึ้น และสนับสนุนการจ้างงานในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับกัญชา

นอกจากนั้น หลายคนยังมองว่าพวกเขาต้องการกัญชาเป็นทั้งยารักษาโรคและที่พึ่งทางจิตใจ ชายไร้บ้านวัยกลางคนรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Guardian ว่ากัญชาช่วยให้เขาสามารถเลิกยาบ้าได้และรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปหลายราย

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าปัญหาคนไร้บ้านในโคโลราโดไม่ได้มาจากกัญชาเพียงอย่างเดียว ปัจจัยที่สำคัญกว่านั้นคือค่าครองชีพและราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น จนประชาชนเข้าถึงลำบากมากขึ้นต่างหาก

จอห์น ฮิคเคนลูเพอร์ ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดในสมัยนั้น ส่งเสียงค้านหัวชนฝาว่ากัญชาและยาเสพติดประเภทอื่น ๆ มีผลต่ออาการป่วยทางจิต อาการทุพพลภาพ และปัญหาคนไร้บ้านเรื้อรัง

ในปี 2016 จอห์นเสนอให้ใช้รายได้จากภาษีกัญชาราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐมาจัดการปัญหาคนไร้บ้าน เขาบอกว่าอะไรสร้างปัญหาให้เมือง มันก็ต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น

ออโรรา เมืองใหญ่อันดับ 3 ของรัฐโคโลราโดเป็นหนึ่งในเมืองที่ปฏิบัติตามนโยบายนี้

นายกเทศมนตรีเมืองออโรรานำเงินรายได้จากภาษีกัญชามาพัฒนาเมือง ผ่านโครงการช่วยเหลือคนไร้บ้าน โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งมวลชน และโครงการสร้างพื้นที่สาธารณะของเมืองเช่นกัน

โครงการคนไร้บ้านได้รับงบประมาณ 7.3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเป็นงบประมาณก้อนใหญ่ที่สุด เพื่อนำไปสร้างศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้าน หาที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้านในเมืองและจัดหารถตู้ช่วยเหลือคนไร้บ้านในภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์

ในเดือนสิงหาคม 2021 ไมค์ คอฟแมน นายกเทศมนตรีเมืองออโรราเสนอข้อเรียกร้องให้แบนการตั้งแคมป์ของคนไร้บ้านบนพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เอกชน โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้คนไร้บ้านออกจากพื้นที่ดังกล่าวล่วงหน้า 7 วัน ก่อนจะรื้อที่อยู่อาศัยชั่วคราวของคนไร้บ้านออก ยกเว้นว่าที่พักอาศัยคนไร้บ้านที่เมืองจัดให้ไม่เพียงพอ ผลการลงคะแนนของสภาเมืองออโรราเสมอที่ 5-5 เสียง

สตีฟ ซันเบิร์ก สมาชิกสภาเมืองจากพรรครีพับลิกันให้การสนับสนุนนโยบายนี้ เขาบอกว่าอยากให้คนบริจาคเงินให้หน่วยงานต่าง ๆ มากกว่าบริจาคเงินให้ขอทาน ส่วนอลิสัน คูมส์ สมาชิกสภาเมืองจากพรรคเดโมแครทบอกว่าเธอค้านนโยบายนี้ เพราะมันไม่ได้ช่วยลดจำนวนคนไร้บ้านที่ไม่มีที่อยู่อาศัย

อลิสันยกตัวอย่างว่าเมืองเดนเวอร์ เมืองหลวงของรัฐโคโลราโดเคยออกนโยบายแบนคนไร้บ้าน แต่สุดท้ายการเคหะของเมืองเดนเวอร์พบว่ามีคนไร้บ้าน 1,185 คนอาศัยอยู่บนถนน เธอบอกว่านายกเทศมนตรีของเมืองกำลังเสนอนโยบายที่เคยล้มเหลวในเมืองอื่นมาแล้ว และนโยบายแบบนี้คือการเหมารวมว่าวิธีการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านคือการหาที่อยู่อาศัยให้พวกเขาเท่านั้น

หน่วยงานตำรวจของเมืองออโรราออกมาโต้แย้งต่อประเด็นนี้ว่าเมืองไม่มีเจ้าหน้าที่และทรัพยากรเพียงพอต่อการบังคับใช้กฎหมายแบนคนไร้บ้านได้

วันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา สภาเมืองออโรราอนุมัติกฎหมายแบนคนไร้บ้านแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้คนไร้บ้านย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 72 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนจะถูกจับหรือปรับเงินราว 2,650 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดบอกว่านโยบายแบนคนไร้บ้านไม่มีความยั่งยืน เพราะคนไร้บ้านจะหาสถานที่ตั้งถิ่นฐานที่เปลี่ยวมากขึ้น ซึ่งพวกเขาเสี่ยงที่จะถูกทำร้ายหรือถูกคุกคามมากกว่าเดิม แถมยังเสียเวลาการทำงานของตำรวจด้วย วิธีแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนที่สุดคือการทำให้ราคาที่อยู่อาศัยถูกลง เพื่อลดจำนวนคนไร้บ้านอย่างถาวร

จริง ๆ แล้วรัฐโคโลราโดสามารถดำเนินนโยบายนี้ได้โดยไม่ต้องปลดล็อกเสรีกัญชาด้วยซ้ำ แต่พวกเขามองว่าการจัดหารายได้ เพื่อแก้ปัญหาเรื้อรังของเมืองมีความยั่งยืนมากกว่างบประมาณที่มาจากส่วนกลาง

เรา – ในฐานะประชากรกรุงเทพมหานครแต่กำเนิด – เห็นภาพของผู้คนนอนตามป้ายรถเมล์ ริมถนน สะพานลอยมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งรู้สึกว่าโมเดลของเมืองออโรราเป็นโมเดลที่น่านำมาเป็นแบบอย่างให้กับบ้านเกิดของตัวเอง เพราะชาวกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่เป็นคนไร้บ้าน เพราะประสบปัญหาเรื่องค่าครองชีพและการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน

โคโลราโดทำให้เราได้เรียนรู้ว่าที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน แต่มันคือพื้นที่ปลอดภัยและพื้นที่บ่มเพาะความรัก ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ


อ้างอิง:

https://reason.org/wp-content/uploads/2018/05/homelessness-effect-of-marijuana.pdf
https://www.deseret.com/2016/7/2/20591161/how-5-different-cities-are-handling-homelessness
https://www.theguardian.com/us-news/2017/feb/27/marijuana-legal-homeless-denver-colorado
https://denvergazette.com/news/homelessness/aurora-mayor-to-reintroduce-proposed-homeless-camping-ban/article_73165ac8-7e32-11ec-976f-fbdd205e4e9a.html
https://yellowscene.com/2022/05/13/banned-on-the-run/

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า