fbpx

Tsunari แรปเปอร์สาวลูกอีสาน-ทรินิแดดที่ต่อสู้กับทุกคำดูถูกสู่การเฉิดฉายในลอนดอน

ซึนารี (Tsunari) คือแรปเปอร์สาวที่ตั้งหลักทำเพลงอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เธอคือลูกครึ่งทรินิแดด-ไทย ที่ฝ่าฝันทุกคำดูถูกเหยียดหยาม และต่อสู้กับความฝันในการเป็นศิลปินตั้งแต่ที่เธออยู่ในไทย จนย้ายเขตคามความฝันสู่ต่างประเทศ

และในวันนี้ เธอทำตามความฝันของเธอสำเร็จแล้ว

ด้วยหลายแทร็กแรปที่เธอแต่งเองตั้งแต่ Fire, Mula, Fruity Loops ไปสู่ซิงเกิลที่เธอได้ร่วมงานกับ MILLI (ดนุภา คณาธีรกุล) อย่างฟาด และซิงเกิลที่พูดถึงการต่อสู้ในวัยเด็กของเธออย่าง Since Young ที่เธอใช้ไรม์แรปและท่วงทำนองบอกเราว่า การต่อสู้ในเส้นทาง

สายดนตรีครั้งนี้ไม่มีอะไรง่าย-ไม่มีเลย

Since Young ทำงานในระดับที่ติดชาร์ตบนสตรีมมิ่ง และคนในวงการแรปไทยต่างยอมรับในศักยภาพของเธอ

เราพบซึนารีในห้อง Video Conferrence ที่เวลาของสองเขตแดนห่างกันหลักสิบชั่วโมง เราสนทนากันในบรรยากาศง่ายๆ ที่คู่สนทนาตรงหน้าเล่าทุกเรื่องที่เธอพบพานผ่านมาให้เราได้ฟัง ซึ่งหลายเรื่องอาจเป็นประสบการณ์ที่สร้างบาดแผลในจิตใจคนๆ หนึ่ง หรือเส้นทางสุดเข้มข้นที่เธอต้องต่อสู้และพบพานจนทำให้เธอได้กลายเป็นศิลปิน

แต่เธอเล่าเรื่องทั้งหมดด้วยรอยยิ้ม และพิสูจน์ด้วยฝีมือและศักยภาพแล้ว

ว่าเรื่องพวกนั้นทำอะไรเธอไม่ได้หรอก

มีอะไรให้อ่านบ้างในบทความนี้?

จุดเริ่มต้นในเส้นทางดนตรีของคุณมาจากอะไร

ตั้งแต่เด็กๆ เลย ตั้งแต่อายุ 5-6 ปีเลย ปกติแล้วเด็กๆ ก็จะอยากเป็นนู่นอยากเป็นนี่ ก็ค่อยๆ เปลี่ยน แต่สำหรับเราแล้ว เรารู้ตัวเลยว่าอยากเป็นศิลปิน อยากเข้ามาทำเพลงตั้งแต่เด็กๆ เลย แล้วก็ไม่เคยคิดว่าอยากทำอย่างอื่น รู้ว่าอันนี้คือสิ่งที่ใช่สำหรับเราค่ะ แล้วจุดเริ่มต้นอีกจุดเลยคือเราร้องเพลงแรปมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วหลงรักในการร้องเพลง หลงรักในเสียงเพลง แล้วก็เป็นคนที่ประกวดร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เลย ประกบกับด้วยความที่เมื่อก่อนตอนเด็กโดนล้อบ่อยๆ โดนแกล้งบ่อยจนเราต้องการหาอะไรที่มารักษาเยียวยาใจ แล้วก็เป็นตัวที่สามารถเปิดเผยตัวตนตัวเราได้ แล้วเราก็ได้เจอการร้องเพลงที่สามารถเป็นสิ่งที่เราสื่อสารออกมาได้ว่า ไม่ว่าจะมีอะไร รู้สึกยังไง ซึนารีสามารถสื่อสารผ่านการร้องเพลงได้ ก็เลยเริ่มการประกวดร้องเพลงตั้งแต่อยู่โคราช (นครราชสีมา) ตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ประกวดมาเรื่อยๆ ตามงานวัด งานโรงเรียน งานจังหวัด

ก็ประกวดจนตัวเองมาเปิดช่อง YouTube เป็นของตัวเอง เพราะอยากให้มีแมวมองต่างประเทศเข้ามา เอาเราไปต่างประเทศบ้าง (หัวเราะ) ก็เลยเริ่มร้องเพลง cover พอร้องไปร้องมาก็รู้สึกเริ่มอยากทำอะไรใหม่ๆ บวกกับตอนนั้นเริ่มมาฟังเพลง Hip Hop เราก็มาคิดว่าจริงๆ แล้วเราร้องเพลงก็ได้นะ แต่ว่าเราลองมา Rap ด้วยดีไหม เพราะเราก็ไม่เคยร้องมาก่อน ก็เริ่มมา Rap โดยการเริ่มเขียน remix เป็นของตัวเองจากเพลงของ Rihanna แล้วก็เป็นเนื้อเพลงของเรา

ถามว่าก่อนหน้านี้ร้องเพลงแนวไหน ส่วนตัวเมื่อก่อนตอนเริ่มต้นก็จะร้องเป็นสายดีว่า สาย Mariah Carey / Whitney Houston หลังจากนั้นก็มาร้องเพลงไทย แล้วก็เริ่มเรียนการร้องเพลงลูกทุ่ง เรียนรู้เพลงลูกทุ่ง ก็คือเราชอบลองหาอะไรใหม่ๆ ทำตลอด

เพลงแรกที่ประกวดแล้วได้รางวัลคือเพลงอะไร

(หัวเราะ) เพลงแรกที่ร้องคือเพลงของ Mariah Carey เพลง Hero ก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรที่กล้าไปร้องเพลงของแม่ Mariah ก็เมื่อก่อนไม่มีประสบการณ์ร้อง ก็ไปร้องเพลงใหญ่เลยจ้า ก็ได้ที่ 4 ของโรงเรียน ก็โอเค เราพอได้ก็ไปต่อเลย

การร้องเพลงในแนวดนตรีที่ต่างกัน สอนอะไรคุณบ้าง

ถ้าเป็นเพลงดีว่านะคะ คนส่วนมากก็คิดว่าร้องเพลงเสียงสูงๆ มันปัง แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น คือทำความเข้าใจกับคำแต่ละคำ แล้วก็เรื่องความดังความเบาของเพลงสากลนะคะ เพลงลูกทุ่งก็คือความเป็นลูกคอ แล้วก็ไม่ใช่แค่ลูกคออย่างเดียว ซึนารีสังเกตว่าเพลงลูกทุ่งเขาจะมีอารมณ์อีกแบบหนึ่ง ซึ่งสายสากลจะมาร้องเพลงลูกทุ่งจะต้องปรับตัวให้มีความเป็นลูกทุ่งมากกว่านี้ ส่วนการ Rap นั่นก็คือการปลดปล่อยความเป็นตัวตนของตัวเอง แล้วการ Rap ส่วนมาก 80-90% ก็คือต้องใช้พลังเยอะๆ จากข้างใน แล้วก็ใส่ทุกอย่างที่คุณอยากแสดงเข้าไป คือต้องมีจริงๆ ในแต่ละคำที่คุณ Rap แล้วนอกจากนั้น ก็คือเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเขียนเนื้อร้อง Rap ด้วย ไม่ใช่แค่เลียนแบบจากคนอื่น ซึ่งเริ่มต้นแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าวันใดวันหนึ่งแล้ว ถ้าเราจะจริงจังกับการ Rap  เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเขียนเนื้อร้องเองด้วย

พอเล่าเหตุการณ์การถูกกลั่นแกล้งให้ฟังหน่อยได้ไหม

ตอนที่โดนกลั่นแกล้งครั้งแรกเลย ก็ตอนที่ย้ายมาอยู่โรงเรียนที่ไทย แล้วเป็นต่างจังหวัด คือจังหวัดนครราชสีมา เป็นครั้งแรกที่ซึนารีได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับความรู้ในการถูกกลั่นแกล้งนิดนึง แล้วก็จำได้ว่าไม่เคยรู้สึกว่าเราด้อยหรือแตกต่างจากคนอื่น แต่ทำไมพวกเด็กบ้าต้องมาทำร้ายจิตใจเรา ต้องมาทำให้เรารู้สึกแย่ เราไม่เท่าเทียมกับพวกคุณเพราะว่าเราเกิดมาแบบนี้ แล้วคิดในหัวตอนนั้นก็คิดว่าฉันไม่ผิดที่ฉันเกิดมาแบบนี้ ฉันผิวเข้มแล้วยังไง ฉันไม่ได้ไปทำร้าย ไม่ได้เป็นคนไม่ดี ทำไมเธอต้องมาทำกับเราแบบนี้ จนเรารู้สึกจิตตกไปนิดนึงค่ะ แต่ว่าไปๆ มาๆ เราก็เริ่มชิน พอเริ่มชินปุ๊บ ก็ไม่สนใจ ฉันจะจิตตกไปเพื่ออะไร นี่คือชีวิตของฉัน ฉันเป็นผู้ลิขิตชีวิตของฉัน ฉันจะเป็นอย่างนี้ แล้วฉันจะภูมิใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้และแตกต่างจากคนอื่น แล้วก็เลือกที่จะเอาพลังที่มันไม่ดี ที่ทุกคนส่งมาไม่ดี เอามาเป็นตัวผลักดัน เป็นเพลิงที่จะให้ซึนารีสู้ แล้วก็วิ่งเข้าหาสิ่งที่ซึนารีอยากทำคือดนตรีและการเป็นศิลปินค่ะ

พอโตขึ้นยังโดน Hate Speech หรือว่าคำพูดรุนแรงอยู่มั้ย

ตอนย้ายมาอังกฤษก็ไม่มีแล้วค่ะ ตอนอยู่ไทยก็มีบ้างปะปนกันไป แต่รีก็เลือกที่จะไม่ฟัง ไม่ให้มันมากระทบตัวเองเพื่ออะไร ใช่มั้ย

อะไรคือจุดเปลี่ยนให้คุณปล่อยวาง

มีตอนที่อยู่กับค่ายไทยอยู่ค่ายหนึ่ง แล้วเขาก็พูดกับเราว่าเรามีความสามารถในการร้องเพลงเพราะนะ แต่ลุคแบบเธอขายไม่ออกหรอก ไม่รู้จะทำการตลาดยังไง แล้วก็คิดขึ้นมาว่าเขาบอกว่าทำไม่ได้ใช่ไหม ไม่เป็นไร เราจะพิสูจน์ว่าเราทำได้ แล้วก็ตัดสินใจไม่ฟัง แล้วเก็บเงินมาที่ลอนดอน ก็มาสานฝันความเป็นศิลปินต่อเลยค่ะ

การย้ายมาลอนดอนอาจทำให้คุณรู้สึกถูกเยียวยามากขึ้น แล้วแบบนี้คุณหาแรงบันดาลใจยังไงบ้าง

วิธีการที่จะให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ของรีเองก็จะบล็อกพลังงานลบทุกอย่าง ถ้ามันพุ่งมาที่เรา เราก็มอง แล้วไงอ่ะ Hate เราเพื่ออะไร โดยเฉพาะถ้าเราไม่เคยทำอะไรให้เขา ก็อย่าไปฟังอย่าไปแคร์เขาเลย เขาอาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่บ้าน หรือกับอดีตของเขา จนเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเกลียด ที่เขาต้องปล่อยความรู้สึกที่ไม่ดีออกไปให้คนอื่น เราก็สงสาร ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็มาอยู่กับชีวิตเราดีกว่า สู้เราทำอะไรดีๆ ทำกิจกรรมอะไรดีๆ ดีกว่า อะไรที่ไม่ดีเราก็บล็อกแม่งไปเลย ไม่สนใจ

อะไรที่ทำให้คุณต้องไปลอนดอน

รีเคยบอกกับตัวเองว่า “ฉันมีความฝันว่าอยากไปเติบโตที่ต่างประเทศ อยากโกอินเตอร์” คือใจเรามีต้นแบบศิลปินเป็น Rihanna บวกกับที่เขาเป็นคน Barbados แล้วฉันก็เป็นลูกครึ่งตรินิแดด ก็เป็นหมู่เกาะเดียวกัน แล้วเราเห็นว่ามันเจ๋งมาก ทุกสิ่งที่เขาทำมันเท่ มันเก๋ แล้วก็แบบว่านี่คือความฝันของฉัน พอเราเห็นต้นแบบศิลปินเราทำ เราก็จะเป็นคนต่อไป ต้องเป็น Tsunari International แล้วเราก็รู้ว่าช่วง 6-7 ปีที่แล้ว เราอยากไปเติบโตที่ต่างประเทศ ซึ่งเราก็ต้องมาที่อังกฤษเพื่อมาเพื่อเรียนรู้และเก็บทักษะ เก็บประสบการณ์จริงๆ จากที่นี่ค่ะ เพราะว่าตอนอยู่ไทย ก็พูดอังกฤษแต่ไม่ได้บ่อย ไม่ได้ใช้เยอะ พอเทียบกับมาอยู่ที่ลอนดอน คือภาษาอังกฤษตอนนั้นก็พอรู้แล้วในระดับหนึ่ง แต่ว่าไม่ได้คล่องเท่านี้ เพราะว่าเราอยู่โรงเรียนไทย แล้วก็มีเพื่อนคนไทยเป็นส่วนใหญ่ แล้วเพิ่งมาคลุกคลีกับเพื่อนชาวต่างชาติช่วง 6-7 เดือนก่อนที่จะมาอังกฤษ เพราะตอนนั้นเราก็ได้ร้องเพลงกลางคืนที่ทองหล่อ เอกมัย ก็เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มมีเพื่อนต่างชาติจริงๆ จังๆ

ตอนที่ย้ายมาลอนดอน คุณได้มาเป็นศิลปินเลยไหม

พอย้ายมาก็ไม่ได้รู้จักใครเลย ก็ไม่มีเส้นไม่มีสาย มาถึงก็มาทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว จำได้ว่างานแรกที่มาทำก็เป็นงานในร้านอาหารไทย เป็นจุดเริ่มต้นก่อน เราทำมา 3 เดือนกว่า ก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ จนมาเป็นนักแสดงสมทบในบทบาทเล็กๆ น้อยๆ ตามภาพยนตร์หรือละคร แล้วก็จนมามีผู้จัดการคนปัจจุบันที่มาเจอโปรไฟล์ของเราในช่วงเข้าเดือนที่ 6-7 ที่ซึนารีย้ายเข้ามาอยู่ในลอนดอน เขาเลยชวนมาคัดเลือกและก็ได้มาทำงานด้วยกัน หลังจากนั้นเขาก็สนับสนุนเรา แล้วก็ช่วยสนับสนุนซึนารีมาจนปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นเวลา 5 ปีแล้วค่ะ

คุณได้มีส่วนช่วยอย่างไรในการทำค่ายเพลงบ้าง

ซึนารีจะมีความคิดสร้างสรรค์ในทุกเรื่องค่ะ แล้วก็เหมือนพอเราเรียนรู้ทุกอย่างแล้วก็สามารถที่จะตั้งบริษัท เป็น Tsunari entertainment อีกที ซึ่งเราจะจัดการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจ เขาก็ช่วยสอนเรา เผื่ออนาคตเรามีโครงการที่มันจริงจังใหญ่ๆ เราจะได้ควบคุมได้มากขึ้นค่ะ ในขณะเดียวกัน ในการทำเพลงทุกๆ เพลงที่ซึนารีปล่อยออกมา ซึนารีก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมหมดเลยค่ะ

คำจำกัดความฮิปฮอปแบบ Tsunari มันเป็นแบบไหน

รีคิดว่าเป็นฮิปฮอป จะเรียกว่าตัวเองเป็นร้องแล้วก็ฮิปฮอป จะเรียกว่า Feminine Rap ก็ได้ ถึงแม้ว่ารีจะแร็ปแต่รีก็ยังคงรักษาความเป็นผู้หญิงอยู่ ใช่ เราสามารถที่จะโหด ฮึกเหิม Energy เราทำได้ แต่ว่าเราสามารถที่จะ Emotional สวยงาม เซ็กซี่แร็ปก็ได้ เผ็ด ต๊าซ ได้หมด

สารตั้งต้นในการแต่งเพลงของคุณเริ่มต้นจากอะไรบ้าง

เริ่มต้นจากการที่รีทำ Remix ในยูทูปเลย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งเพลงร้องและแต่งเพลงแร็ป รีว่ามันช่วยได้เยอะเลยนะ

เพราะว่าเทคโนโลยีมันให้ง่ายด้วยมั้ย

ตอนที่รีทำ Remix ครั้งแรกเลยก็นานมากเลยนะ ตั้งแต่ 2012-13 ด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนั้นยูทูปก็มีมาพอสมควรแล้ว ซึ่งถามว่าเทคโนโลยีมันช่วยมั้ย มันก็ช่วยในระดับหนึ่งค่ะ แต่ว่าไม่ได้เหมือนสมัยนี้ที่มันช่วยสุดๆ

แสดงว่าสิ่งหนึ่งที่นักแต่งเพลงต้องมีแน่ๆ คือความพยายาม ความขยัน แล้วก็แรงบันดาลใจ

ใช่ แล้วก็ความที่ไม่หยุดนิ่ง ไปต่อเลย รักที่จะเรียนรู้

จากนั้นคุณเรียนรู้อะไรอีกบ้างเพื่อนำไปสู่การแต่งเพลง

รีก็จะเป็นคนฟังเพลงเยอะๆ ค่ะ บางครั้งก็จะฟังเพลงนอกเหนือจากเพลงที่ตัวเองฟังเป็นปกติ อย่างรีเป็นคนชอบฟัง R&B ฮิปฮอป ร็อกบ้าง แต่บางครั้งดนตรีมันไม่มีพรมแดนใช่ป่ะ เราเป็นศิลปิน เราเป็นนักแต่งเพลง เราเป็นคน Creative เราก็ต้องเรียนรู้อะไรที่มันใหม่ ซึนารีก็จะใช้การฟังเพลงแนวอื่นๆ อย่างเช่นแนวคันทรี่ แนวแดนซ์ อะไรที่ซึนารีไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ พอเราฟังเราก็ได้เรียนรู้อะไรที่มันแปลกใหม่จากที่เราทำทุกๆ วันค่ะ บางครั้งเราจะได้รับ Inspiration จากหนังหรือรายการ บางครั้งจะมีประโยคที่มันจึ้ง แล้วเราก็ เฮ้ย เราเอามาใส่ในเพลงดีมั้ย เอามาปรับเปลี่ยนเป็นไอเดียในเพลงดีมั้ย Inspiration ก็มาจากรอบข้างชีวิตเราค่ะ

เพลงแรกที่แต่งเองและภูมิใจกับมันมากที่สุดคือเพลงอะไร

ภูมิใจมากที่สุดเหรอ น่าจะเป็นตั้งแต่เด็ก Since young ที่เพิ่งปล่อยออกไป

อะไรทำให้ Since Young เป็นเพลงที่คุณรักที่สุด

สิ่งที่ทำให้รีภูมิใจมากที่สุดในเพลงตั้งแต่เด็ก เพราะว่ามันเป็นเพลงแรกที่ซึนารีเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง ปกติเป็นคนที่เขินๆ ไม่ชอบเล่าเรื่องตัวเองเท่าไหร่ แต่รีว่านี่เป็นโอกาสที่จะปล่อยเพลงใหม่ ได้เล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองตั้งแต่เด็กๆ แล้วเราได้ฝ่าฟันสิ่งเหล่านั้นสิ่งต่างๆ ยังไง แล้วพอซึนารีเขียนเพลงนั้นเสร็จ รีก็กลับไปอ่าน มันก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน ภูมิใจอ่ะ มึงเก่งนะเนี่ย ยังไม่ตาย (หัวเราะ)

แปลว่าเพลงนี้มีความหมายกับคุณ?

มากค่ะ มากเลยค่ะ เราก็รู้สึกว่าพอเราปล่อยเพลงที่มันเป็น Origin Story แล้วเราก็โอเค ตรงนี้เสร็จแล้ว เราก็ลุยต่อไป ฉากต่อไป เราไป Chapter ต่อไปได้ เพราะเราปลดปล่อยความเป็นเราไปแล้วอันหนึ่ง

ผลตอบรับของ Since Young เป็นยังไงบ้าง

ผลตอบรับค่อนข้างดีค่ะสำหรับซึนารี ด้วยความที่ว่าในประเทศไทยไม่ค่อยมีเพลง yell ที่ออกมา แล้วก็แรปเปอร์หญิงก็ไม่ได้มีเยอะแค่คนสองคนเอง ตอนแรกรีคิดว่าคนจะเก็ทความเพื่อชีวิตหรือเปล่า (หัวเราะ) แล้วพอปล่อยเพลงออกไปกลายเป็นว่าคนชอบ โดยเฉพาะคนชอบที่ซึนารีเอาความเป็นไทย พวกเครื่องดนตรีพิณแคนเข้าไปผสมกัน จนกลายเป็นว่าเราที่อยู่นอกประเทศ แต่ว่าเรายัง represent ความเป็นไทย เล่าเรื่องถึงเราด้วย ทำให้คนรู้สึก ซึ่งเราก็ดีใจที่คนชอบเพลงนี้

อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณเอาความเป็นอีสานเข้ามาใส่ในทำนองเพลง

เพราะว่าซึนารีภูมิใจที่จะเป็นคนโคราช คนไทย คนอีสาน แล้วก็อยากที่จะเอาวัฒนธรรมไทยมาผสมผสานให้คนได้ฟังกัน รวมถึงคนไทยได้ฟังกันแล้วรู้สึกว่าวัฒนธรรมไทยหรือดนตรีของเรามัน amazing นะ แล้วเราสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง คือสุดท้ายแล้ว ซึนารีก็ Reprensing Thailand และโคราช

สำหรับคุณแล้ว จริงๆ การเป็นศิลปินง่ายหรือยาก

รีว่าอาชีพศิลปินเป็นหนึ่งในอาชีพที่ยากที่สุด เพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นแรปเปอร์หรือนักร้อง ความเป็นศิลปินมันไม่มีอะไรที่ตายตัว มันไม่มีจุดที่บอกว่ายูทำอย่างนี้แล้วยูจะได้เลื่อนขั้นไปต่อ ไปเป็น manager มันไม่มีค่ะ คือ timeline ของศิลปินมันจะเป็น ลำบากๆๆ ไม่มีตัง ฝ่าฟันอุปสรรคอะไรต่อมิอะไร ทำไปทำมาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บางคนก็ปังเลย ปังแบบที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวว่าฉันดัง คือมันไม่มีจุดบอกว่ายูทำกี่ปีแล้วยูจะได้เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จ มันไม่มีอะไรตายตัวเลย ซึ่งมันยาก บางครั้งก็สามารถทำให้คนท้อได้ การที่ถ้าเราพูดถึงอาชีพที่ปกติที่เราสามารถเกณฑ์เวลาว่าเราต้องทำอะไรถึงจะประสบความสำเร็จ แต่กับศิลปินมันเหมือนอากาศ แต่ว่าพอทำแล้ว ถึงจุดๆ หนึ่งมันคุ้มมาก มันเหมือนได้กินขนมหวานชิ้นโปรดในปาก พอเราได้ชิม ได้กินแล้วมันฟิน

การทำเพลงสอนอะไรบ้าง

ความละเอียดอ่อนแล้วก็ความใจเย็นค่ะ คือการทำเพลงสำหรับรีแล้วมันใช้ความละเอียดอ่อนค่อนข้างที่จะสูง แล้วก็มันทำให้เราใจเย็นมากขึ้น เพราะว่าเราจะสักแต่รีบๆ ทำมันก็ทำได้ แต่มันอาจจะไม่ใช่เราเต็ม 100% หรืออาจจะไม่ทำให้เราแฮปปี้ แล้วเรื่องความละเอียดอ่อนมันทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง อย่างเช่นถ้าเราเจอกระดาษเอสี่แผ่นหนึ่งใช่มั้ยคะ เราก็เห็นแค่เป็นกระดาษเอสี่ขาวๆ แผ่นหนึ่ง แต่ว่าพอเราทำเพลงแล้ว เราก็จะมองเห็นไปลึกกว่านั้น ว่าเอสี่แผ่นนี้มันมาจากต้นไม้ที่ฉะเชิงเทรา แล้วกว่าที่เขาจะโตขึ้นมาต้องใช้เวลากี่วัน แล้วชาวไร่เขาต้องใส่ปุ๋ยมากน้อยขนาดไหน อันนี้คือการเปรียบเทียบ

ภาพจำของโลกฮิปฮอปอย่างหนึ่งที่ถูกผลิตซ้ำอยู่บ่อยๆ คือการที่แรปเปอร์ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น คุณคิดว่าวงกรนี้มีพื้นที่ให้ผู้หญิงบ้างมั้ย

มีค่ะ รีคิดว่าวงการแรปมีพื้นที่สำหรับทุกคนนะคะ บางคนบางกลุ่มอาจจะคิดว่าไม่ได้มีพื้นที่สำหรับเขา แต่จริงๆ แล้ว ถ้าไม่มีพื้นที่สำหรับคุณหรือใคร เราสามารถที่จะสร้างพื้นที่นั้นได้ แล้วเราก็พิสูจน์กับตัวเราแล้วก็ทุกคนว่าเราฝึกฝนมามากน้อยแค่ไหน เราตั้งใจแค่ไหน แล้วคนก็จะดูได้ผ่านบทเพลง แล้วก็ถ้าพูดถึงตอนนี้คือใช่ เรามีแรปเปอร์ผู้ชายซะส่วนใหญ่ คือ Testosterone (ฮอร์โมนเพศชาย) มันเยอะเหลือเกิน ดังนั้นมันก็ดีที่มันมี Feminine Energy มี Estrogen (ฮอร์โมนเพศหญิง) เข้าไปผสมนิดหนึ่ง จะได้มีหน้าสวยๆ กิ๊งๆ ความเป็นผู้หญิงเบาๆ เฮย์ๆ ว่าซั่น (หัวเราะ)

จริงๆ แล้วโลกฮิปฮอปและแรปเปอร์ไม่ควรจำกัดเพศใช่มั้ย

ฮิปฮอปใช่มั้ยคะ คิดว่าไม่มีพื้นที่ไหนที่ไม่ควรจำกัดด้วยเพศ คิดว่ามันอยู่ที่ Mindset ของคุณมากกว่า อย่างที่นี่ก็จะมีแรปเปอร์ที่เป็น LGBTQ+ ก็มีหลายคน (ในที่นี้เช่น Lill Nas X-บรรณาธิการ) แล้วเขาก็ประสบความสำเร็จ แล้วเพลงเขาก็ดีด้วย ที่ไทยรู้สึกว่าน่าจะมีแล้วเหมือนกันที่เป้นแรปเปอร์เพศที่สาม เราก็คิดว่าไม่จำกัดแล้วนะ

เบื้องหน้าคุณคือแรปเปอร์ที่แซ่บและเฟียร์สมาก แต่เราทราบมาว่าจริงๆ คุณสนใจในธรรมและการนั่งสมาธิด้วย?

เพราะว่าความเชื่อของรี เชื่อในกฎแห่งการ Law of Attraction (กฎแรงดึงดูด) อาจจะไม่ธรรมะซักเท่าไหร่แต่ก็ใกล้เคียงกัน คือเราเอาทุกอย่างที่มันเป็นสิ่งภายนอกที่ไม่ใช่ของจริง อะไรที่เป็นสิ่งที่จริงในชีวิตคือสิ่งธรรมชาติที่เกิดขึ้นเอง พอรีโฟกัสในเรื่องนั้น รู้สึกว่าเราแฮปปี้มากขึ้นจากภายใน ทำให้เราทำงานได้แฮปปี้ขึ้น สนุกมากขึ้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ว่าด้วยความที่รีเชื่อในกฎแรงดึงดูด รีก็จะนั่ง ตั้งเป้าหมายแล้วก็คิดถึงทุกอย่างที่รีอยากจะให้เกิดขึ้น ซึ่งใครหลายๆ คนที่อาจจะไม่คุ้น ก็อาจจะไม่เชื่อ แต่รีเชื่อแล้วมันก็เกิดขึ้น มันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ที่รีตั้งไว้ตั้งเด็กจนถึงปัจจุบันค่ะ

มีความสุขมั้ยกับการทำเพลง

มีค่ะ มีความสุขมาก มากๆ เลย ตั้งแต่ที่ตัวเองได้ปล่อยเพลงของตัวเองเลย เพลงแรกของตัวเอง รู้สึกว่า เฮ้ย เรามาถึงจุดนี้ของชีวิต เรารู้สึกแฮปปี้ มันทำให้เราอยากลุย อยากไปต่อ อยากไปเรื่อยๆ เลย

แผนการในอนาคตของศิลปินที่ชื่อ Tsunari

จริงๆ แล้ว ความฝันที่ใหญ่ที่สุดของซึนารีก็อยากจะเป็นศิลปิน International เต็มตัวไปเลย ก็อยากจะมีโอกาสได้จัด World Tour บ้าง และหลังจาก 5 ปีแล้ว พอเรารู้สึกว่าเราโอเคกับความสำเร็จของเราแล้ว เราก็อยากจะใหเอะไรคืนให้กับสังคมค่ะ อาจจะมีการตั้งกิจกรรมอะไรสักอย่างสำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่เขาอยากจะมีความฝัน อยากเป็นศิลปิน แล้วก็เป็นเหมือนกิจกรรมที่เราจะช่วยให้เขาเรียนรู้ด้านธุรกิจดนตรี  ด้านวงการบันเทิง หรือทักษะด้านการเขียนเพลงในการตัดต่ออะไรต่างๆ ที่มันสามารถช่วยต่อยอดให้กับอนาคตของ Next Generation ได้

ภาพ: Facebook-Tsunari

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า