fbpx

TIPH มุ่งหน้าสู่ Holding Company ชั้นนำในธุรกิจประกันภัย

จากก่อนหน้านี้ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP ได้เตรียมปรับโครงสร้างมาเป็น Holding Company เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการการแข่งขัน และมีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น โดยภายหลังการปรับโครงสร้างของกิจการโดยไม่มีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป ดังนั้นทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงกำหนดให้ใช้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์ TIP เป็นราคาอ้างอิงแทนราคา IPO ในการคำนวณ Ceiling and Floor ในนาม บริษัท บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือชื่อย่อหุ้น TIPH ซึ่งบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ในหมวดธุรกิจการเงิน ประเภทประกันภัยและประกันชีวิต โดยเริ่มซื้อขายวันแรก 7 กันยายน 2564 แทนชื่อหุ้น TIP ที่เพิกถอนไปแล้ว อย่างที่ทราบกันดีว่า ทิพยประกันภัย มีความโดดเด่นในด้านประกันวินาศภัยภัยอย่างที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยชื่อเป็นอย่างดี รวมถึงรัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกด้วย

Modernist ขอพาไปทำความรู้จักกับ TIPH ว่าทำธุรกิจประกันภัยในรูปแบบไหน รวมไปถึงภายหลังการเปลี่ยนหุ้นแล้วจะมีแผนเป้าหมายอย่างไร

ทำความรู้จัก TIPH และบริษัทในเครือ

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งในรูปแบบบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีธุรกิจหลักด้านธุรกิจประกันภัย ได้แก่ ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัยสำหรับกลุ่มธุรกิจอื่น โดยภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการแล้วเสร็จ บริษัทฯได้เตรียมแผนการลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยใน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (TIP) 

ทิพยประกันภัย จดทะเบียนจัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำกัด ภายใต้ชื่อ บริษัท ประกันภัยเอเชียติ๊ค จำกัด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2494 โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท รัชตประกันภัย จำกัด ในวันที่ 8 กันยายน 2495 และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2496 ตามลำดับ หลังจากนั้น ได้ดำเนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ต่อกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2538 และได้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นครั้งแรกในวันที่ 24 กรกฎาคม 2539 ภายใต้ชื่อย่อ “TIP” โดยประกอบธุรกิจให้บริการประกันวินาศภัย 4 ประเภทหลัก ได้แก่ การประกันอัคคีภัย การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยเบ็ดเตล็ดและธุรกิจลงทุน ตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัยภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยนำเงินที่เหลือจากธุรกิจประกันภัยไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ

TIP เป็นบริษัทอยู่ของกลุ่มภายใต้ TIPH และที่โครงสร้างธุรกิจประกันภัยของทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โดยจะแบ่งสายธุรกิจและจำกัดความเสี่ยงของแต่ละสายธุรกิจอย่างชัดเจน 4 ประเภท ได้แก่

1. ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย (Non-Life Insurance) – TIP ดำเนินธุรกิจหลักที่รับประกันภัยโดยตรงจากลูกค้า โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ การประกันอัคคีภัย การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยเบ็ดเตล็ด นอกเหนือจากการรับประกันภัยโดยตรงจากลูกค้า (ผู้เอาประกันภัย) 

2. ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย (Life Insurance) – TIP ประกอบธุรกิจหลักที่อยู่ในบริษัทย่อย และยังคงมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยอาจพิจารณาปรับโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าวในอนาคตตามความเหมาะสม

3. ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ (International Insurance) – อยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนในธุรกิจประกันภัยไปยังประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม (กลุ่ม CLMV) ประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโต และสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม

4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย (Insurance Related) – อยู่ในระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจประกันภัย เพื่อให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

หลังจากที่ได้เตรียมแผนดำเนินการในการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ อาจจะมีการขยายลงทุนในอนาคตในสัดส่วนไม่เกิน 25% ของทรัพย์สินรวมของกลุ่มบริษัท เพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์ของธุรกิจหลัก และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มธุรกิจของ TIPH ด้วย โดยแผนกลยุทธ์หลักในการขยายธุรกิจของ TIPH ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ทางบริษัทฯมีแผนดำเนินการชัดเจนแล้วตามที่ได้แจ้งกับผู้ถือหุ้นไประหว่างช่วงเวลาการทำ Tender Offer ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการจัดตั้งหรือเข้าซื้อกิจการที่ประกอบธุรกิจสนับสนุนธุรกิจประกันภัย 2-3 ธุรกิจ และศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งบริษัทประกันภัยใหม่ หรือการเข้าซื้อกิจการที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อรองรับการแยกหน่วยธุรกิจที่มีศักยภาพของบริษัทในกลุ่มออกเป็นบริษัทใหม่ หรือ Spin-Off อีกอย่างน้อย 1 ธุรกิจด้วย

สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ใน 5 อันดับแรก ประกอบด้วยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) จำนวนหุ้น 80,000,000 หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 13.46%, ธนาคารออมสิน จำนวนหุ้น 67,200,000 หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 11.31%, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) จำนวนหุ้น 60,000,000 หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 10.10%, บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 59,920,400 หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 10.08% และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จำนวนหุ้น 44,236,400 หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 7.44% 

รายได้และผลประกอบการที่ผ่านมาของ TIP

TIP เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและการลงทุน โดยรายได้ของ TIP สามารถจำแนกได้เป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย เบี้ยประกันภัยรับที่ถือเป็นรายได้สุทธิ, รายได้ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ, รายได้และกำไรจากการลงทุน และรายได้อื่นๆ ทั้งนี้ รายได้หลักของ TIP มาจากเบี้ยประกันภัยรับที่ถือเป็นรายได้สุทธิ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 48 ถึงร้อยละ 59 ของรายได้รวม ซึ่งสามารถจำแนกตามประเภทกรมธรรม์ได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยเบ็ดเตล็ด (ประกันภัยเบ็ดเตล็ดสามารถจำแนก ออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่น) เมื่อพิจารณาสัดส่วนรายได้จากการประกันภัยประเภทต่างๆ แล้ว เบี้ยประกันภัยรับส่วนใหญ่จะมาจากประกันภัยเบ็ดเตล็ด คิดเป็นร้อยละ 71 ถึงร้อยละ 75 ของเบี้ยประกันภัยรับรวม ระหว่างปี 2561 ถึงปี2563 และประมาณร้อยละ 67 ถึงร้อยละ 69 ของเบี้ยประกันภัยรับรวม สำหรับงวดหกเดือนปี 2563 และปี 2564 ตามลำดับ

สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2561 – 2563 โดยมีรายได้รวมจากจากการขายและให้บริการ 9,384.84 ล้านบาท, 10,546.09 ล้านบาท และ 12,740.86 ล้านบาท ตามลำดับ และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 – 2564 จำนวน 6,335.29 ล้านบาท และ 6,841.25 ล้านบาท ตามลำดับ โดยสามารถจำแนกเป็นของ TIP ในช่วงเทียบปีระหว่างปี 2562 เมื่อเทียบกับปี 2561 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,161.25 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิ ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับตรงจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่น เนื่องจาก TIP มีนโยบายมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้ารายย่อย โดย TIP มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการในกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยการขยายช่องทางการขายแบบครบวงจร (Omni Channel) ทั้ง Online และ Offline ผ่าน Website, Mobile Application, สาขา และพันธมิตรของ TIP รวมถึงการพิจารณาการรับประกันภัย และการให้บริการด้านสินไหมทดแทนที่รวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล และมุ่งเน้นการขยายกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรแบบครบวงจร (Full Service Solution)

สำหรับรายได้ในช่วงเทียบระหว่างปี 2563 กับปี 2562 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,194.77 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจาก การเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิ เนื่องจาก TIP ได้ออกผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ประกันภัยส่วนบุคคลคุ้มครองการติดเชื้อ COVID-19 เป็นเจ้าแรกในไตรมาส 1 ปี 2563 โดยวางจำหน่ายประกันภัยดังกล่าวในทุกช่องทางการขาย ทั้งในระบบ Online และระบบ Offline ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และ การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเบี้ยประกันภัยต่อที่เพิ่มขึ้นตามเบี้ยประกันภัยรับที่เพิ่มขึ้นจากประกันภัย COVID-19 ดังกล่าว

สำหรับรายได้ในช่วงเทียบระหว่างงวดหกเดือนปี 2564 กับ งวดหกเดือนปี 2564 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 505.96 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ ที่เพิ่มขึ้นตามเบี้ยประกันภัยจ่ายจากการเอาประกันภัยต่อจำนวน 9,238.86 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,775.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.79 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นตามเบี้ยประกันภัยรับจากประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่น ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยรถที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านประกันภัยสุขภาพที่มีสัดส่วนการเอาประกันภัยต่อเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน และการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิโดยส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับที่รับรู้เป็นรายได้ในงวดปัจจุบันของประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่น ประกันภัยรถ และประกันอัคคีภัย อันเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ของ TIP ที่มุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร และการพัฒนาช่องทางการขายและการบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึง TIP ได้สะดวก ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากทั้งจากลูกค้าองค์กรและลูกค้ารายย่อย

สำหรับกำไรสุทธิของ TIP สำหรับปี 2562 เท่ากับ 1,863.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 332.03 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปี 2561 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่น กำไรสุทธิของ TIP สำหรับปี 2563 เท่ากับ 2,064.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201.68 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปี 2562 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับจากประกันภัย COVID-19 และการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากนโยบายมุ่งเน้นรายย่อยในกลุ่มลูกค้าประกันภัยรถยนต์ สุทธิจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตามเบี้ยประกันภัยรับที่เพิ่มขึ้น

กำไรสุทธิของ TIP สำหรับงวดหกเดือนปี 2564 เท่ากับ 1,250.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.84 เมื่อเทียบกับงวดหกเดือนปี 2563 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก การเพิ่มขึ้นของกำไรจากการรับประกันภัย ที่เพิ่มขึ้น 158.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.91 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่น ประกันภัยรถ และประกันอัคคีภัย และการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรจากการลงทุนสุทธิจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

TIP มีจำนวนหุ้นจดทะเบียนและชำระแล้วจำนวน 594,292,336 หุ้น ราคาพาร์ 1.00 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในขณะที่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (TIP) ได้เพิกถอนโดยสมัครใจ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ตามที่ TIP ได้จัดตั้ง บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TIPH) เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของกิจการ และขอให้ ตลท.รับหุ้นสามัญของ TIPH เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแทน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 หุ้น TIPH ปิดที่ราคา 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท (+16.07%) ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากราคาเปิดการซื้อขายของวันแรกอยู่ที่ 33.00 บาท ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่เข้ามาซื้อขายในนาม TIPH

ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2564) TIPH ปิดที่ราคา 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+2.31%)

คงต้องจับตากันต่อไปว่า หลังจากเปลี่ยนชื่อในนาม ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ว่าจะสามารถตอบโจทย์ด้านประกันภัยชั้นนำของประเทศในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันได้อย่างไร รวมไปถึงแผนงานในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น คงต้องติดตามกันให้ดีสำหรับหุ้น TIPH


ที่มา:

www.set.or.th

www.settrade.com

https://www.dhipayagroup.co.th/company_history/

https://www.thansettakij.com/money_market/494847

https://www.thansettakij.com/money_market/442171

https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=SXNiRTRnRTNmdDQ9&security=TIPH

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/958454

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า