ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธนาคารในไทยต่างก็เริ่มขยายกิจการออกสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการขยายสาขาไปต่างประเทศ และการซื้อกิจการธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งในช่วงสองสามปีที่ผ่านจนถึงปัจจุบัน ดีลใหญ่ๆ ที่ธนาคารไทยเข้าซื้อธนาคารต่างประเทศที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ ก็คือดีลของธนาคารกรุงเทพที่ได้เข้าซื้อธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเคเมื่อช่วงพฤษภาคมปี 2563 และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ธนาคารกสิกรไทยก็ได้ทำสัญญาเข้าซื้อธนาคารแมสเปี้ยน ซึ่งทั้งสองธนาคารต่างก็เป็นธนาคารสัญชาติอินโดนีเซีย
โดยประเทศอินโดนีเซีย เป็นตลาดที่มีเศรษฐกิจอย่างหลากหลาย มีผู้ประกอบการ SME อยู่มากมาย ซึ่งนอกจากจะเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วไปแล้ว ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจของเหล่าธนาคารในไทยอีกด้วย โดยปัจจุบันการแข่งขันในสนามธนาคารในอินโดนีเซียถือว่าดุเดือดมาก เพราะมีธนาคารอยู่กว่า 100 ธนาคาร Modernist จึงรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาให้ได้ติดตามกัน
ธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเค มีสินทรัพย์รวมกัน 366,595 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 20 พฤษภาคม 2563) มีสาขาทั่วประเทศ 330 แห่ง และตู้เอทีเอ็ม 1,000 ตู้ โดยธนาคารกรุงเทพได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 89.12% รวมมูลค่า 73,722 ล้านบาท ในขณะที่ธนาคารแมสเปี้ยน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2565) มีสินทรัพย์รวม 33,326 ล้านบาท สำนักงานทั่วประเทศ 51 แห่ง (ครอบคลุมเมืองสำคัญ) ตู้เอทีเอ็ม 120,000 ตู้ โดยธนาคารกสิกรไทยได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 67.50% รวมมูลค่า 7,556 ล้านบาท
โดยดีลทั้งสองส่งผลให้ทั้งธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทยขยายธุรกิจธนาคารในต่างประเทศได้อย่างเข้มแข็งขึ้น และโดยเฉพาะฝั่งธนาคารกสิกรไทยที่ดีลนี้ทำให้สามารถประกอบธุรกิจธนาคารในอินโดนีเซียได้โดยไม่ต้องยื่นขอใบอนุญาตใหม่ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนในการขอใบอนุญาตกว่า 23,800 ล้านบาท
ก็ต้องจับตามองกันว่าหลังจากนี้ จะมีธนาคารเจ้าอื่นๆ ที่กระโดดลงไปในสนามอันดุเดือดในอินโดนีเซียอีกไหม หลังจากที่สองเจ้าใหญ่นำหน้าไปก่อนแล้ว