fbpx

ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเดินป่า ไต่เชือก ขึ้นเขา และเข้าส้วมหลุม ที่สันหนอกวัว กาญจนบุรี

เคยคิดไปเที่ยวไหนแบบปุ๊บปั๊บทัวร์ไหมครับ?

ประมาณว่านั่งประชุมอยู่ดีๆ ที่บ้าน แล้วอีก 1 ชั่วโมงต่อมาเก็บกระเป๋าแบกเป้เดินทางไปขึ้นเขาซะอย่างนั้นแหละ ประสบการณ์นี้มันเกิดขึ้นกับผมแล้วครับ

เนื่องมาจากผมไปเจอมาว่า ‘สันหนอกวัว’ ยอดเขาที่อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กำลังจะปิดให้ขึ้นภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดอีกอีกทีปลายปีนี้ และในกรุ๊ปเดินป่ามีการทำทริปหารเฉลี่ยขึ้นมาพอดี

ความปุ๊บปั๊บทัวร์เกิดจาก ผมมาดูตารางชีวิตตัวเองแล้วก็พบว่าถ้าไม่ไปตอนนี้ ก็รออีกทีปีหน้าเลย และในเมื่อโอกาสมันมาแล้ว งั้นจะรออะไร ประชุมเสร็จตอน 5 โมงเย็น ตอน 1 ทุ่มผมไปรอขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ทันที โดยที่ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมาย รู้แค่ว่าบนนั้นวิวสวยมาก ก่อนจะมาพบความจริงว่า

ทริปนี้ผมปลดล็อคสกิลครั้งหนึ่งในชีวิตไปหลายอย่างเลย

สันหนอกวัวคืออะไร อยู่ที่ไหน

อยากแรกสุดผมขอพาทุกคนมารู้จักกับ ‘สันหนอกวัว’

สันหนอกวัว ชื่อฟังแล้วนึกถึงเนื้อสันนอกวัว อะไรประมาณนั้น แต่ในความเป็นจริงสันหนอกวัว เป็นชื่อที่เอามาตั้งให้กันสันเขาลูกหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายหนอกวัว (ซึ่งลองจินตนาการดูกันนะครับ ผมคิดว่าสันหนอนของวัว ในจินตนาการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน…)

สันเขาของสันหนอกวัว จะมีความใกล้เคียงกับสันคมมีด ของเขาช้างเผือก ที่อยู่ในกาญจนบุรีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้หวาดเสียวเท่าสันคมมีดที่ทางเดินแคบกว่า แต่โดยรวมแล้วเขาช้างเผือก เดินขึ้นง่ายกว่าสันหนอกวัวมาก

ถ้าเปรียบกับสันหนอกวัวเหมือนกันอะไร ผมคิดว่าน่าจะมีความใกล้เคียงกับดอยม่อนจองในลักษณะของกายภาพ แต่ถ้าเป็นเรื่องของวิว จุดกางเต้นท์ และรายละเอียดอื่นๆ ค่อนข้างต่างกันมาก

สันหนอกวัว จะมีทางขึ้นที่ห่างออกไปจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมประมาณ 30 – 40 นาที การเดินทางไปจุดตั้งต้นไม่ยาก เพราะถนนลาดยางมาอย่างดีเรียบร้อย เนื่องจากอยู่ในเขตการดูแลรับผิดชอบของทหาร และเลยไปอีกนิดจะเป็นทางขึ้นเขาเรดาห์ ที่ด้านบนมีเรดาห์อยู่ ทางก็เลยดีในระดับดีมากกกก

แต่ถ้าเขาที่จะเดินป่าไปสันหนอกวัว ถ้าไม่ได้มากับเจ้าถิ่น เราแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตรงไหนคือทางขึ้น ไม่ได้มีป้ายบอกใหญ่โตว่าถึงแล้วทางขึ้นอะไรแบบนี้ คือถ้าให้มาเองคนเดียว ผมหาทางขึ้นไม่เจอแน่นอน ลับแลไปอี๊ก

อีกอย่างบริเวณทางขึ้นไม่มีจุดจอดรถครับ เพราะมันอยู่ริมถนนเลย ดังนั้นถ้าจะมาขึ้นสันหนอกวัว นอกจากจะต้องจองเพื่อขออนุญาตในการขึ้นกับทางอุทยานแล้ว ก็ต้องจ้างรถกระบะ 4WD ที่รับ – ส่งนักท่องเที่ยว มาด้วยจะสะดวกกว่าเยอะ

ซึ่งจากที่ผมได้ข้อมูลมาก็ไม่เคยมีใครขับรถมาจอดตรงทางขึ้นแล้วเดินขึ้นเขาเองเลย เพราะทางอุทยานไม่อนุญาตนั่นเอง แต่ถ้าใครอยากลองเป็นนักท่องเที่ยวคนแรกในประวัติศาสตร์สามารถลองได้นะ ส่วนเจ้าหน้าที่เขาจะให้ไหมนี่อีกเรื่องเลย

สันหนอกวัวยาก มือใหม่ไม่แนะนำ แต่อยากลองก็มาดิค้าบบ

ว่ากันตามตรง ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสันหนอกวัวแค่เพียงว่า ที่นี่วิวสวยมาก ระดับที่ว่าขึ้นไปแล้วหายเหนื่อย กับระยะทางในการเดินขึ้นไม่ยากเท่าไหร่ ประมาณ 6 – 7 กิโลฯ ชิลลล

ผมได้ยินมาเพียงเท่านี้ก็คิดว่า เอ้า! สบายดิเดี๋ยวจะแบกกระเป๋า แบกเต้นท์ แบกอาหาร แบกเครื่องนอนไปเลย ระยะแค่นี่สบาย! โหดกว่านี้ก็เจอมาแล้ว

เอาเข้าจริงๆ ไม่เลย

สันหนอกวัวไม่หมู ขนาดผมมั่นใจในตัวเองว่าเราขึ้นเขาหลายลูกแล้วแค่นี้หมูๆ พอเจอของจริงต้องบอกเลยว่าสันหนอกวัว นี่โหดใช้ได้

ทั้งความชันที่บางช่วงต้องดึงเชือกช่วย (ขาขั้นไม่เท่าไหร่ ขาลงที่งงใจว่า กูขึ้นมาได้ไง ชันขนาดนี้) บางช่วงเป็นสันเขาที่อันตราย ความลื่นจากหินระหว่างทางขึ้นที่อาจทำเราหัวทิ่ม หรือข้อเท้าพลิกได้ถ้าพลาด

ผึ้งจำนวนมหาศาลที่หยุดเมื่อไหร่ มันจะมาตอม หรือต่อยเรา (ถ้าใครอ่านทริปน้ำตกผาแตกของผมที่เคยลงไปก่อนหน้าจะบอกว่าป่าเมืองกาญจนบุรีนี่ผึ้งเยอะจริง) และสุดท้ายคือระยะทาง ที่จริงคือ 9 กิโลเมตร ไม่ใช่ 7 กิโลเมตรอย่างที่เขาพูดกัน

ก็เรียกว่าอ่วมทั้งปริมาณของที่ผมแบกประมาณ 12 กิโลฯ อ่วมทั้งเส้นทาง อ่วมทั้งสภาพอากาศระหว่างขึ้นที่อบอ้าวใช้ได้ เนื่องจากผมไปเดินป่าปลายเมษายน ก็จินตนาการดูนะครับว่า ทรหดอดทนกันแค่ไหน

ทุกก้าวย่างที่ผมเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ในใจก็ถามตัวเองว่า…กูมาทำอะไรวะ

ทำไมไม่เปิดแอร์นอนอยู่บ้านเล่นกับแมวเฉยๆ จะมาทรมานตัวเองเพื่อ!

ผึ้งก็ตอมทุกครั้งที่หยุดเดิน

น้ำก็มีจำกัด กินเท่าที่มีอดทนไว้

อากาศร้อนสัส จนร่างจะเป็นเนื้อเดียวกับพื้นทางเดิน

ถ้าให้จัดอันดับเส้นทางเดินเขาที่เดินแบบวันเดียวถึงที่หมายในไทย ผมคิดว่าจะให้สันหนอกวัว ติดลิสต์เบอร์ต้นๆ ไปเลย เพราะอุปสรรคต่างๆ ที่เจอในการเดินขึ้นนี่แหละ เลยทำให้ติดท็อปลิสต์ในใจผม

แล้วถ้าถามว่าหากเป็นมือใหม่กริบๆ เลยมาสันหนอกวัว นี่จะไหวไหม ว่ากันตามตรงยังไงก็ไหว ยิ่งถ้าไม่ต้องแบกอะไรขึ้นมาเองด้วยแล้วล่ะก็ เดินขึ้นตัวปลิว สบายเลย ลองได้ แต่อย่างน้อยฟิตร่างกายมาก่อนจะดีมาก เพราะยิ่งเดินขึ้นช้า เราอาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้

สิ่งที่ต้องเตรียมใจเมื่อไปสันหนอกวัว เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

ถ้าคิดว่าอุปสรรคที่ผมเจอแล้วเล่าไปในข้อที่แล้วจะมีแค่นั้น บอกเลยว่ามีอีก!

จุดวัดใจแรกสุดของเราเลยก็คือเสบียงอาหาร เนื่องจากบนสันหนอกวัว ไม่มีอะไรขายเลย ทั้งอาหาร น้ำเปล่า หรือของกินอื่นๆ

เรียกได้ว่าถ้าเดินขึ้นไปแล้วลืมเอาน้ำ เอาอาหารมาก็จบครับ ปิดตำนาน เดินลงเขา กลับบ้านไปก่อนได้เลย

ส่วนใครที่เอาอาหารมาส่วนมากคือถ้าไม่ก่อไฟทำอาหารกินเอง ก็จะเตรียมอาหารที่ซื้อมาระหว่างทาง หรืออาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน มาจากบ้าน เพื่ออุ่นกินเองด้วยกรรมวิธีต่างๆ อย่างน้อยก็ช่วยให้เราอยู่รอดได้อีกวัน

ลำบากเนอะ แต่…ยังไม่สุด

ที่สุดไปกว่านั้นคือ ‘ห้องน้ำ’ ผมกล้าบอกเลยว่า ถ้าคุณผ่านการเข้าส้วมหลุมกลางป่าที่นี่ไปได้ คุณสามารถเข้าส้วมอะไรก็ได้ทุกที่ในโลก ขอเตือนก่อนว่าบรรทัดหลังจากนี้ไปอาจมีข้อความที่สะเทือนใจคนกินข้าว ดังนั้นถ้ายังไม่พร้อมอย่างเพิ่งอ่าน ถ้าใครพร้อมแล้ว มา!

ส้วมหลุม ที่นี่ก็คือการนำเอาไม้ไผ่สานมาล้อมรอบของน้ำ จากนั้นก็ขุดหลุมลึกประมาณ 1 เมตร โดยมีรูไว้ 1 รูกว้างนิดหน่อยประมาณหนึ่งเพื่อให้เราทำธุระส่วนตัว และมองเห็นพื้นด้านล่าง

ซึ่ง…ถ้าเราเข้ามาเป็นคนแรกๆ ตั้งแต่เขาเปิดให้เข้า ก็คงจะไม่เป็นไร

แต่ถ้ามาช่วงท้ายก่อนปิดเขา สิ่งที่เราจะสามารถเจอได้ก็คือซากอารยธรรมโบราณที่คนก่อนหน้าทิ้งไว้ในหลุม และกลิ่นที่ทำให้เราสะเทือนใจ มันเป็นสิ่งที่ผมอธิบายได้ยาก ว่า ณ นาทีนั้น ที่ผมต้องเข้าส้วมหลุม สภาพจิตใจผมต้องเป็นยังไง

ไม่เพียงเท่านั้น ผึ้ง! ผึ้ง มึงกลับมาอีกแล้วววว ผึ้งตอมตรงบริเวณที่เรานั่งทำธุระส่วนตัวนี่แหละครับ เข้าห้องน้ำไป ก็เสียวไปว่าผึ้งจะต่อยเราไหมนะ เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ทำได้แค่เพียงภาวนาให้จบลงเร็วๆ

แต่เมื่อผ่านจุดนั้นมาได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราก็คือเลเวลอัป จากนี้ไปห้องน้ำทั่วโลกที่เจอ จะไม่มีอะไรที่เลวร้ายกว่าส้วมหลุมไปอีกแล้ว ผมเคยเจอส้วมที่ต้องขุดดินเอง และกลบเอง ยังไม่พีคเท่าส้วมหลุดที่นี่เลย

ใครคิดจะไปสันหนอกวัว แล้วห่วงเรื่องห้องน้ำ ผมบอกเลยว่าไม่ต้องห่วงครับ เจอเหมือนกันนี่แหละ

ความสวยงามของสันหนอกวัว ที่ทำให้เราลืม…ทุกความลำบาก

ผมพูดถึงข้อเสียมาเยอะมากแล้ว แต่ทำไมไม่พูดถึงเรื่องดีๆ ของสันหนอกวัวบ้าง?

ตอนแรกที่ผมเดินขึ้นเขาไป ผมก็บ่นยับในทุกเรื่องเช่นกัน พอจังหวะสุดท้ายที่ผมพ้นแนวป่าออกจนเจอลานกางเต้นท์ตรงสันเขา

วิวที่เห็นตรงหน้าก็คือสวย…สวยมากเลย

เนื่องจากว่าสันหนอกวัว จะแบ่งเป็นสันหนอกเล็ก และสันหนอกใหญ่ ซึ่งจุดที่เรากางเตนท์ จะมองเห็นสันหนอกวัวเล็กที่อยู่ถัดไปประมาณ 10 นาที วิวที่มองขึ้นไปเห็นสันเขาด้านบน จัดว่าเด็ดมากคุ้มค่าความเหนื่อย และพอจะช่วยเยียวยาจิตใจ ตอนที่เราต้องเข้าห้องน้ำไปได้มากทีเดียว

มองอยู่ตรงลานกางเต้นท์ อาจจะไม่หนำใจเท่ากับ เราเดินขึ้นไปบนสันหนอกวัวเล็กด้วยตัวเอง จุดที่เราขึ้นไปยืนนั้น เราจะเห็นวิวจากมุมสูงที่สุดของภูเขาในกาญจนบุรี ที่วิวสวยมาก และสามารถมองเห็นน้ำตกผาแตก เขาช้างเผือก และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ด้วยวิวแบบเวรี่กู้ด! แน่นอนว่ามีทะเลหมอกให้เห็นด้วย

แต่ถ้าเดินไปอีก 10 นาทีเราจะถึงจุดที่เรียกว่า สันหนอกวัวใหญ่ จุดนี้วิวที่เพิ่มเข้ามาให้เราเห็นก็คือเขาเรดาห์ ที่มองผ่านๆ แล้วรูปทรงเหมือนภูเขาไฟฟูจิ บริเวณนี้ แนะนำให้ขึ้นมาตอนเช้าเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอก ที่พัดผ่านสันหนอกเล็ก สลับไปมา ภาพสวยมากจนแบตผมหมด

ส่วนอากาศบนนี้ก็เย็นมาก จนงงว่านี่เดือนเมษายนนะ ทำไมมันเย็นได้ใจ และยิ่งดึกก็ยิ่งหนาวกว่าเดิม หนาวแบบต้องใส่เสื้อกันหนาวนอนเลยนะ เซอร์ไพรส์มาก

จากใจเลยนะครับ ตอนแรกผมก็หงุดหงิดตัวเองที่รำคาญขึ้นมาทำไม เราไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะรับมือความเหนื่อย พร้อมจะรับมือส้วมหลุม

แต่พอขึ้นมาเห็นวิวข้างหน้า ผมโดยนความหงุดหงิดนั้นทิ้งไปเลยเรียบร้อย แล้วหันมา Enjoy Moment ของวิวตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี และทำให้ผมลืมเรื่องงานที่เครียดๆ ไปได้เลย ธรรมชาติบำบัดมันดีอย่างนี้แหละ

เมื่อยามที่เราเหนื่อยล้า การเดินเข้าป่าจะช่วยเยียวยาจิตใจผมได้

การตัดสินใจปุ๊บปั๊บแบบนี้ บางทีมันก็ดีเหมือนกัน

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า