fbpx

เมื่อ “PrEP” เปลี่ยน “Sex” ให้มีความหมายเชิงบวก

พวกเราหลายคนโตมากับคำสอนเรื่องการมีเพศสัมพันธ์แบบกำกับควบคุม และการให้ความหมายเชิงลบ

“คนสำส่อน มักจะติดโรค”

“เกย์ กะเทย ตายเพราะโรคเอดส์” 

“เพศสัมพันธ์ที่ดี รอได้ ไม่ต้องรีบมี” 

เพศสัมพันธ์กลายเป็นเรื่องไกลตัว มาพร้อมกับความรู้สึกผิดทุกครั้งที่นึกถึงมัน และไม่เคยมีใครมาบอกว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ดี ต้องมีเมื่อไหร่ อย่างไร หรือแบบไหน เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ไม่ถูกพูดถึง เป็นเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับ และถูกอธิบายว่า “เมื่อถึงเวลาอันควร ก็จะรู้ไปเอง” โดยไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า “เวลาอันควร” คือเมื่อไหร่ 

ใครหลายคนเรียนรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ผ่านหนังโป๊ที่สามารถหามาดูได้ไม่ยากนัก เพียงแค่เข้าอินเทอร์เน็ต การดูหนังโป๊ถือว่าเป็นเพศศึกษาที่ให้แง่มุมเรื่องเพศ ที่ผู้ใหญ่หลายคนไม่สามารถให้คำตอบได้ ใครยังจำหนังโป๊เรื่องแรกที่ดูกันได้บ้าง การดูหนังโป๊ คือ การได้ทลายความอยากรู้อยากเห็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น     

ย้อนไปในอดีต หนังโป๊หลาย ๆ เรื่องก็ไม่ได้สอนเรื่องการป้องกัน หรือมีการใช้ถุงยาง เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้การเรียนรู้เรื่องการป้องกัน หรือการใช้ถุงยางเป็นหน้าที่ของโรงเรียน และวิชาสุขศึกษาที่แสนจะน่าเบื่อ ใครยังจำได้บ้างว่าเรียนเรื่องการใช้ถุงยาง และการป้องกันจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากที่ไหน หรือยังจำได้หรือไม่ที่อาจารย์ประจำวิชาสุขศึกษาสอนเรื่องการป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ ด้วยประโยคเดิม ๆ คือ “ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร” ซึ่งไม่ใช่คำตอบที่วัยรุ่นหลายคนอยากได้ยิน และยิ่งทำให้เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องลี้ลับเพิ่มขึ้นอีก 

หนังโป๊จึงเป็นช่องทางเดียวที่ทำให้วัยรุ่นเข้าใกล้กับประสบการณ์ทางเพศมากที่สุดก็ว่าได้ สำหรับตัวผู้เขียนนั้นเรียนรู้เรื่องถุงยางอนามัยอย่างจริงจังเมื่ออายุเข้าเลขสองไปแล้ว และได้มีโอกาสทำงานที่ต้องออกไปสอนให้วัยรุ่นเกย์ และหญิงข้ามเพศใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง แต่การทลายความเชื่อเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ยังคงเป็นความเชื่อชุดเดิม ที่เปลี่ยนยากแสนยาก เพราะถุงยางกลายเป็นสัญลักษณ์บางประการ ที่ทำให้ผู้ใช้และผู้ที่ครอบครองมันถูกตีตราสารพัด มิหน้าซ้ำถูกจับเพราะการมีถุงยางในครอบครองหมายถึงการทำงานบริการทางเพศสำหรับคนบางกลุ่มในบางพื้นที่ โดนเฉพาะกลุ่มผู้หญิง เกย์ กะเทย และผู้หญิงข้ามเพศ    

แม้ว่าถุงยางจะสามารถป้องกันผู้ใช้จากการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าใช้มันอย่างถูกวิธี แต่วิวัฒนาการทางการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ถูกพัฒนาไปไกลมาก เพราะคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย สามารถวางใจได้ถ้าพวกเขาทานยาวันละเม็ด ที่เรียกสั้น ๆ ว่า “เพร็พ” หรือ “PrEP” ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ใช้ยาตัวนี้ต้องทานมันติดต่อกันตลอดระยะเวลาที่พวกเขามีพฤติกรรมเสี่ยง หรือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน  

“เพร็พ” เปลี่ยนความหมายของการมีเพศสัมพันธ์สำหรับวัยรุ่นชนชั้นกลางในสังคมเมือง โดยกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เพิ่มความสะดวกในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ที่เข้ามาแทนที่การใช้ถุงยางอนามัย โดยที่ผู้ใช้ต้องทานยาวันละเม็ดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าจะปลอดภัยเมื่อมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือเมื่อถุงยางไม่ได้เป็นทางเลือกในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของคนคนนั้น โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ใช้สารเสพติด หรือมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา  

“เพร็พ” เป็นทางเลือกของการป้องกันที่คืนอำนาจการตัดสินใจให้กับตัวของผู้ใช้ เพราะไม่ต้องรอให้ใครใส่ถุง หรือไม่ใส่ หรือกังวลว่าจะมีเพศสัมพันธ์รูปแบบไหน แล้วถุงจะแตกหรือไม่ ใส่ถุงวิธีไหนถึงจะถูกต้อง ขนาดต้องเท่าไหร่ และยี่ห้อไหนดีหรือไม่ดี ทำให้เห็นว่าการใส่ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องยุ่งยาก ที่ต้องมาพร้อมกับทักษะบางอย่าง และการลองผิดถูกของผู้ใช้กันไปซักพัก ผู้ใช้ “เพร็พ” ให้ความหมายของการทาน “เพร็พ” ว่าเป็นเรื่องของการป้องกันตัวเอง เป็นเรื่องการใส่ใจในสุขภาพที่ดีของตนเอง และสำคัญที่สุด คือ เป็นความรักและรับผิดชอบต่อตัวเอง 

การทาน “เพร็พ” ทำได้ด้วยตนเอง เลือกเอง ใช้เอง โดยไม่ต้องสนใจว่ารูปแบบเพศสัมพันธ์จะเป็นแบบไหน ผาดโผนโลดแล่นแค่ไหน และจะเลือกที่จะใส่ถุงยางร่วมด้วย หรือไม่ใส่ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป     

“เพร็พ” ยังไม่ใช่คำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จเสียทีเดียว เพราะคนจะใช้ “เพร็พ” ต้องมีวินัย และทานยาตัวนี้อย่างต่อเนื่องจึงจะสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี อีกทั้งผู้ใช้ “เพร็พ” จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำ เพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับผลข้างเคียงของการใช้ “เพร็พ” และไม่ได้รับเชื้อจากโรคติดต่อทางสัมพันธ์อื่น ๆ เพราะ “เพร็พ” ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีเพียงเท่านั้น 

“ขนาดกินไวตามินเพื่อความสวย และสุขภาพที่ดี เรายังลืมเลย ทานเพร็พทุกวันก็ต้องมีลืมกันบ้าง” เป็นประสบการณ์หนึ่งของผู้ใช้ “เพร็พ” ที่ทำให้เห็นว่าความไม่ต่อเนื่องของการทาน “เพร็พ” คืออุปสรรคหนึ่งที่ลดประสิทธิภาพของการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้วยวิธีนี้นั้นเอง

อุปสรรคอีกประการ คือเรื่องการเข้าถึงบริการสุขภาพจากการรับ “เพร็พ” เพราะยา “เพร็พ” ไม่ได้ขายตามร้านขายยา หรือสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ การรับ “เพร็พ” ต้องรับต่อเนื่อง และไปรับยาจากสถานบริการสุขภาพที่ยังมีอยู่อย่างจำกัด สร้างความยากลำบากให้กับผู้ใช้ จนต้องเลิกใช้เพราะตารางชีวิตที่ไม่สามารถแบ่งเวลาไปตรวจ และรับบริการกับหมอ ก่อนที่จะได้รับการเติมยาได้ในทุกเดือน  

อุปสรรคเหล่านี้ ทำให้การพัฒนาเครื่องมือในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีต้องพัฒนามากขึ้นเพื่อทำให้คนทุกกลุ่มได้มีทางเลือกในการป้องกัน และมีเพศสัมพันธ์แบบไร้กังวล เช่น การพัฒนายาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีแบบฝังใต้ผิวหนัง หรือแบบฉีด ซึ่งจะมีระยะเวลาในการป้องกันยาวนานกว่า และไม่จำเป็นต้องกินยาทุกวันเหมือน “เพร็พ” ที่เรารู้จักกันในตอนนี้ อย่างไรก็ตามยา “เพร็พ” แบบใหม่นี้ ยังอยู่ในช่วงของการวิจัยกับมนุษย์ถึงประสิทธิภาพในการป้องกัน และผลข้างเคียง ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราจะได้เห็นมันแน่ในอีกไม่ช้า 

“เพร็พ” แบบฉีด จะทำให้ผู้ใช้มีความสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องพกขวดยาไปไหนมาไหน หรือตอบคำถามกับคนที่เห็นยา “เพร็พ” ให้เสียเวลา และเสียอารมณ์ … ทางเลือกของการใช้ยาในการป้องกันเชื้อเอชไอวีจะต้องมาพร้อมกับการรณรงค์เรื่องเพศเชิงบวก เข้าถึงผู้ใช้ทุกกลุ่ม และต้องมีข้อมูลที่ง่ายต่อความเข้าใจของผู้ใช้ ให้ผู้ใช้ได้ตัดสินใจเลือกเครื่องมือในการป้องกันตนเองที่เข้ากับวิถีทางเพศของตน  

ดังนั้น “เพศสัมพันธ์ในเวลาอันควร” คือ การมีเพศสัมพันธ์ที่ทุกฝ่ายยินยอม สนุก ปลอดภัย บนฐานของการเข้าถึงทางเลือกในการป้องกันที่เท่าเทียม

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า