fbpx

“พอดแคสต์” ตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ

สำหรับคนรุ่นใหม่ พอดแคสต์ถือเป็นอีกหนึ่งความบันเทิงและแหล่งความรู้ที่คนยุคใหม่นิยมเสพกันในชีวิตประจำวัน และหากใครที่มีหัวการค้าหน่อย พอดแคสต์ก็อาจจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดอันทรงอานุภาพ ที่สร้างรายได้ให้คุณก็เป็นได้

Matt Decoursey  ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Full Scale  บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า เมื่อครั้งที่เขาตั้งบริษัท เขาไม่ได้เสียเงินจ้างทำโฆษณาแต่อย่างใดเลย แต่เขาพึ่งพาการพูดถึงแบบปากต่อปาก และรายการพอดแคสต์ของเขาเอง ที่มีชื่อว่า Startup Hustle ซึ่งเป็นรายการโดยผู้ประกอบการและเพื่อผู้ประกอบการ  ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทไฮเทคที่เพิ่งแจ้งเกิด และประสบการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ และปัจจุบันนี้ Startup Hustle มียอดดาวน์โหลดถึง 250,000 ครั้งต่อเดือนทีเดียว

ก่อนจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำผ่านพอดแคสต์ เราต้องรู้หลักธรรมชาติของเจ้าเครื่องมือชนิดนี้ก่อนว่า มันก็คือรายการเล่าเรื่องต่างๆ ให้คนฟัง ดังนั้น ใจความสำคัญของการเล่าเรื่องก็คือ  การพูดคุยกับแขกรับเชิญต้องเป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย ไม่ใช่สัมภาษณ์ตามสคริปต์แบบแข็งทื่อ เป๊ะไปหมดทุกอย่าง    เพราะคนฟังจะชอบฟังรายการที่ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป   อีกข้อที่สำคัญก็คือ การพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง จะช่วยให้เราสอดแทรกการโฆษณาแบรนด์ลงไปในนั้นแบบเนียนๆ  อีกด้วย 

อีกวิธีที่ได้ผลก็คือ การเชิญแขกเข้าร่วมรายการ ให้เชิญคนที่คุณรู้สึกว่าสนใจอยากพูดคุยกับเขาอยู่แล้ว  เพราะมองว่า บุคคลนั้นจะเป็นผู้ที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้  การเชิญแขกที่เราอยากพูดคุยกับเขาอยู่แล้ว จะทำให้บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างออกรสออกชาติ  และถึงแม้คนฟังจะไม่ค่อยอินกับช่วงนี้เท่าไร  เพราะประเด็นที่คุยอาจเป็นประเด็นเฉพาะ แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้เราได้มีคอนเนคชั่นเพิ่มเติมกับแขก  เป็นเครือข่ายที่อาจสร้างประโยชน์ให้เราในภายหลัง 

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ  ต้องเตรียมคำถามให้ดีว่าจะถามแขกเรื่องอะไร  อาจต้องส่งประเด็นคำถามไปให้แขกล่วงหน้า  และใช้คาดการณ์ว่าแขกจะตอบคำถามมาแนวไหน เพื่อให้เราไปศึกษาประเด็นนั้นเพิ่มเติมก่อนอัดรายการ ซึ่ง ChatGPT น่าจะเป็นประโยชน์ตรงนี้ เพราะจะช่วยสืบค้นแบ็กกราวด์ของแต่ละประเด็นให้ด้วย 

สำหรับการแทรกโฆษณาของบริษัทแบบเนียนๆ ในรายการพอดแคสต์ โฆษณานั้นจะต้องมีความยาวไม่เกิน 10 วินาที  พูดถึงโฆษณาแค่ 3 ครั้ง ตลอดการอัดรายการ หากเราเป็นเจ้าของรายการ และโฆษณานั้นก็เป็นผลิตภัณฑ์ หรือเป็นบริษัทของเราด้วย เราต้องทำให้คนฟังจับไม่ได้ว่า เรากำลังเอาอัฐยายซื้อขนมยายอยู่ แต่ต้องทำให้ผู้ฟังคิดว่า รายการของเรามีชื่อเสียงและมีสปอนเซอร์เข้าด้วย

นอกจากนี้ การขยายเครือข่ายก็เป็นเรื่องสำคัญ หากเรามีรายการพอดแคสต์ แต่กลับเล่าเรื่องราวสัพเพเหระไปเรื่อยๆ คนฟังก็มีเท่าเดิม ไม่เกิดการขยายตัว วิธีที่ง่ายสุดก็คือ ให้จัดกิจกรรมบางอย่างขึ้นมา  อย่างรายการ  Startup Hustle  ก็ใช้วิธีจัดอันดับ Startups ในเมืองต่างๆ ทุกเดือน  แล้วเชิญ Startups เหล่านั้นมาออกรายการ  วิธีนี้จะช่วยให้รายการเป็นที่พูดถึงขยายวงไปเรื่อยๆ  และเมื่อรายการฮิต  โฆษณาของบริษัทเราที่แฝงอยู่ในนั้นก็ติดลมบนไปด้วย 

การจะทำให้รายการเป็นที่ฮอตฮิต ก็ต้องเปิดให้แชร์เนื้อหาได้ แน่นอนล่ะว่า ถ้าเราร้องขอให้แขกในรายการช่วยแชร์ในโซเชียลมีเดีย  พวกเขาก็มักจะไม่ทำให้  เพราะการแชร์เนื้อหาจากพอดแคสต์นั้นค่อนข้างยุ่งยาก  ดังนั้นเราต้องดัดแปลงเนื้อหาออกมาให้ย่อยง่าย น่าประทับใจ สะดวกต่อการแชร์ต่อ ก็จะทำให้แขกรับเชิญยินดีที่จะแชร์รายการของเราต่อไปได้

สิ่งสำคัญอย่างสุดท้ายคือ ความสม่ำเสมอ  ถ้าเราไม่ออกอากาศรายการตอนใหม่ตามตารางเวลาที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด  คนฟังก็จะลืมเราไปอย่างรวดเร็ว  ดังนั้น เราจำเป็นต้องมีสต็อกรายการไว้อย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุสุดวิสัยที่เราไม่สามารถอัดรายการได้  

ที่มา : inc.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า