fbpx

PATTAYA Pride 2022 – งานไพรด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ตลอดเดือนแห่งความภาคภูมิใจในความหลากหลายทางเพศ หรือ Pride Month ทั่วประเทศต่างก็มีการจัดงาน Pride เพื่อเฉลิมฉลองและแสดงพลังของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างคึกคักและมีจำนวนคนเข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม จนเมื่อวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2565 ก็ถึงคิวของพัทยา เมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงและเต็มไปด้วยความหลากหลายทางเพศ รวมไปถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดเมืองหนึ่งในไทย

PATTAYA International Pride Festival 2022 เป็นงาน Pride นานาชาติที่มีภาคีเครือข่ายทั่วประเทศไทยร่วมเดินในขบวน Pride Parade สุดอลังการกว่า 100 องค์กร นอกจากนี้ยังมีเหล่า Influencer  ประกอบด้วยเหล่านางงาม ชายงาม เซเลป นายแบบ นางแบบ เข้าร่วมกว่า 1,000 คน โดยงานนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยา ได้ผนึกกำลังกับเมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา มูลนิธิซิสเตอร์ พร้อมด้วยสมาคม ชมรม และภาคีเครือข่าย กว่า 100 องค์กร 

ทาง Modernist ซึ่งก็เป็นหนึ่งในองค์กรภาคีเครือข่าย ได้เดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 15:00 น. ก่อนที่ขบวนจะเริ่ม 1 ชั่วโมง ณ บริเวณ เซ็นทรัล มารีน่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนพาเหรด แม้จะเป็นก่อนเวลา แต่ผู้คนก็อุ่นหนาฝาคั่ง กลุ่ม LGBTQ+ กลุ่มต่างๆ ต่างก็แต่งตัวจัดเต็ม แสดงตัวตนของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ บรรยากาศเป็นกันเอง ผู้คนต่างทักทายกัน บ้างเข้าสวมกอดกันให้หายคิดถึง 

ก่อนขบวนพาเหรดจะเริ่ม เราได้มีโอกาสนทนากับ ดอย-ฐิติญานันท์ หนักป้อ ผู้อำนวยการมูลนิธิซิสเตอร์ ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่ร่วมจัดงานนี้ เธอได้บอกกับเราว่าปีนี้มีคนเข้าร่วมงานหลักพัน และมีขบวนร่วมเดินพาเหรดกว่า 50 ขบวน และองค์กรภาคเอกชน ภาครัฐ ท้องถิ่น กว่า 155 องค์กรเข้าร่วม เธอบอกกับเราอย่างมั่นใจว่า “งานนี้ถือว่าเป็นงาน Pride ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ” นอกจากนี้เธอยังบอกกับเราว่าในฐานะที่พัทยาเป็นเมืองที่มี LGBTQ+ อยู่เป็นจำนวนมาก ก็อยากจะจัดให้ยิ่งใหญ่ และทำให้คนมาเที่ยวพัทยามากขึ้นไปอีก เธอบอกว่างานนี้ถูกบรรจุเข้าไปในปฏิทินการจัดงานของเมืองพัทยาเรียบร้อยแล้ว มั่นใจได้เลยว่างานนี้จะจัดขึ้นทุกปีอย่างไม่มีว่างเว้น เธอฝากทิ้งท้ายว่างาน Pride ไม่ควรจะจัดแค่เดือนนี้ แต่ควรมีต่อเนื่องทุกเดือน และหากใครพลาดงานนี้ ก็อยากฝากให้ไปเข้าร่วมงาน Pride อื่นๆ ที่จัดขึ้นทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ

เมื่อเวลา 16:00 น. ขบวนได้เริ่มต้นเดิน โดยจะเดินขบวนจากเซนทรัล มารีน่า ไปจนถึงเซนทรัล พัทยา ผู้คนตื่นเต้น แสดงพลัง ส่งเสียง ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางความคึกคักเหล่านี้ เราเก็บภาพบรรยากาศตลอดทาง จนสายตาไปสะดุดกับคนคุ้นเคยที่ Modernist สนทนากับเธอหลายครั้งในตลอดเดือนที่ผ่านมา นั่นคือ ครูธัญ-ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.จากพรรคก้าวไกลที่ต่อสู้ผลักดัน ร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียมจนผ่านวาระแรกไปเป็นที่เรียบร้อย เราเข้าไปทักทายกันทันที เธอบอกกับเราว่าบรรยากาศในงานนี้ แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในไทย เธอบอกว่าทุกคนในงานต่างมีอารมณ์ชื่นมื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่รับรู้ว่าสิทธิและเสียงของตัวเองมีความหมายจากการที่ร่างฯ สมรสเท่าเทียมผ่านวาระแรกไปไม่นานนี้ และหลังจากเสร็จจากงานนี้ เธอจะยังคงกลับไปสู้ต่อในสนามของเธอที่รัฐสภา เธอฝากให้เราจับตาการประชุมคณะกรรมาธิการในวันพุธนี้ ที่จะถกเถียงกันเรื่องร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม และ ร่าง พรบ.คู่ชีวิต และยืนยันว่าเธอจะต่อสู้ไม่ให้หลักการสำคัญของร่างฯ หายไป

ขบวนได้ออกเดินอย่างคึกคัก ประชาชนมากมากมายทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างให้ความสนใจในขบวนอย่างมาก แม้แต่ร้านรวงข้างทางต่างก็ออกมายืนให้กำลังใจขบวนพาเหรดด้วยสีหน้าและรอยยิ้ม รถสีแดงคันหนึ่งค่อยๆ ขับไปอย่างช้าๆ ผู้คนในรถโบกไม้โบกมือให้คนนอกขบวน “อย่างกับนางงามเลยนะ” เราแอบคิดในใจ พอขยี้ตาดูดีๆ อ้าว ก็นางงามนี่หว่า  เป็นนางงามจริงๆ เพราะนี่คือรถของขบวนมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งหนึ่งในคนที่โบกไม้โบกมือทักทายผู้คนรอบข้างและสะดุดตาผู้คนรอบข้างเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2564 เราจึงโบกมือทักทายเธอและคนอื่นๆ บนรถกลับไปเช่นกัน

ระหว่างที่เราเดินอยู่ในขบวน เราเดินไปเจอกับ Influencer คนหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดสีชมพูสะดุดตา เธอคือ ม๊าเดี่ยว-อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ ซึ่งวันนี้เธอก็ยังแต่งด้วยสมกับเป็นนางแบบระดับโลกเหมือนเดิม เราเดินเข้าไปทักทายเธอ เธอบอกกับเราว่ารู้สึกดีที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ เธอบอกว่างานนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอมีพลังที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้เช่นเดียวกับเพศอื่นๆ เราถามว่าคิดว่าความคึกคักในงานนี้จะส่งผลต่อ ร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียมในสภาแค่ไหน เธอบอกกับเราสั้นๆ ว่า “จริงๆ แล้วเขาอาจจะฟังหรือไม่ฟังก็ได้นะคะ เราก็ไม่ต้องไปซีเรียสว่าเขาจะได้ยินหรือไม่ได้ยืน เราก็ทำของเราไปให้ดีที่สุด” พอพูดจบ เธอก็เดินอย่างมั่นใจและขึ้นไปในขบวนรถที่แห่มาจากด้านหลัง

เดินมานาน ทั้งวิ่งตามคนนั่นคนนี่ เหนื่อยจนอยากจะเข้าโรงพยาบาล ไม่ทันไร ข้างหลังของเรา ขบวนจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ก็เดินมาถึงพอดี เราจึงเดินเข้าไปเพื่อพูดคุยกับ ดร.ฉัตรชัย ยาจันทร์ทา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านประสบการณ์ผู้ป่วย โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ด้วยสิ่งที่เราสงสัย แต่ไม่ใช่เรื่องปัญหาสุขภาพของผู้ถาม แต่เป็นปัญหาสุขภาพของกลุ่ม LGBTQ+ ว่าในปัจจุบันพวกเขาเข้าใจเรื่องสุขภาวะทางเพศ (Sexual Wellbeing) มากน้อยแค่ไหน ดร.ฉัตรชัย ตอบสั้นๆ ด้วยความห่วงใยว่า “ยังสามารถเข้าใจให้มากขึ้นได้มากกว่านี้” 

ขบวนค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างคึกคัก เรายังคงทักทายกับคนตั้งแต่หัวขบวนจนท้ายขบวน จนเราสะดุดตากับกลุ่มคนสวมเสื้อสีแดง ที่บนเสื้อสกรีนว่า พรรคเพื่อไทย เราจึงเข้าไปทักทาย เหล่าสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยบอกกับเราว่าพรรคเพื่อไทยอยากเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ และงานนี้ก็ยังทำให้ได้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวมากแค่ไหน พวกเขาเชื่อว่าความคึกคักในงานนี้ จะส่งผลต่อ ร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียมแน่นอน ซึ่งการเปล่งเสียงในครั้งนี้ก็มีมาตั้งแต่งานไพรด์ในกรุงเทพฯ แล้วด้วยเช่นกัน

ขบวนเดินมาจนถึงจุดหมายปลายทางที่ เซ็นทรัล พัทยา แม้จะสุดขบวนแล้ว แต่ความคึกคักยังไม่หายไปไหน ผู้คนยังคงเต้น ส่งเสียง และแสดงความภาคภูมิใจในความหลากหลายทางเพศอยู่ เพราะแม้ขบวนพาเหรดจะหยุดและถึงจุดหมายปลายทางแล้ว แต่เรื่องราวและสิ่งที่พวกเขาต้องต่อสู้ยังไม่จบและยังไม่ถึงปลายทาง พวกเขาจะยังคงแสดงพลังและต่อสู้ต่อไป และความหวังได้จุดประกายขึ้นแล้ว นี่คือสิ่งที่เราสัมผัสได้จากการร่วมเดินขบวนในงานนี้

Content Creator

Photographer

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า