fbpx

ไดโนสองพาเที่ยวโอซากะแบบครบ จบในบัตรใบเดียวด้วย Osaka Amazing Pass

หมดโควิดเมื่อไหร่ จดเตรียมแพลนและไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน !

เมื่อเราพูดถึงญี่ปุ่นเราก็คงนึกถึงเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียว, โอซากะ, เกียวโต, ฮอกไกโด, ฟุกุโอกะ, ฮิโระชิมะ อะไรกันแบบนี้ใช่มะ แล้วคิดหรอว่าอย่างเรา ๆ จะมาเที่ยวอะไรแบบที่โหล ๆ อย่างนี้ ?

ถ้าคุณคิดอย่างนั้นคุณคิดถูกแล้วครับ (เอ้า อีนี่ !!) ในครั้งแรกเราจะมาเล่ากันถึงของโหล มากันแบบยาวๆ เป็น Series กันเลย โดยเราจะมาเริ่มกันที่ภูมิภาคคันไซ ก่อนเรามาเที่ยว เราจะมาเรียนรู้กันก่อนว่าภูมิภาคคันไซคืออะไร ?

Source: https://wattention.com/areas/kansai/

ภูมิภาคคันไซคือ ภูมิภาคที่อยู่ภาคกลางตอนใต้ของญี่ปุ่น ประกอบด้วยจังหวัด เฮียวโกะ, เกียวโต, โอซากะ, ชิกะ, นาระ, วากายามะ และมิเอะ

เป็นภูมิภาคที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน อย่างเมืองหลวงเก่าที่เกียวโตที่มีประวัติศาสตร์มาเป็น พัน ๆ ปีนับตั้งแต่ ศตวรรษที่ 8 หรือก่อนหน้านั้น, เมืองท่าเรืออย่างโอซากะ, ทะเลสาบใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ชิกะ และสถานที่ทางศาสนาอันโด่งดังที่นาระ ส่วนระบบรถไฟก็จะบริหารงานโดยบริษัท JR West

ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าพอพูดถึงคันไซอย่างที่เราพูดไปก็ต้องไม่พ้นที่โอซากะสินะ ซึ่งก็ถูกอีกเราจะไปเที่ยว โอซากะ กัน !!  

ในโอซากะหลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงป้ายกูลิโกะอันแสนโด่งดัง, ปราสาทโอซากะ, ถนนช็อปปิ้งอย่างนัมบะ หรือชินไซบาชิ ซึ่งที่เราพูดมาทั้งหมดนี้เราจะไปกันหมดนี่เลย หรือพูดง่าย ๆ ตอนนี้เราจะไปเที่ยวของโหลในโอซากะ ที่มาสักครั้งหรือมาครั้งแรกก็ต้องไปอ่ะ ถ้าไม่ไปถือว่า … ก็ไม่เป็นอะไรละกัน  (เอ้า !! ก็เราไม่ได้อยากจะไปอ่ะ = =! ก็แล้วแต่ ~)

ในคอนเซ็ปต์เราพักอยู่ในโอซากะ ในย่านตลาดคุโระมง ใกล้นัมบะ แต่จะไปเที่ยวรอบ ๆ ภูมิภาคคันไซ เริ่มกันที่ โอซากะ โดยใช้บัตร Osaka Amazing Pass บัตร Osaka Amazing Pass เป็นบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งสามารถซื้อได้ทั้งคนต่างชาติหรือคนญี่ปุ่นก็ยังใช้ได้ อยากจะบอกว่ามันคุ้มมาก ๆ ทั้งเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวโหล ๆ ของโอซากะได้ฟรี ๆ หรือราคาพิเศษ และที่สำคัญขึ้นรถไฟ Osaka Metro ได้ฟรีอีกด้วย เราสามารถซื้อ online ได้ที่ไทยหรือไปซื้อที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโอซากะที่นัมบะ,ชินโอซากะ,โอซากะ,สนามบินคันไซ

Osaka Amazing Pass จะมี 2 ราคาคือ 1 Day Pass ราคาจะอยู่ที่ 2,800 เยน และ 2 Days Pass ราคาจะอยู่ที่ 3,300 เยน (โดยเราเลือกเป็นแบบ 2 วัน)

ต้องเท้าความก่อนว่า จริง ๆ แล้วเราได้พักอยู่ที่โตเกียวและในช่วงวันหยุดของโรงเรียนจึงได้มาเที่ยวที่โอซากะ (ไว้ตอนต่อๆ ไปเราจะมาเล่ากันว่าเราไปทำอะไรที่โตเกียว)

เอาล่ะเราได้นั่งรถบัสนอนของ Willer Express โดยขึ้นจากสถานีชินจูกุ มาลงที่โอซากะ

ซึ่งตอนที่ไปถึงก็เช้ามากๆๆๆ เรารีบเก็บกระเป๋าแล้วเริ่มเที่ยวกันในตอนเช้าเลยเรามากันที่แถวชินไซบาชิ หรือ นัมบะ กันก่อน เราถึงโดยประมาณก่อน 10:00 น. ร้านรวงกำลังเริ่มเปิด เราก็แวะถ่ายกับป้ายกูลิโกะ ของโหลของโอซากะหน่อย

และแวะกินทาโกยากิเตาแรกของวัน จากที่กินความแตกต่างของทาโกยากิระหว่างโตเกียว กับ โอซากะที่แตกต่างคือ ของโตเกียวจะใส่ต้นหอมเยอะกว่า แต่ของโอซากะจะเนื้อแน่น กลมกล่อมกว่า ซึ่งเป็นที่ร่ำลืออยู่แล้วว่าถ้ามาโอซากะต้องกินทาโกยากิ เพราะเป็นของขึ้นชื่อเลย ใครไม่กิน …. ก็ไม่เป็นไร (ก็คนไม่อยากกินอ่ะ แหม่ !!)

ต่อยามสายกันที่ Osaka Castle หรือปราสาทโอซากะ อยู่แถว ๆ บริเวณสถานี Temmabashi, Tanimachiyonchome, Morinomiya, Osakajokoen, Osaka Business Park จะไปสถานีไหนก็ได้ เดินถึงเหมือนกันแล้วแต่สะดวกของแต่ละคน จริง ๆ อย่างที่บอกว่าเราใช้ Osaka Amazing Pass เราจึงใช้ Osaka Metro อย่างที่บอกแต่ด้วยความ Osaka Metro เป็นเหมือนตารางหมากรุกอยู่แล้วเราจึงไปสายไหน ก็สามารถไปได้หมด ดี๊ดี

กลับมากันที่เรื่องปราสาทโอซากะ  จริง ๆ แล้วปราสาทโอซากะสามารถเดิน ถ่ายรูปบริเวณโดยรอบไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งโดยรอบปราสาทโอซากะ จะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่สามารถเดินเล่นเยี่ยมชมได้อย่างจุใจหรือจะเอาอาหารมาทานหรือจะซื้อทาน ก็มีโต๊ะรองรับ พร้อมตู้กดน้ำ และถังขยะรองรับ

แต่หากจะเข้าเยี่ยมชมตัวปราสาทภายในจะต้องเสียเงินแยก แต่หากใช้บัตร Osaka Amazing Pass จะสามารถเข้าเยี่ยมชมตัวปราสาทภายในได้ ซึ่งภายในปราสาทจะเป็นการเล่าเรื่องประวัติของปราสาท จัดแสดงวัตถุโบราณต่าง ๆ หากผิดพลาดในตรงนี้ต้องขออภัยมา ณ​ ที่นี้ด้วยนะครับ ส่วนดาดฟ้าของปราสาทเราสามารถเดินได้โดยรอบชมวิวเมืองแบบ 360 องศา

พอเที่ยงเราไปต่อกันที่ย่าน Umeda (สถานี Osaka หรือ สถานี Osaka – Umeda)  เป็นย่านอีกย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่าง ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ต้องระวังนะสถานี Osaka – Umeda นับเป็นหนึ่งในสถานีที่หลงได้ง่ายมากเพราะบันไดเยอะ เราแนะนำว่าอ่านป้ายดี ๆ และมีสติหน่อย ถ้าใครมาครั้งแรกแล้วไม่หลงจะนับถือเป็นอย่างยิ่ง 5555 หลังจากเราตั้งสติได้แล้ว เราไปขึ้นกระเช้า HEP Five (รวมอยู่ใน Osaka Amazing Pass แล้ว) ตึก HEP FIVE เป็นตึกที่อยู่ไม่ไกลกับสถานี Osaka – Umeda ไม่นาน ใต้ตึกเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าที่มีร้านค้าอยู่เยอะพอสมควร ข้างบนตึกก็เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่มากมีมากถึง 52 กระเช้า ในขณะที่ขึ้นกระเช้าจะเห็นวิวโอซากะได้โดยรอบ และใช้เวลาบนกระเช้าประมาณ 5 นาที กระเช้า HEP FIVE เปิดตั้งแต่ 11:00 – 22:45 โดยประมาณ

หลังจากนั้นเราก็เดินไปชมพระอาทิตย์ตกกันที่ที่ Umeda Sky Building ใช้เวลาเดินไม่ถึง 10 – 15 นาที ซึ่งราคาก็รวมอยู่ใน Osaka Amazing Pass แล้ว ซึ่งนั่นก็คือขึ้นฟรีได้เลย (คุ้มป่ะละ) Umeda Sky Building เป็นตึกสำนักงานที่ด้านบนของตึกเป็นจุดชมวิวด้วยความสูง 170 เมตร  เอาจริง ๆ นะนับว่าเป็นตึกชมวิวที่เป็นที่นิยมในโอซากะเลยด้วยซ้ำ ระหว่างที่เรารอพระอาทิตย์ให้มีแสงอ่อนกว่านี้สักหน่อย เราก็นั่งพักชมวิวที่ชั้น 39 กันเสียก่อน

หลังจากนั่งได้สักพัก เราก็ออกเดินทางขึ้นๆไปที่ชั้น 40 หรือชั้นดาดฟ้า โดยก่อนขึ้นมีข้อห้ามอย่างเดียวก่อนขึ้นไปที่ดาดฟ้าคือ ห้ามนำร่มหรือหมวกขึ้นไปด้วยเพราะข้างบนรมแรงจะอันตรายมาก อาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้เลยนะ เมื่อมาถึงดาดาฟ้าก็จะพบกับวิวหลักล้าน พร้อมกับพระอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดินและเราจะเห็นพระอาทิตย์อยู่ทางด้านขวาและแม่น้ำโยโดะ

เอาล่ะ ! พอพระอาทิตย์ตกไปแล้ว ท้องเราก็เริ่มหิวก็แวะไปกินข้าวที่ใต้ติด Umeda Sky Building ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารหลากหลายร้านไว้ที่อยู่ที่เดียวกัน โดยในวันนี้เราเลือกเป็นร้าน Kiji Okonomiyagi ซึ่งเป็นร้านที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นและคนต่างชาติรวมถึงคนไทย ด้วยเมนูที่หลากหลายและคุณลุงเจ้าของร้านที่เป็นมิตรเป็นอย่างมาก จึงทำให้ติดอกติดใจ และเป็นที่นิยมในชาวต่างชาติ

 เรามาโอซากะทีไรเราก็ต้องกิน มาสี่คนกินสั่งไปสี่อย่างเลย รับรองว่าอร่อยทุกอย่าง (เอาจริง ๆ อยากสั่งเพิ่มอีกนะ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่อยากลิ้มลอง) อีกทั้งบรรยากาศของร้านจะมีธนบัตรของแต่ละประเทศติดอยู่เต็มกำแพงเลย เป็นเครื่องการันตีว่าเป็นร้านที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจริง ๆ แนะนำว่าต้องรีบมานะครับ เพราะในบางเวลารอคิวเป็น 2-3 ชั่วโมงเลย ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง แต่เพราะมันอร่อยสมคำล่ำรือ (เนื่องจากมาเป็นครั้งที่ 2) จึงแนะนำว่าให้ทนรอจริง ๆ  

พอช่วงค่ำหลังจากที่อิ่มหนำแล้วก็กลับมานั่งเรือเที่ยวที่ย่าน Dotonbori รวดเที่ยวช็อปที่ย่าน Shinsaibashi โดยเราเริ่มจากการเที่ยวเรือล่องแม่น้ำในย่าน Dotonbori แนะนำให้รีบมาจองคิวก่อน เพราะบางทีคิวจะยาวมาก แล้วในระหว่างรอรอบเรือเราสามารถไปเดินเล่น donki กินทาโกะยากิ หรือไปเดินช็อปปิ้งตามร้านต่าง ๆ ในย่าน Shinsaibashi ทั้ง Adidas, Nike, GU, Uniqlo และร้านต่าง ๆ อีกมากมาย รอไปพลางๆ เสียก่อน

เมื่อถึงเวลาเราจะเริ่มออกเดินทางจากร้าน Donki ผ่านย่าน Shinsaibashi ผ่านป้ายกูลิโกะ และวนกลับมา โดยในระหว่างนั้นจะมีการพูดอธิบายสถานที่ต่าง ๆ ไปด้วย คุณจะได้อิ่มเอมจุใจทั้งวิวถนน Dotonbori, ป้ายกูลิโกะ และการล่องแม่น้ำชิล ๆ หลังจากล่องแม่น้ำเสร็จก็เป็นเวลาเกือบ 3 ทุ่มเราก็กลับเข้าที่พักกันที่ย่าน Kuromon

โดยทั้งหมดนี้ย้ำว่าทั้งค่าเดินทาง และค่าเข้าชมนั้น รวมอยู่ในบัตร Osaka Amazing Pass แล้ว เราจึงไม่เสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มอีกเลย

และนี่ก็เป็นตอนแรกของเรานะในการพาเที่ยวโอซากะ ในหนึ่งวันกับบัตร Osaka Amazing Pass และโปรดติดตามตอนในวันที่ 2 กับบัตร Osaka Amazing Pass ตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้นะครับ

สุดท้ายนี้ฝากช่อง ไดโนสอง ทาง Youtube ฝากกดแชร์ กดไลค์​ กด Subscribe กันด้วยนะครับ

แล้วพบกันตอนหน้าครับ
ไดโนสอง : )

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า