fbpx

เปิดตำนาน “บูเช็กเทียน” สตรีที่ถูกด้อยค่า สู่จักรพรรดินีผู้อยู่เหนือบุรุษทั้งปฐพี 

แม้ทุกวันนี้จะมี ผู้หญิง จำนวนมากสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กร หรือทำงานการเมือง แต่ในสังคมไทย เราจะพบว่า หลายครั้ง ผู้หญิงเก่งเหล่านี้มักจะถูกตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องศักยภาพในการทำงานและเรื่องส่วนตัว คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสังคมไทยยังไม่สามารถหลุดพ้นจากการเป็นสังคมชายเป็นใหญ่ เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ ผู้หญิงยังคงถูกโจมตีจากบทบาทที่ไม่เป็นไปตามขนบเสมอ แต่ก็ใช่ว่าในอดีต ผู้หญิงจะไม่เคยมีที่ยืนในประวัติศาสตร์การเมือง เพราะยังมีสตรีผู้หนึ่งที่ก้าวสู่บัลลังก์ “จักรพรรดินี” เธอคือ “บูเช็กเทียน” สตรีผู้แหวกขนบสังคมชายเป็นใหญ่ จนสามารถสถาปนาตนเองขึ้นเป็นใหญ่เหนือบุรุษทั้งแผ่นดินได้สำเร็จ

จากสนมปลายแถวสู่ผู้สำเร็จราชการ 

อู่เม่ยเหนียง (ต่อมาคือ อู๋เจ๋อเทียน หรือ บูเช็กเทียน) เป็นสนมปลายแถวที่ไม่อยู่ในสายตาของใครๆ ตั้งแต่รัชสมัยของจักรพรรดิถังไท่จง แห่งราชวงศ์ถัง แต่หลังจากการสวรรคตของจักพรรดิถังไท่จง พระนางได้้ไต่เต้าจนเป็นอัครมเหสีของจักรพรรดิถังเกาจงได้สำเร็จ 

พระนางมีความสามารถในการบริหารการเมือง จนสามารถกุมอำนาจทางการเมืองได้สำเร็จ ถึงขนาดได้เป็นผู้สำเร็จราชการ และในเวลาต่อมาสามารถปลดจักรพรรดิของราชวงศ์ถังทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งเป็นบุตรชายของพระองค์เอง ไม่ว่าจะเป็น ถังจงจง ถังลี่จง ทำให้อำนาจทางการเมืองของราชสำนักถัง ณ ขณะนั้น ตกอยู่ในอุ้งมือของพระนาง 

เหนือคนใต้หล้าสถาปนาราชวงศ์โจว

เมื่อสถานการณ์เริ่มสุกงอม ไม่มีบุรุษใดท้าทายอำนาจของพระนางได้ นำไปสู่การสถาปนาราชวงศ์ใหม่ ที่มีนามว่าราชวงศ์โจว บูเช็กเทียนกลายเป็นจักรพรรดินีองค์แรกและองค์เดียวของประวัติศาสตร์แดนมังกร ภายใต้อำนาจของพระนางทำให้บ้านเมืองสงบสุข การรับคนเข้ารับราชการยังเน้นรับผู้มีความสามารถมาทำงานมากกว่าลูกหลานขุนนางหรือตระกูลผู้ดี ซ้ำยังลดความเข้มงวดเรื่องการเกณฑ์แรงงาน เกณฑ์ทหาร เก็บภาษี แต่มุ่งเข้มงวดกับขุนนาง ปราบปรามการทุจริต ทำให้เศรษฐกิจของอาณาจักรพัฒนาไปอย่างมาก พร้อมกับขยายดินแดนไปจนถึงตะวันออกกลางอีกด้วย สิ่งที่สำคัญในยุคพระนางคือการเปิดโอกาสให้ผู้คนแสดงความคิดเห็นต่อบ้านเมืองโดยทั่วไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสมัยก่อนหน้านี้ 

บำรุงพุทธศาสนาแทนที่ลัทธิบุรุษเป็นใหญ่อย่างขงจื่อ 

กุศโลบายของพระนางในแง่ของการจัดการความเชื่อของผู้คนที่ถูกหล่อหลอมมาโดยตลอดเรื่องชายเป็นใหญ่เป็นกุศโลบายที่ไม่ธรรมดา เพราะพระนางอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงมากกว่าลัทธิขงจื่อที่มักผูกติดกับทัศนคติแบบชายเป็นใหญ่ และต่อต้านความไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิง ต่อต้านกรอบประเพณีเดิมๆ ที่ตีกรอบผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอยู่แต่เหย้า เฝ้าแต่เรือน และฉีกขนบทั้งหมดของขงจื่อที่ให้อำนาจกับผู้ชายตั้งแต่ระดับครอบครัว มีการฝังความเชื่อของพระนางว่า พระนางคือพระโพธิสัตว์กลับชาติมาเกิด มีหลักฐานที่เด่นชัดที่สุดมาถึงปัจจุบัน คือการแกะสลักพระพุทธไวโรจนะ ที่ถ้ำผาหลงเหมิน ประเทศจีน ซึ่งนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นการแกะสลักลอกเลียนแบบพระพักตร์ของพระนาง 

บั้นปลายถูกรัฐประหาร 

แต่ชีวิตของคนเราล้วนมีเงื่อนไข นั่นก็คือเวลาและอายุขัย เป็นสิ่งที่ไม่อาจต้านทานได้ พระนางบูเช็กเทียนสตรีผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถขัดขวางกาลเวลาได้เช่นกัน เพราะเมื่อพระนางมีพระชนมายุ 82 ปี ก็เกิดการรัฐประหาร ที่นำโดยพระราชโอรสของพระนางและขุนนางที่คิดฟื้นฟูราชวงศ์ถัง ได้เข้าควบคุมตัวพระนาง ปลดออกจากตำแหน่งจักรพรรดินี แต่ยังให้การยกย่องในฐานะฮองเฮาของราชวงศ์ถังต่อไป และเมื่อพระนางสวรรคต พระศพของพระนางก็ถูกฝังไว้คู่กับจักรพรรดิถังเกาจง ผู้เป็นพระสวามี ในสุสานเฉียนหลิง มณฑลส่านซี ในประเทศจีน 

เล่าขานตำนานไม่รู้จบ 

ถึงแม้ประวัติศาสตร์ของพระนางจะล่วงเลยมากว่า 2,000 ปี แต่ชื่อเสียงของพระนางได้รับการกล่าวขานตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ถัง หรือราชวงศ์ต่อๆ มา นวนิยายเกร็ดประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงพระนางหลากหลายเรื่อง ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับพระนางหรือยุคของพระนางเกือบ 30 เรื่อง หรือในเกมคอมพิวเตอร์ ก็ยังปรากฏเรื่องราวและการสร้างตัวละครที่เป็นเรื่องราวของพระนางเอง ไม่ว่าจะเป็น Sid Meier Civilization ภาค 2 และภาค 6 หรือจะเป็น Age Of Empires 2 และ 6 ของค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง พาราด็อกซ์และไมโครซอฟท์ สะท้อนให้เห็นเด่นชัดที่สุดว่าในหน้าประวัติศาสตร์พระนางคือสตรีที่ไม่เคยถูกลืม 

ตัวอย่างของผู้หญิงที่ไม่ควรถูกด้อยค่า 

ว่ากันว่าประวัติศาสตร์คือบทเรียน และยังสามารถมองและประเมินไปถึงอนาคต ตัวอย่างเรื่องราวของพระนางบูเช็กเทียนคือเรื่องราวที่บ่งบอกว่า ไม่ควรด้อยค่าผู้หญิง และผู้หญิงสามารถทำงานได้ดีกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง ด้านการบริหาร ฯลฯ สังคมไทยควรคิดเช่นกันว่าไม่ควรด้อยค่าคนจากเพสภาพ การไม่มีประสบการณ์ หรือการที่ไม่มี ไม่เคยเห็นผู้หญิงเป็นเจ้ากระทรวง หรือบริหารองค์กรนั้นๆ มาก่อน อย่างเช่นกรณีของศิริกัญญา ตันสกุล แห่งพรรคก้าวไกล ที่ถูกวิจารณ์จากคนรุ่นเก่าในสังคมชายเป็นใหญ่ จงอย่าลืมว่าในหน้าประวัติศาสตร์นั้น ยังมีสตรีอย่างพระนางบูเช็กเทียน จงอย่าลืมว่าการที่ผู้หญิงมาแทนที่ผู้ชายสามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองและเป็นปึกแผ่นได้เช่นกัน เพราะหากท่านๆ หลงลืมไป และยังกดขี่ด้อยค่าผู้หญิงเหมือนที่เคย เมื่อใดก็ตามเมื่อพวกเธอขึ้นมามีอำนาจ ทุกองค์กรในประเทศนี้ ผู้หญิงอาจแทนที่ ผู้ชายได้ทุกโอกาสก็เป็นไปได้ 

จักรพรรดินี ก็มีมาแล้ว นายกรัฐมนตรีก็มีมาแล้ว ขุนคลังจะเป็นไปไม่ได้เชียวหรือ ?

แหล่งอ้างอิง : silpa-mag

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า