fbpx

MORE บทเรียนราคาแพงที่ทำให้สั่นสะเทือนในวงการตลาดหุ้นไทย

หลังจากที่เกิดกระแสข่าวในกรณีของ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือที่เรียกว่า “MORE” ซึ่งในตอนนั้นเคยมีข่าวในอดีตเมื่อหลายปีก่อนที่ต้องเรียกว่าเป็นคดีที่ร้ายแรงมากที่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนกันและโบรกเกอร์กันเลยทีเดียว จนกระทั่งล่าสุดเกิดมีความผิดปกติของการซื้อขายช่วงเช้า ส่งผลให้ราคาหุ้นของ MORE ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในวันต่อมาหุ้น MORE ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก นี่คือสัญญาณบางอย่างที่อาจจะเข้าข่ายการปั่นหุ้นก็ว่าได้ ถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับวงการตลาดหุ้นไทย จนเกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักสำหรับ MORE 

ก่อนอื่นทาง The Modernist มาย้อนรอยถึงความหลังหุ้น MORE ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรบ้าง มีเหตุการณ์ที่สำคัญอันอื้อฉาวนั้นจนต้องสั่นสะเทือนต่อนักลงทุน โบรเกอร์ และตลาดหุ้นไทยไปอีกนาน 

MORE จากเดิมคือ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ก่อตั้งเมื่อปี 2546 ทำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อ Home Entertainment ประเภทภาพยนตร์ เพลง ที่ถูกลิขสิทธิ์นำไปจำหน่ายสินค้าไปยังร้านค้าปลีก ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่จะเสพความบันเทิงในขณะนั้น จนกระทั่งได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2555 โดยเสนอขายราคา IPO อยู่ที่ 1.90 บาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 

จนต่อมาในปี 2561 DNA ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) ซึ่งเกิดจากการขายหุ้นของบริษัท ดีเอ็นเอ เรฟโวลูชั่น จำกัด (DRL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยให้แก่บริษัท บานาน่า กรุ๊ป จำกัด (BaNANA) ในกลุ่มบริษัทคอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (COM7) คิดเป็นสัดส่วน 79.99% มูลค่ารวมประมาณ 168 ล้านบาท เพื่อนำไปต่อยอดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์เสริมของ DRL หวังจะนำเงินลงทุนในโครงการต่างๆ และขยายธุรกิจในอนาคต แต่มีอุปสรรคในระหว่างการขายหุ้นคือธุรกิจมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ไม่สูง จึงทำให้บริษัทไม่มีเงินทุนในการขยายกิจการที่เพียงพอ จนไม่สามารถแข่งขันกับธุรกิจกลุ่มสื่อสารได้ แต่ทว่าหลังจากการรีแบรนด์ไปได้ไม่นาน มีการเกิดการฉ้อโกงบิตคอยน์จากนักลงทุนชาวฟินแลนด์ เป็นจำนวนเงิน 797 ล้านบาท นั่นจึงส่งผลทำให้ราคาหุ้นของ MORE จากราคา 2.40 บาท ในปี 2561 ดิ่งลงสู่ที่ราคา 0.31 บาท ในปี 2562 

ภายหลังการเปลี่ยนโครงสร้างและเปลี่ยนชื่อไปแล้ว MORE จากเดิมที่ทำธุรกิจด้านจำหน่ายสินค้าสื่อ Home Entertainment สู่ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ด้านพลังงาน โดยมี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านประหยัดพลังงาน และธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับพลังงานทดแทน 2. ธุรกิจวางระบบน้ำปะปาเพื่อบริหารจัดการน้ำประปาบนเกาะเสม็ด และธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ 1,547 ล้านหุ้น (23.69%) 2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 886 ล้านหุ้น (13.57%) และ นายศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล 742 ล้านหุ้น (11.37%) 

สำหรับผลประกอบการย้อนหลังของ MORE ตั้งแต่ปี 2562 – 2564 พบว่าบริษัทมีผลประกอบการที่ขาดทุนในช่วง 2 ปีแรกหลังจากรีแบรนด์ ในปี 2562 มีรายได้ 40.31 บาท ขาดทุน 15.77 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้ 42.27 ขาดทุน 47.22 ล้านบาท แต่ในปี 2564 สามารถกลับมาพลิกกำไร โดยมีรายได้ 143.73 ล้านบาท กำไร 1,158 ล้านบาท แต่เกิดจากการปรับโครงสร้างหนี้และการขายสินทรัพย์ จึงไม่ได้เป็นผลการดำเนินงานตามปกติ และล่าสุดผลประกอบการในปี 2565 ใน 3 ไตรมาส มีรายได้รวม 120.79 ล้านบาท กำไร 22.16 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน ส่วนใหญ่ลดลงมาจากรายได้อื่นจากการกลับรายการค่าเผื่อประมาณการหนี้สินจากภาระค้ำประกันจำนวน 99.29 ล้านบาท 

หุ้น MORE จากราคาเริ่มแรกอยู่ที่ 0.30 บาท จนปรับตัวราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสูงสุอยู่ที่เกือบระดับ 3 บาท จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2565 ถือเป็นช่วงที่เกิดกระแสอย่างหนักมากจนต้องสั่นสะเทือนตั้งแต่ระดับนักลงทุน โบรกเกอร์ และตลาดหุ้น จากกรณีการดิ่งฟลอร์ (Floor) ติดต่อกัน 2 วัน ของหุ้น MORE เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ตอนช่วงเปิดการซื้อขายในช่วงเช้าเกิดมีความผิดปกติจากคำสั่งซื้อ (ATO) หุ้น MORE อยู่ที่ระดับ 2.90 บาทต่อหุ้นจำนวน 1,500 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาท ถือทำสถิติสูงสุดอันดับ 1 ของการซื้อขายทั้งตลาด (SET และ MAI) ในบรรดาหุ้นบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งนักลงทุนไม่ได้มีการซื้อขายได้มากขนาดนี้มาก่อน แต่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ที่ทำให้ปั่นราคาหุ้นตัวนั้นเกิดมีความผิดปกติ 

จนต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ออกมาประกาศเตือนถึงนักลงทุนให้ระมัดระวังก่อนตัดสินใจซื้อขายหุ้น MORE จากเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเปิดตลาดที่ราคา 2.90 บาท จากนั้นราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนราคาต่ำสุด (Floor) ที่ราคา 1.95 บาท และยังได้สอบถามพัฒนาการที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย โดย MORE ได้ชี้แจงผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าไม่มีพัฒนาการสำคัญใดๆ จากความผันผวนของราคาและปริมาณการซื้อขายของหุ้น MORE ที่อาจะส่งผลถึงความเสี่ยงในการซื้อขายได้ จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและสารสนเทศที่แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ตลอดจนบริษัทสมาชิกกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ MORE อย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อ-ขายที่อาจไม่เหมาะสมหรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จนกระทั่งปิดตลาดของวันที่ 11 พฤศจิกายน ปิดที่ลงมาระดับ 1.37 บาท 

ล่าสุดในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ได้จัดแถลงข่าว “แนวทางในการแก้ปัญหากรณีหุ้น MORE” ด้วยประกาศหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว (SP) โดยถูกขึ้นเครื่องหมายกำกับการซื้อขายระดับ 3 นั่นหมายความว่า ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net settlement และห้ามซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการ (โดยมาตรการการกำกับการซื้อขายแต่ละระดับ มีระยะเวลาเริ่มต้นจนถึงระยะเวลาสิ้นสุดครั้งละ 3 สัปดาห์) โดยปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น และโบรกเกอร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน 

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือร่วมกับบริษัทสมาชิก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อตรวจสอบธุรกรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE ที่อาจเข้าข่ายเป็นรายการที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทสมาชิกบางรายในระดับที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทสมาชิก และปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่านบริษัทสมาชิกรายนั้น โดยปัจจุบันบริษัทสมาชิกทุกรายยังสามารถให้บริการกับผู้ลงทุนได้ตามปกติ 

จากกรณีของ MORE ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่สร้างความโกลาหลอย่างมากต่อวงการตลาดทุนไทย จึงเป็นกรณีศึกษาสำคัญในสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่างถูกต้องและนำไปใช้ประกอบในการตัดสินใจลงทุน

Source:
www.set.or.th
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9550000141606
https://www.dataforthai.com/company/0105546042426/
https://www.bangkokbiznews.com/business/817591
https://www.kaohoon.com/column/269205
https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/more-dna-14112022
https://www.prachachat.net/finance/news-1117589
https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1037525
https://www.thansettakij.com/finance/547001
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/547053

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า