fbpx

Imagine บทเพลงอันเพ้อฝันของ John Lennon ที่ผู้คนใฝ่ฝันให้มันเป็นจริง

วันที่ 9 ตุลาคมมีเหตุการณ์สำคัญมากมายเกิดขึ้นและหนึ่งในนั้นคือเป็นวันเกิดของ John Lennon 

หากวันนี้เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะมีอายุครบ 84 ปีและคงมีบทเพลงอีกมากมายออกมาให้เราได้ฟังกัน

ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราจำเรื่องราวของเขาได้มากที่สุดคือสิ่งที่ John Lennon พยายามสื่อสารออกไปออกมาผ่านบทเพลงที่ชื่อ “Imagine”

บทเพลงนี้เอ่ยถึงโลกที่เขาอยากให้เป็นที่มันอาจจะเป็นโลกในจินตนาการ ที่แม้ว่ามันอาจดูเพ้อฝัน แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายที่อยากให้มันเป็นความจริง ครั้งหนึ่งเพลงนี้เคยถูกนำไปแสดงในพิธีปิดของมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิคที่จัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษในปี 2012 โดยเป็นการขับร้องเพลง Imagine ของเด็กๆ ก่อนที่ตอนท้ายที่ประกอบบล็อคให้เป็นรูปหน้าของ John Lennon ออกมาผ่านกล้องถ่ายทอดสด และส่งต่อลูกโป่งแห่งสันติภาพออกไปสู่ท้องฟ้า

เนื่องในวันครบรอบวันเกิด เราเลยอยากหยิบยก 1 ท่อนของบทเพลงนี้ออกมาเล่าว่า บทเพลงที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝันนี้ ส่งผลกระทบต่อโลกยังไง

ในท่อนหนึ่งที่ร้องว่า 

“Imagine there’s no countries 
It isn’t hard to do 
Nothing to kill or die for
And no religion, too 
Imagine all the people 
Living life in peace… You..”

เป็นที่รู้กันว่ามีสงครามเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ยุคโบราณ และสงครามมักตามมาด้วยความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนที่เกี่ยวข้อง โดยจุดประสงค์ของการทำสงครามก็มีไม่กี่เหตุผล ซึ่ง 2 เหตุผลที่เรามักเห็นคือ การแย่งชิงดินแดน และ เรื่องราวของศาสนา

เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ในช่วงเวลาที่ Lennon แต่งเพลงนี้ขึ้นมาเท่านั้น แม้กระทั่งหลังจากเขาเสียชีวิตจากการถูกลอบยิง ในปี 1980 ก็มีสงครามมากมายบนโลกที่มีเหตุผลมาจากสองเรื่องนี้ ที่เห็นภาพชัดที่สุด คือเหตุการณ์ที่โลกไม่ลืมอย่างเหตุวินาศกรรม 9/11 ที่ส่งผลให้เกิดสงครามที่พื้นที่ตะวันออกกลางตามมา 

แต่ก็ยังมีคนมากมายที่เข้าไปพื้นที่สงครามเพื่อที่ช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้น บางทีการที่เขาเขียนท่อนนี้ออกมา อาจไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีดินแดนหรือศาสนา แต่เป็นความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจากความแตกต่างทางความคิด

เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ท่อนนี้ของ Imagine ถูกนำมาพูดถึง คือในช่วงที่เกิดสงครามซีเรีย จนทำให้มีผู้ลี้ภัยไฟสงครามจำนวนมากหลบหนีออกจากประเทศเข้าไปในประเทศอื่น ซึ่งช่วงเวลานั้นเกิดกระแสต่อต้านผู้ลี้ภัยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุผลที่ทุกคนไม่ต้องการต้อนรับคนจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศของตน ทำให้เราเห็นมีการนำเพลงนี้ขึ้นใช้เพื่อบอกว่า​ “หากเราไม่ได้ถูกตีตราว่าเป็นผู้คนของแต่ละประเทศ เราจะทุกคนก็เป็นพี่น้องร่วมโลกเหมือนกัน”

อีกเรื่องคือหลังเหตุการณ์การก่อการร้ายที่ปารีสในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 โดยกลุ่มก่อการร้ายที่เกี่ยวกับศาสนาอย่าง ISIS หลังจากนั้นมีชายผู้หนึ่งนามว่า Davide Martello ได้ขับรถเป็นระยะทางกว่า 400 ไมล์มาที่ Bataclan theatre หนึ่งในสถานที่เป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายจนมีผู้เสียชีวิตถึง 90 คน และเป้าหมายของการเดินทางไกลของเขาคือ การเล่นบทเพลง Imagine ที่หน้าโรงละครแห่งนี้

เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุผลของการมาเล่นดนตรีครั้งนี้คือ “ฉันอยากอยู่ที่นั่นเพื่อพยายามปลอบโยน และแสดงความหวัง ฉันไม่สามารถดึงชีวิตผู้คนที่สูญเสียกลับมาได้ แต่ฉันสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาด้วยดนตรี และเมื่อผู้คนมีแรงบันดาลใจ พวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเล่น Imagine”

ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกของชาวปารีส บทเพลงนี้ช่วยให้ผู้คนกลับมามีความหวังได้

“ You may say I’m a dreamer But I’m not the only one”

นี่คือหนึ่งในท่อนบทเพลงนี้ และอย่างที่เขาพูด John ไม่ใช่คนเดียวที่ใฝ่ฝันเรื่องนี้ บทเพลงที่ใช้คำง่ายง่ายเพื่อสื่อสารออกไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีสำนวน ไม่ศัพท์เทคนิคใดใด เป็นเพลงที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงมัน เข้าถึงโลกที่ปราศจากสงคราม ความเกลียดชัง และสิ่งต่างๆที่จะทำให้ผู้คนต้องแตกแยกกัน

บทเพลงนี้จึงสามารถเข้าถึงผู้คนทั้งโลกในฐานะบทเพลงแห่งสันติภาพ และเชื่อว่าเพลงนี้จะถูกหยิบนำมาใช้อีกเรื่อยๆ ตราบใดที่ความขัดแย้งและความรุนแรงยังคงอยู่ เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกได้ใฝ่ฝันและพยายามสร้างโลกที่ตนเองอยู่ ให้เป็นเหมือนดินแดนแห่งจินตนาการที่ Lennon เคยใฝ่ฝัน

ดังในท่อนสุดท้ายของเพลงที่ว่า

“I hope someday you’ll join us 
And the world will live as one”

ฉันหวังว่าสักวันคุณจะมาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา แล้วโลกนี้จะสามารถอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข

สุขสันต์วันเกิด John Lennon

ที่มา 
How “Imagine” By John Lennon Changed The World – Rock Pasta
The Legacy of John Lennon’s Song “Imagine” – Biography
Learn how Lennon Changed the World With Timeless Music (tunedly.com)

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า