fbpx

‘เอมิเรตส์’ เมืองปลอดภัยที่ทุกคนไว้ใจตำรวจ

“ถ้าคุณเห็นผู้หญิงเดินเล่นสบาย ๆ ไร้ความกังวล ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ขอให้พวกคุณรู้ไว้ว่าพวกเธอกำลังอยู่ในเอมิเรตส์”

ชีค มูฮัมหมัด บิน ราชิด รองประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทรงโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ หลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับการจัดอันดับจาก Gallup Global Law and Order 2021 ว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยในช่วงกลางคืนมากที่สุดในโลกและผู้หญิงสามารถเดินทางเดินทางคนเดียวได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการจัดอันดับจาก Numbeo เว็บไซต์รวบรวมฐานข้อมูลค่าครองชีพระดับโลกที่ระบุว่าเมืองอาบูดาบีและดูไบเป็นเมืองที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำที่สุดในโลกด้วย

แล้วเมืองสำคัญอย่างอาบูดาบีและดูไบทำอย่างไรให้ประเทศมีอัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยที่สุดในโลก?

แม้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นประเทศที่สามารถขอวีซ่าง่ายและสามารถอาศัยอยู่ได้โดยไม่ต้องจ่ายภาษี แต่การบังคับให้ทุกคนทำงาน เพราะรัฐบาลต้องการมั่นใจว่าทุกคนมีแหล่งรายได้ที่มั่นคง สามารถใช้ชีวิตและเลี้ยงดูครอบครัวได้ แน่นอนว่าหากคุณไม่มีงานทำก็จะไม่ได้รับการต่อวีซ่าและอาจถึงขั้นถูกเนรเทศออกจากเมืองเลยทีเดียว

นับว่าเป็นหนึ่งในวิธีการลดการก่อเหตุอาชญากรรมจากต้นเหตุที่น่าสนใจมาก คนที่อาศัยอยู่ในดูไบและอาบูดาบีจึงกล้าวางกุญแจรถสปอร์ต กระเป๋าสตางค์ และโน้ตบุ๊คทิ้งไว้กลางร้านสตาร์บัค แล้วเดินไปซื้อกาแฟได้อย่างไม่ต้องกังวล

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่สร้างความรู้สึกปลอดภัยให้ประชาชนคือ “ตำรวจ”

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังสร้างภาพลักษณ์ให้ตำรวจมีความนุ่นนวล เข้าถึงได้ ทำให้เกิดความสามัคคี การมีส่วนร่วมของพลเมือง และความไว้วางใจตำรวจในประเทศมากขึ้นด้วย

YouGov บริษัทวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตพบว่าประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจให้จัดการทั้งคดีเล็ก ๆ ไปจนถึงคดีใหญ่

ลาลา อัล บาราซี ผู้อำนวจการทีมสำรวจของ Yougov ระบุว่าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เชื่อมั่นในตำรวจอาหรับมาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับบ้านของพวกเขา เนื่องจากประชาชนไม่ได้ติดต่อตำรวจเฉพาะเวลาเกิดเหตุอาชญากรรมหรือเกิดอุบัติเหตุการจราจรเท่านั้น แต่ยังสามารถโทรหาตำรวจเพื่อขอข้อมูล ขอคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือเรื่องเล็ก ๆ อย่างยางรถแบนได้ด้วย ซึ่งไม่น่ามีตำรวจประเทศไหนในโลกปกป้องประชาชนและมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจได้มากขนาดนี้

หน่วยงานด้านตำรวจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังออกนโยบายใหม่ ๆ ช่วยเหลือประชาชนอยู่เป็นประจำ และประจำการอยู่ใกล้สถานที่ที่มีความเสี่ยงในการก่ออาชญากรรมมากที่สุด เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ

อย่างในปี 2018 ตำรวจดูไบกระจายหน่วยลาดตระเวนเฝ้าพื้นที่ใกล้ปั๊มน้ำมันและซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อป้องกันเหตุโจรกรรมรถ เวลาที่มีสตาร์ทรถทิ้งไว้ แล้วออกไปซื้อของแบบเร็ว ๆ ตำรวจยังเฝ้าระวังการก่อเหตุปล้นธนาคาร ด้วยการประจำการใกล้กับธนาคาร แล้วตำรวจก็ทำหน้าที่ให้ความรู้เรื่องการป้องกันตัวจากเหตุอาชญากรรมในช่วงเปิดเทอมใหม่ของนักเรียน โดยการสอนให้นักเรียนระวังการวางเงินไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการโจรกรรมด้วย

นอกจากนี้ หน่วยงานตำรวจของทั้งอาบูดาบีและดูไบยังร่วมงานกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก คิดค้นนวัตกรรม ผ่านการออกนโยบายใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจ เพื่อให้ดูไบเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ซึ่งนับตั้งแต่ดูไบประกาศแผนนี้ออกมาในปี 2017 หน่วยงานตำรวจก็มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น

  • Falcon Eye : ในอาบูดาบีมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหลายพันตัว สำหรับจัดการการจราจรบนท้องถนน การละเมิดกฎจราจร และการรวมตัวกันของผู้คนในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม
  • สถานีตำรวจอัจฉริยะ : สถานีตำรวจอัจฉริยะแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อแจ้งความ ชำระค่าปรับ หรือแจ้งของหายได้ ผ่านจอ touch screen ขนาดใหญ่ ซึ่งสถานีรูปแบบนี้ช่วยให้ผู้หญิงหรือคนที่กลัวโรงพักเข้ามาใช้บริการง่ายขึ้น
  • รถตำรวจไร้คนขับ : สำนักงานตำรวจดูไบเตรียมใช้งานรถยนต์ไร้คนขับ (รุ่น M01 ใช้สำหรับบนถนนใหญ่และ M02 ใช้สำหรับพื้นที่ที่ผู้คนอาศัยอย่างหนาแน่นและซอยแคบ ๆ) เป็นรถ machine learning สำหรับเฝ้าระวังเหตุการณ์ที่น่าสงสัยและอุบัติเหตุบนท้องถนน แถมยังมีโดรนไว้สำหรับตามตัวคนร้ายในเวลาจำเป็นอีกด้วย
  • Hoverbike: ตำรวจดูไบใช้ Hoverbike หรือมอเตอร์ไซค์บินได้ รองรับเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้น มอเตอร์ไซค์เหล่านี้ยังมีกล้องช่วยจดจำผู้คนและระบุเหตุการณ์ที่น่าสงสัยด้วย
  • Hather : เรดาห์ตรวจจับรถจอดทับทางม้าลาย เพื่อให้ทุกคนข้ามถนนอย่างปลอดภัย (ขณะนี้กำลังทดลองใช้อยู่ หากการทดลองสำเร็จจะติดตั้งระบบหน้าโรงเรียนและย่านการค้าในอาบูดาบี)

การติดอันดับประเทศปลอดภัยอันดับ 1 ของโลกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เกิดจาความพยายามและความตั้งใจของตำรวจ พวกเขาคิดเสมอว่าอยากให้เมืองนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชน จึงเกิดนโยบายมากมายออกมาสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเสมอ

อีกหนึ่งบทเรียนที่น่าสนใจมากคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกลับสร้างความสบายใจให้คนในดูไบและอาบูดาบีด้วยซ้ำ

หากย้อนกลับมามองทัศนคติเรื่องการสร้างความปลอดภัยในเมืองของกทม. ผ่านนโยบายของผู้สมัครผู้ว่าฯแล้ว เราพบว่านโยบายมักเล่นกับ buzzword อยู่ไม่กี่คำคือกล้อง สตรี และไฟข้างทาง แม้ว่าปัญหาเหล่านี้จะอยู่กับกทม.มานานแล้ว แต่นี่อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุก็ได้


Sources :
https://www.thenationalnews.com/uae/abu-dhabi-is-the-safest-city-on-the-planet-with-lowest-crime-rate-numbeo-com-1.70632
https://english.alarabiya.net/News/gulf/2021/11/18/UAE-named-world-s-safest-country-to-walk-at-night-Gallup-report
https://www.quora.com/Why-is-crime-low-in-Dubai
https://gulfnews.com/uae/government/police-take-steps-to-prevent-crimes-in-dubai-1.2267697
https://www.iotworldtoday.com/2022/03/16/dubai-police-unveil-driverless-patrol-cars/
https://thestandard.co/hoversurf-scorpion/
https://www.thenationalnews.com/uae/2022/04/04/new-ai-radars-to-fine-abu-dhabi-drivers-dh500-for-failing-to-wait-at-pedestrian-crossings/
https://www.mei.edu/publications/abu-dhabi-policing-laboratory-building-security-forging-community
https://www.voicetv.co.th/watch/SkXGn-Htf

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า