fbpx

ย้อนความ ดีล “CRC – Selfridges” อภิมหาดีลขยายการเติบโตห้างสรรพสินค้าโซนยุโรป

หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีกระแสข่าวจากสื่อต่างประเทศระดับโลกอย่าง The Time รายงานว่ากลุ่มเซ็นทรัลมีแผนลงทุนซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าเซลฟริดเจส (Selfridges) ห้างดังสุดหรูที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ในการร่วมลงทุนเพื่อขยายกิจการในธุรกิจค้าปลีกระดับโลก ด้วยเงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาท (4 พันล้านปอนด์) คาดว่าจะปิดดีลภายในสิ้นปี 2021 จนทำให้ทางเซ็นทรัล รีเทล (CRC) ต้องปฏิเสธข่าวดังกล่าวในช่วงแรก ต่อมาในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 กลุ่มเซ็นทรัลได้ออกมายืนยันว่าข่าวที่เสนอซื้อกิจการ Selfridges เป็นเรื่องจริง จนกระทั่งเมื่อ 25 มกราคม 2565 ดีลยักษ์ดังกล่าว ถูกยกเลิกในที่สุด ตลอดช่วงระยะเวลาแผนการซื้อกิจการ Selfridges ของตระกูลเวสตัน (Weston) นั้น ยังไม่มีความชัดเจนในการเจรจาข้อตกลงในการร่วมลงทุนดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาหุ้นของ CRC

นอกเหนือจากเรื่องแผนลงทุนซื้อกิจการห้าง Selfridges กันไปแล้ว ในอดีตที่กลุ่มเซ็นทรัลเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในไทยโดยตระกูลจิราธิวัฒน์ อภิมหาเศรษฐีอันดับ 4 ในไทย ได้ในการเดินหน้าลงทุนซื้อกิจการห้างดังในทวีปยุโรปอีกหลายแห่งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการปัดหมุดธุรกิจห้างสรรพสินค้าต่างประเทศในยุโรปเพื่อรองรับในการขยายเติบโตมากขึ้น จนไม่หยุดที่จะพัฒนาธุรกิจแม้มีอุปสรรคในด้านเศรษฐกิจของประเทศ และสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกก็ตาม 

Modernist Growth ขอพาทุกคนย้อนดูเรื่องราวที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าดังในยุโรปที่ได้ครอบครองมาในรอบ 10 ปี ตลอดจนเล่าถึงประวัติความเป็นมาของ Selfridges ที่เป็นแหล่งศูนย์รวมช้อปปิ้งในยุโรป รวมไปถึงย้อนดูข่าวที่เผยแพร่ออกมาถึงกรณีกลุ่มเซ็นทรัลมีแผนซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า Selfridges โดยสรุปว่าเป็นอย่างไร

กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งพัฒนาด้วยการเจาะตลาดห้างสรรพสินค้าชื่อดังในยุโรป

จากจุดเริ่มต้นที่กลุ่มเซ็นทรัลได้ขยายธุรกิจค้าปลีกในต่างประเทศ ซึ่งได้วางยุทธศาสตร์ในการสร้างแบรนด์ Global Company เพื่อรองรับในการขยายเติบโตที่เพิ่มขึ้นและสามารถแข่งขันภายในประเทศ โดยเน้นเจาะตลาดห้างสรรพสินค้าในยุโรปที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานและเป็นห้างหรูที่มีความสวยงาม ด้วยการเข้าซื้อกิจการห้างในยุโรปหลายแห่ง ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โดยเริ่มที่ ‘ลา รีนาเซนเต (La Rinascente)’ ประเทศอิตาลี ด้วยเงินลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท (260 ล้านยูโร)ปัจจุบันมีสาขารวม 9 สาขา มีแฟล็กชิปสโตร์ 2 สาขา ตั้งอยู่ในเมืองมิลาน และกรุงโรม 

ปี 2556 ห้าง ‘อิลลุม (Illum)‘ เป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดที่มีอายุมากกว่า 130 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็นแหล่งศูนย์กลางเมืองย่านชอปปิ้งที่ดีที่สุด มีพื้นที่มากกว่า 20,000 ตารางเมตร จนต้องทุ่มเงินลงทุนในการปรับปรุงห้างด้วยงบ 2,000 ล้านบาท

ปี 2558 กลุ่มเซ็นทรัลจับมือกับ ‘ซิกนา (SIGNA)‘ อสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในยุโรป ได้เข้าซื้อกิจการห้างหรูในเยอรมนี 3 ห้างได้แก่ ‘ห้างคาเดเว (KaDeWe)’ กรุงเบอร์ลิน, ‘ห้างอัลสแตร์เฮาส์ (Alsterhaus)’ นครฮัมบูร์ก และ ‘ห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์ (Oberpollinger)‘ นครมิวนิก  โดยถือหุ้นร่วมกับ Kadewe Group  51% และ Signa ถือหุ้น 49%

ปี 2563 กลุ่มเซ็นทรัลจับมือกับ “ซิกนา” (SIGNA)  ได้เข้าซื้อกิจการห้างหรู ‘โกลบัส (Globus)‘ ห้างเก่าแก่อายุกว่า 129 ปี ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยเงินลงทุน 3.1 หมื่นล้านบาท (มูลค่ากว่า 1 พันล้านฟรังก์สวิส)

Selfridges ห้างสรรพสินค้าดังสุดหรูที่เป็นศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งในยุโรป

Selfridges เป็นห้างสรรพสินค้าดังสุดหรูที่เก่าแก่ในอังกฤษ เริ่มก่อตั้งในปี 1908 โดย แฮร์รี่ กอร์ดอน เซลฟรีด (Harry Gordon Selfridge) โดยเป็นห้างขนาดใหญ่รองจากห้างดังอย่าง ‘Harrods’ เท่านั้น ต่อมาในปี 2003 Selfridges ได้ถูกขายต่อไปให้กาเลน เวสตัน (Galen Weston) นักธุรกิจชาวแคนาดา ด้วยมูลค่า 24,700 ล้านบาท 

Selfridges Group ได้ขยายอาณาจักรห้างสรรพสินค้าด้วยการควบรวมเข้ากับกิจการอื่นๆในต่างประเทศ เช่น ห้าง De Bijenkorf ประเทศเนเธอร์แลนด์, ห้าง Brown Thomas และ Arnotts ประเทศไอร์แลนด์ และห้าง Holt Renfrew ประเทศแคนาดา ขณะที่ Selfridges Retail Limited ทั้ง 4 สาขาในอังกฤษ ได้แก่ Oxford Street (ลอนดอน), Trafford Center, Exchange Square (แมนเชสเตอร์) และ Bullring (เบอร์มิงแฮม) ปัจจุบัน Selfridges มีห้างสรรพสินค้าทั้งหมด 25 แห่งทั่วโลก

ภาพจาก selfridgespress.com

แผนการร่วมลงทุนครั้งใหญ่ในการซื้อกิจการ Selfridges

การดีลล่าสุดในครั้งนี้ได้สร้างความฮือฮาแก่นักลงทุนเป็นอย่างมากในการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเซ็นทรัลเตรียมแผนลงทุนซื้อกิจการ Selfridges โดยในช่วงเวลาสำคัญดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร

  • 2 ธันวาคม 2564 สำนักข่าว The Time รายงานว่า ตระกูล Weston เจ้าของห้างหรู Selfridges ตกลงขายกิจการให้กับกลุ่มเซ็นทรัลของประเทศไทย ด้วยมูลค่ากว่า 4 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท) โดยในกระบวนการตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และคาดว่าจะปิดข้อตกลงภายในสิ้นปี 2564 นี้ แล้วการขายที่เสร็จสมบูรณ์อาจจะสามารถลากยาวเข้าสู่เดือนหน้าได้ ทั้งนี้ Selfridges ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวดังกล่าว

หลังจากข่าวที่ได้เผยแพร่ออกมา แต่ในช่วงเย็นวันเดียวกัน Central Retail ทำหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าไม่มีส่วนในการดำเนินการซื้อกิจการห้างหรู Selfridges ในต่างประเทศในขณะนี้

  • 24 ธันวาคม 2564 กลุ่มเซ็นทรัล จับมือกับ ซิกน่า เข้าลงนามในสัญญาซื้อกิจการ Selfridges Group โดยในส่วนของกลุ่มเซ็นทรัล ‘บริษัท ห้างเซ็นทรัล ดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด (HCDS)’ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Central Retail เป็นผู้เข้าลงนามในสัญญา โดยมีเงื่อนไขและสิทธิเข้าลงทุนใน Selfridges Group ที่อยู่ภายใต้ Flagship Undertaking Letter ก่อนวันที่การเข้าลงทุนดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ (Closing Date) หรือถ้าตัดสินใจไม่เข้าลงทุนในครั้งนี้ ทาง Central Retail สามารถเข้าซื้อธุรกิจต่อจาก HCDS ได้ภายใน 90 วันนับจากวันที่ HCDS เข้าลงทุนเสร็จ สมบูรณ์ในราคาตามที่ตกลงกันใน Flagship Undertaking Letter

จากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ทางกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าได้ร่วมลงนามในการเข้าซื้อกิจการ Selfridges เป็นห้างสรรพค้าชั้นนำในยุโรปที่ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าในอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ รวม 18 แห่ง รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ 7 แห่ง และดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมด ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ เป็นการร่วมทุนในร้อยละ 50 ระหว่างเซ็นทรัลและซิกน่า ถ้าแผนการนี้สำเร็จตามที่เป็นข่าวจะทำให้กลุ่มเซ็นทรัล มียอดขายรวม 1.8 แสนล้านบาท (5 พันล้านยูโร) ในปี 2562 และประมาณการเติบโตจะอยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท (7 พันล้านยูโร) ในปี 2024 จาก 8 ประเทศ และ 35 เมืองสำคัญในยุโรป และจะเป็นการสร้างรายได้มหาศาลที่เซ็นทรัลเป็นผู้นำด้านธุรกิจห้างสรรพค้าของโลก

  • 24 มกราคม 2565 Central Retail ตัดสินใจไม่เข้าลงทุนใน Selfridges Group ตามข้อตกลงในสัญญาซื้อกิจการ แทนบริษัท ห้างเซ็นทรัล ดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด (HCDS) ภายใต้ Flagship Undertaking Letter จากการประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นไปตามมติบอร์ดฯ

ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้ประกาศยกเลิกดีลซื้อกิจการใน Selfridges Group ยังต้องประเมินพิจารณาองค์ประกอบหลายๆด้านในการลงทุนธุรกิจห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะต้องมีความเสี่ยงต่างๆ ในทางสัญญาซื้อกิจการและมูลค่าเงินลงทุน สำหรับการลงทุนโดย HCDS ในเครือเซ็นทรัล สามารถใช้ความสัมพันธ์กับแบรนด์คู่ค้าระดับโลกเพื่อเป็นประโยชน์ในเชิงธุรกิจได้ ที่จะมาพิจารณาโอกาสในการลงทุน ควรคำนึงถึงสิทธิและประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกราย

ภายหลังการสิ้นสุดแผนการซื้อกิจการ Selfridges Group ที่ออกข่าวมาเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนถึงการยกเลิกดีลนั้น ควรต้องจับตากันต่อไปว่ากลุ่มเซ็นทรัลจะมีแผนลงทุนที่จะซื้อกิจการในยุโรปในการสร้างขยายการเติบโตที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลในการทำธุรกิจห้างสรรพสินค้าในยุโรปที่เป็นแหล่งสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เข้ามาซื้อแบรนด์ดังทั่วโลกที่จะมาปัดหมุดในประเทศแถบยุโรปในโอกาสต่อไป

Sources:
https://plus.thairath.co.th/topic/money/100777
https://www.thansettakij.com/business/505426
https://www.thansettakij.com/business/507862
https://www.brandbuffet.in.th/2021/12/central-group-and-signa-selfridges-deal/
https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/central-selfridges-02122021
https://www.longtunman.com/34401
https://www.prachachat.net/finance/news-848748
https://www.posttoday.com/economy/news/209685
https://www.thairath.co.th/content/331805

Journalist

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า