สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จับมือกับ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว “ช่อง 3 X M Pictures presents Big Movies Big Projcct 2022” ซึ่งเป็นโครงการร่วมผลิตภาพยนตร์ไทย เริ่มประเดิมด้วยภาพยนตร์เรื่อง “บัวผันฟันยับ” ที่พร้อมให้ได้รับชมภายในปีนี้แน่นอน นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะสร้างภาพยนตร์ร่วมกันอีกหลายเรื่องในปี 2565 เป็นต้นไป
สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง “บัวผันฟันยับ” นั้น ได้นักแสดงนำอย่าง แอน ทองประสม และ กลัฟ-กณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ นอกจากนี้ยังได้ Executive Producer คือ ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่ผลิตภาพยนตร์หลากหลายเรื่อง และกำกับภาพยนตร์โดย คุณตุ๋ย-พฤกษ์ เอมะรุจิ
คุณสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจับมือกันระหว่าง บีอีซี เวิลด์ กับ เอ็ม พิคเจอร์ส โดยนำจุดแข็งของทั้งสอง สร้างความพร้อมเป็นผู้นำทางด้าน Entertainment Platform ว่า “ขอบคุณ คุณดิว-ปิ่นกมล มาลีนนท์ ที่เป็นคนจุดประกายให้กับ บีอีซี เวิลด์ หรือ ช่อง 3 ในการเข้ามาสู่การทำภาพยนตร์ อันที่จริงแล้ว ช่อง 3 เรามีเจตนารมณ์ชัดเจน เรามีความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็นผู้ผลิต และก็เป็นผู้นำทางด้าน Entertainment Platform พยายามชูกลยุทธ์ Single Content Multiple Platform โดย ช่อง 3 นอกจากจะเป็นผู้นำแล้ว เราก็พยายามดูเรื่องของคอนเทนต์ เราพยายามชูกลยุทธ์ Single Content Multiple Platform ก็คือหนึ่งคอนเทนต์ของเรา ที่มันสามารถเดินทางไปได้หลาย ๆ แพลตฟอร์ม บีอีซี เวิลด์ หรือ ช่อง 3 เป็นผู้ผลิตละครชั้นนำของประเทศมาหลายสิบปีแล้ว เรามีดาราชั้นนำอยู่เต็มไปหมด ผมคิดว่าคนไทยก็คงจะรู้จักดารา-นักแสดงชั้นนำของช่อง 3 เป็นอย่างดี
ในส่วนของ เอ็ม พิคเจอร์ส ก็อยู่ในธุรกิจการสร้างภาพยนตร์ เป็นผู้นำทางด้านนี้มาสิบกว่าปี ได้คุยกับทางคุณเชษฐ์ (สุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์) ก็เข้าใจว่าสร้างภาพยนตร์มาจำนวนหลายสิบเรื่อง ผมคิดว่า เราต่างคนต่างก็มีจุดแข็งครับ การที่เรามารวมกันในวันนี้ ผมคิดว่าก็จะเป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะได้ใช้จุดแข็งของ เอ็ม พิคเจอร์ส และของ บีอีซี เวิลด์ ในการที่จะทำภาพยนตร์ร่วมกัน โดยมีดารา-นักแสดงชั้นนำของช่อง 3 มาร่วมแสดง อย่างเช่น โครงการนี้ เป็นโครงการแรกที่เราทำร่วมกัน แล้วก็ได้ คุณแอน ทองประสม คุณกลัฟ-คณาวุฒิ เป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วก็หวังว่าโครงการอื่นๆ ที่เราจะมีร่วมกันต่อไป ก็คงจะมีดารา นักแสดงชั้นนำของช่อง 3 มาร่วมแสดงอีก”
คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวสนับสนุนถึงความร่วมมือในครั้งนี้ พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่ตลาดโลกว่า “ทั้งช่อง 3 เอง เมเจอร์เอง เอ็ม พิคเจอร์สเอง มีการร่วมมือ สนับสนุนด้านธุรกิจกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว การที่เรามานั่งคุยกันในเรื่องภาพยนตร์ ผมว่าจุดเริ่นต้นน่าจะเป็น Passion ล้วนๆ เพราะว่า Culture ของทั้งช่อง 3 และก็เอ็ม พิคเจอร์สเอง จุดประสงค์หลักของเราสองคนคือ สร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม
เอ็ม พิคเจอร์ส ทำภาพยนตร์มาเป็นร้อยเรื่องครับ ปีนึงเราผลิตภาพยนตร์ประมาณสัก 20 เรื่อง ปีหน้าเราอาจจะทำสัก 30 เรื่อง เราก็อยากจะจับมือกันครั้งนี้ เพื่อต่อยอดสร้างภาพยนตร์ร่วมกับทางช่อง 3 ปีละ 4-5 เรื่อง การนำพาซูเปอร์สตาร์ของช่อง 3 ไปสู่ตลาดโลก เพราะเราเชื่อว่าตอนนี้หนังไทยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทย แต่ว่าได้ความนิยมไปทั่วโลก”
คุณยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ Executive Producer ภาพยนตร์เรื่อง “บัวผัน ฟันยับ” ได้กล่าวถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ต้องขอบคุณ คุณดิว-ปิ่นกมล พอดีเราคิดเรื่องนี้ไว้ แล้วเราอยากให้นักแสดงบางคนเล่น คุณดิวเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เราได้มีโอกาสไปบอกคุณเชษฐ์ว่า “คุณเชษฐ์ เราชวนช่อง 3 มั้ย” ทีนี้เลยชวนกันใหญ่เลยครับ ไปกันใหญ่เลย ตอนแรกก็มาจากความสนุกของทีมงานคิดน่ะครับ แล้วทุกคนก็ค่อยระเบิดให้มันใหญ่ๆๆ เริ่มต้นจากการที่คุยกับคุณดิวก่อน
เรื่องราว ตามชื่อเรื่องเลยครับ “บัวผัน ฟันยับ” เป็นเรื่องของการโคจรของคนสองคน “บัวผัน” เป็นอาจารย์ที่เก่งกล้าสามารถบางอย่าง กับลูกศิษย์คนนึง ก็คือคุณกลัฟ เขาโคจรมาเจอกัน อาจารย์เป็นผู้หญิงห้าวๆ เป็นตัวแสบห้าวๆ แต่ว่าเขาเป็นคนที่อยู่บ้าน “คุ้มหลบหลืบ” นี่คือชื่อหมู่บ้านเขานะครับ หลบอยู่ในหลืบ วันๆ ไม่ค่อยเจอใคร เก่งอยู่แต่ในหมู่บ้าน หมู่บ้านเขา เป็นหมู่บ้านที่สงบสุข ไม่ได้มีความสุขมาเพิ่ม และไม่ได้มีความทุกข์มาเติมเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีใครโคจรเข้ามา ความเก่งของเขาก็จะวนเวียนอยู่ในนี้
แต่วันนึง ความเก่งของเขา มันร่ำลือออกไปไกล จนกระทั่งเด็กหนุ่มคนนึง ซึ่งเป็นผู้ชายที่มีหัวใจเป็นนักรบ ยังไม่เก่ง แต่อยากเก่ง เขารู้แล้วว่ามีผู้หญิงคนนึงที่เก่งมากอยู่ในหมู่บ้านนี้ เขาก็เดินทางมา เพื่อที่จะขอเป็นลูกศิษย์อาจารย์คนนี้ แต่ปัญหาคือ บัวผันเขาเป็น Gangster Girl (หัวเราะ) เขามีแก๊งที่เป็นตัวแสบมาก คนในหมู่บ้านเขามีไม่มีกี่คน แต่ละคนมีคาแร็กเตอร์ที่พิสดารทุกคน เป็นศูนย์รวมสัตว์ประหลาดอยู่ในนี้ เขา (บัวผัน) เป็นเจ๊ใหญ่ พวกบัดดี้เขาทั้งหลายแหล่ แต่ละคนจะตัวแสบหมด เขาจะชอบคิดวิชาพิสดาร ผมใช้คำว่าวิชาของบัวผัน ไม่ได้เรียนง่ายๆ แก๊งของบัวผัน จะทำให้ผู้ชายคนนี้กลายเป็นนักรบ ที่เป็นฮีโร่ได้หรือเปล่า ก็ต้องไปเชียร์เขากัน”
คุณแอน ทองประสม นักแสดงนำในเรื่อง ที่รับบทบัวผัน ได้กล่าวความรู้สึกว่า “แอนไม่ได้เล่นหนังมา 18 ปีแล้ว ล่าสุดที่แอนเล่นคือ The Letter (2004) มันค่อนข้างสร้างความประทับใจให้ตัวแอนและคนดูพอสมควร แต่ว่าความสำเร็จในวันนั้น มันก็ไม่ได้มาเป็นตัวที่แอนต้องรับงานยากขึ้นกว่าเดิม แค่ว่าจังหวะเวลา หรืออะไรหลายๆ อย่าง มันไม่ได้ทำให้เราต้องกลับไปจอเงินเลย ก็อยู่แต่ทางละครเป็นหลัก
เสร็จแล้วพอมาเรื่อง บัวผัน ฟันยับ คือจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าแอน เป็นแฟนคลับพี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ) ด้วยนะ ผู้กำกับ เพราะว่าร่องการขำของแอน จะค่อนข้างตรงกับพี่ตุ๋ย, พี่ยอร์ช สเป็คตรงกัน เหมือนเราหัวเราะในร่องเดียวกัน พอเขาติดต่อมา “เฮ้ย มาทำอะไรสนุกๆ กัน” เพราะว่าคุณดิวชวน “แอนอยากเล่นหนังมั้ย” เราบอก “อยากเล่น” ก็แบบ “เอาค่ายพี่ยอร์ชมั้ย” “ได้เลย” พอพูดงี้ เราก็รู้แล้วว่า จะไปทางไหน ซึ่งพอเขาคุยเรื่องบท แล้วก็บอกชื่อเรื่อง แอนก็แทบจะรับแล้วอะ ยังไม่ได้อ่านบทด้วยนะ แล้วพอเขาเล่ารายละเอียดว่าแบบ เออ แอนต้องเล่นอย่างนี้ๆๆ แอนบอก “โอเค จบ ต้องเล่นแล้วแหละ” มันก็เป็นอีกรสชาตินึง ก็จะไม่เหมือน The Letter เลย คือคนละเรื่องเลย คือไม่มีอะไรที่แอนเคยเล่นเลยอะ ทุกฉาก ทุกฉากไม่ซ้ำ คือไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน และก็ยังคิดว่า ทำไมเขาเลือกเราอะ (หัวเราะ) เขาต้องคิดว่าเราเล่นได้ใช่มั้ย
แอนว่าเรื่องนี้ แอนต้องเหมือนเบบี๋เลยอะ เหมือนเด็กที่เพิ่งหัดเดิน แอนว่า แอนต้องไปนับหนึ่งกับกล้ามเนื้อทางการแสดงใหม่ๆ สำหรับหนัง จังหวะหนัง กับจังหวะละคร มันคนละจังหวะกัน มันใช้เวลาในการที่จะฮุกไม่เท่ากัน ในความรู้สึกแอนนะคะ แอนก็เลยบอก “พี่ยอร์ช พี่ยอร์ชต้องเอา Acting Coach มาช่วยแอนนะ” หรือไม่ก็แก๊งเพื่อนฝูง ต้องช่วยแอนหน่อย แอนคิดว่ามันเป็นอะไรที่ต้องท้าทายพอสมควร เล่นดราม่า แอนว่าคนเราเวลาโดนหยิก หรือกระทบให้เสียใจ ร้องไห้ๆ ใกล้ๆ กันหมด เรามักจะเสียใจในเรื่องราวใกล้ๆ กัน แต่ร่องหัวเราะไม่ใกล้กัน เพราะฉะนั้น ความยากในการที่เราจะทำให้คนหัวเราะได้อะ เป็นเรื่องท้าทายกว่า”
กลัฟ-กณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ นักแสดงนำอีกคน ได้กล่าวว่า “อย่างแรกเลย ก็แน่นอนครับ ตื่นเต้นมากๆ ครับผม เพราะว่าเราก็ติดตามผลงานของพี่ๆ ทุกคน ทีมงานทุกๆ คน พี่ๆ นักแสดงทุกคน ที่มาแสดงเรื่องนี้กับเราทุกๆ คนด้วยครับ อย่างพี่ยอร์ช ผมเป็น FC หนังพี่มากครับผม ตั้งแต่แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า (2006), โหดหน้าเหี่ยว (2009) ก็ติดตามทุกเรื่องครับ แล้วพอรู้ว่าเป็นพี่ยอร์ช เหมือนพี่แอนเลยครับ พอรู้ว่าเป็นพี่ยอร์ชปุ๊บ เราก็อยากจะมีโอกาสได้ลองทำงานกับพี่ยอร์ชดูสักครั้งนึงครับ เพราะว่าเราก็ติดตามหนังพี่เขามาเกือบทุกเรื่องครับผม ส่วนของพี่แอน เคยร่วมงานกันมาแล้วนะครับ แต่เราก็รู้สึกว่า เราเกร็ง ยังเกร็งๆ อยู่” “รู้สึกใหม่มากๆ สำหรับภาพยนตร์ ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ละกันครับ”
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะยังไม่ได้เริ่มเปิดกล้อง แต่คุณสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ได้ยืนยันว่าฉายภายในปีนี้แน่นอน แฟนคลับ “แอน-กลัฟ” ห้ามพลาด!
Photographer
รัตนพล ไวทยการ
Journalist
