fbpx

โบว์ เมลดา กับการกลับมาจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้งที่วิกสามพระรามสี่

หากจะกล่าวถึงนักแสดงที่เป็นขวัญใจประชาชน ชื่อของ “โบว์-เมลดา สุศรี” คงเป็นชื่อหนึ่งที่หลายคนนึกถึงกันอย่างแน่นอน เพราะด้วยความสามารถที่หลากหลาย ทั้งการร้องเพลง การแสดง และการเป็นนางแบบ โบว์ เมลดามักจะทำผลงานออกมาได้ดีและเป็นที่ประจักษ์ของประชาชน ทำให้เป็นที่หลงรัก แต่ด้วยการกลับมาเป็นนักแสดงเต็มตัว ทำให้เธอห่างหายจากการออกเพลงในฐานะนักร้องถึง 9 ปีเลยทีเดียว ถึงแม้บางครั้งเธอจะได้มีโอกาสร้องเพลงบ้าง แต่ก็เป็นเพียงเพลงประกอบละครเท่านั้น

และวันนี้ เมื่อเธอมาที่บ้านวิกสามพระรามสี่ เธอก็ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้เริ่มต้นการเป็นนักร้องเดี่ยวครั้งแรก กับการมีเพลงเป็นของตนเองที่ไม่ใช่เพลงประกอบละคร เลยเป็นโอกาสดีที่ The Modernist จะชวนเธอมาร่วมคุยกันถึงเรื่องราวกว่าจะมาเป็นเพลงแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวของเธอ รวมถึงก้าวต่อไปในการเป็นนักร้องของเธอกัน

รับรองว่าถ้าหากได้อ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้แล้วคุณจะหลงรักเธอมากขึ้น

รู้สึกอย่างไรกับการกลับมาจับไมค์ร้องเพลง

ตอนอัดเพลงหนูพูดตรง ๆ เลยว่าไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากกว่า ณ ตอนนั้น แต่พอเริ่มถ่าย MV เริ่มต้องโปรโมทเพลงหนูก็รู้สึกตื่นเต้นลึก ๆ ว่าคนจะโอเคมั้ย คนจะชอบมั้ย ซึ่งมันเป็นการกลับมาร้องเพลงในรอบ 9 ปี ครั้งล่าสุดที่กลับมาร้องเพลงคือปี 2013 (2556) คือโดยส่วนตัวหนูรู้สึกดีใจมาก เพราะว่าเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้วด้วย แล้วพอทางช่องเสนอโอกาสให้ก็คือแบบรับเลย โดยที่ยังไม่รู้ด้วยว่ารายละเอียดเป็นอะไรยังไง คือเอาเลยค่ะ ยินดีค่ะ หนูพร้อมค่ะทำได้ ทำได้ ฉันทำได้

แล้วทำไมถึงเป็นเพลงแนวนี้

คือตอนแรกทางผู้ใหญ่มานั่งคุยกันว่าจะทำเพลงกับโบว์แล้วนะ เอาแนวไหนดี แล้วพี่เขาก็อาจจะแต่งมาจากตัวโบว์แหละค่ะ คือหลาย ๆ คนมองว่าเราอ่ะเป็นคนสดใสก็เลยน่าจะเหมาะกับทำเพลงสดใส ฟังแล้วว้าว เขาก็เลยจัดเพลงนี้มาให้เป็นแนว Candy Pop ค่ะ เป็นเพลงที่แต่งออกมาจากบทสัมภาษณ์ เหมือนตอนนี้ที่เราสัมภาษณ์กันอยู่ เขาก็เลยแต่งออกมาเป็นเพลงแฟนผมน่ารักค่ะ

ทำไมถึงตัดสินใจเลือกลิปตามา Featuring ในเพลงนี้

คือหนูเลือกเพราะพวกพี่ ๆ เค้าเป็น Producer ด้วย หนูว่าเสียงที่จะเข้ากับดนตรี ทำนอง เพลงประมาณนี้ก็ต้องเป็นพี่ ๆ เขาแหละ หนูรู้สึกว่าเขา 2 คนเหมาะที่สุดแล้วกับเพลงนี้ ก็เลยแบบเออ เป็นเกียรติให้หนูหน่อยได้มั้ย ร้องกับหนูจะเป็นเกียรติมาก ๆ เลย ตอนทำงานก็ดีค่ะ พวกพี่ ๆ เขาเป็นมืออาชีพ ทำงานด้วยง่ายมาก ๆ ทุกอย่างรวดเร็วค่ะ อัดเพลงแค่แป๊ปเดียว แล้วก็พี่คัตโตะ (อารมณ์ โพธิ์หาญรัตนกุล) จะเป็นไกด์คอยร้องว่าจะเอาเสียงประมณนี้ คีย์ประมาณนี้ แบบโบว์จะเอาเสียงแบบไหนดี คีย์แบบไหนดีที่จะเหมาะสมกับเพลงนี้ แต่ที่อัดเสร็จเร็ว เพราะหนูเตรียมพร้อมกันมาสักพักนึงแล้วด้วย เพราะว่าช่วงที่หนูเป็นโควิด-19 เขาก็ส่งทำนอง เนื้อเพลงมาให้ฟัง แล้วพี่แทน (ธารณ ลิปตพัลลภ) ก็บอกว่าร้องให้ฟังหน่อยได้มั้ย อยากรู้ว่าพอมันเป็นเสียงโบว์แล้วมันจะเป็นประมาณไหน พอร้องแล้วเขาก็บอกโอเค เดี๋ยวตอนอัดก็จะบอกอีกทีว่าจะต้องปรับแก้กันตรงไหน ทุกอย่างเลยรวดเร็วมาก

เพลงนี้ตรงกับที่เราต้องการไว้ไหม

ตอนแรกวางกันไว้ว่าจะเป็นฟีลแบบ Acoustic มีดนตรีแบบนิดหน่อย ให้เป็นฟีลแบบว่าฟังสบายๆ แต่พอความเป็นโบว์มันก็ไม่ได้เป็นคนแบบว่าเข้าถึงง่าย เข้าใจง่ายขนาดนั้น ก็เลยให้มันมีความ Pop มีความน่ารัก มีความห้าวอยู่ในตัว มีความแบบเท่ๆ หน่อย ก็มีทั้งแบบเสียงกีต้าร์ เสียงน่ารัก ๆ ก็เลยจะมีความน่ารักอยู่ เป็น Candy Pop ค่ะ หนูว่าเป็นเพลงที่พี่ๆ ก็ช่วยกันขัดเกลาเนื้อ ก็เหมาะกับคนคลั่งรักแหละ คนที่แอบชอบใครสักคนอยู่แล้วอยากจะส่งเพลงนี้ให้เขา เพลงนี้เหมาะกับเขาจังเลย เพราะเพลงนี้มันน่ารัก

เล่าถึงวันที่ถ่าย Music Video ให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

วันถ่าย MV ก็คือง่วงมาก เพราะว่าตื่นเช้ามาก และก็สนุกดีค่ะ เพราะทีมงานเป็นวัยรุ่นทั้งหมดเลย คือเขาแฟนคลับเราบางส่วนที่เคยฟังเพลง Kiss Me Five (สังกัดกามิกาเซ่ ในเครืออาร์เอส) พอเขารู้ว่าเรามาทำ เขาก็แบบดีมาก เพลงน่ารักมาก ก็สนนุกมาก ๆ ค่ะ แล้วพระเอก MV ก็เป็นญี่ป่นแท้เลย ซึ่งที่เราไม่ได้เลือกอาเล็ก (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) ก็เพราะว่าคนเราอนาคตมันไม่แน่นอน ถ้าเล่น MV ไป MV มันจะอยู่กับเราไปตลอด ทุกคนก็จะเห็นและในอนาคตถ้าหากแยกทางกันแล้ว MV นี้ก็จะอยู่แบบเป็นอนุสรณ์สถาน ก็เลยบอกพี่เล็กไปแล้วว่าอย่าเลยเนอะ เดี๋ยวมีอาถรรพ์ แต่พอปล่อย MV ออกมาแล้วผลตอบรับดี ก็รู้สึกดีใจค่ะ คือเกินความตั้งใจที่เราคิดไว้ด้วย แค่เพลงมีคนฟังและมีคนชอบ แบบพี่ทีมงานบอกว่าชอบเพลงฟังแล้วติดหู แค่นั้นหนูก็ดีใจแล้ว พอหลาย ๆ คนฟังแล้วแบบผลตอบรับมันดีหนูก็ดีใจ ไม่คิดว่าหลาย ๆ คนจะชอบแนวเพลงประมาณนี้ มันก็น่ารักอ่ะค่ะ เหมาะกับทุกคนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนคลั่งรัก

จะมีเพลงเต้นบ้างหรือเปล่า

จริง ๆ เพลงนี้ก็มีเต้น แต่จะเป็นเต้นง่าย ๆ เอาจำง่าย ๆ กลัวจำท่าเต้นไม่ได้ถ้ามันยากเกินไป ในเพลงต่อๆ ไปก็ต้องดูว่าจะเอาประมาณไหน ตอนนี้ก็กำลังตกตะกอนกันอยู่ว่าจะเป็นยังไง ว่าจะเป็นเพลงช้า เพลงเศร้าแต่เร็ว หรือว่าแรปไปเลย ก็ต้องมาคิดกันดูอยู่ค่ะว่าอันไหนเข้ากับโบว์ ซึ่งโบว์และทางผู้ใหญ่ก็เตรียมวางแผนเพลงต่อๆ ไปกันแล้ว

แฟนคลับสำคัญกับเราอย่างไรบ้าง

แฟนคลับ คือสำคัญมากค่ะ แฟนคลับหนูแทบจะเป็นแฟนบอยอยู่แล้ว เพราะวันทุกคนคือทวิตเตอร์แน่น มี Food Truck แล้วคือจริงๆ วันนี้คือเป็นส่วนน้อยมากๆ เลย เพราะหลายๆ คนเขากลัวโควิด-19 กัน แต่คือถ้าวันไหนนัด Meet and Greet กัน คือทุกคนมากันเยอะมาก แล้วแฟนคลับหนูจอยมาก คือไม่ได้จอยแค่หนู จอยกับกลุ่มแฟนคลับคนอื่นด้วย เวลามีคอนเสิร์ตอย่างนี้ เขาจะไม่ได้เต้นแค่เพลงโบว์ เขาจะเต้นทุกเพลงเลย เขาเหมือนมา Exercises กัน ก็คือขอบคุณแฟนคลับทุกคนมากเลยที่แบบว่าคอยสนับสนุนโบว์ ไม่ใช่แค่แฟนคลับโบว์อย่างเดียว แฟนคลับของกลัฟ (คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์) แฟนคลับของใครก็ตามที่คอยติดตามโบว์ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่คอยสนับสนุนนะคะ

ขอบคุณภาพจาก สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (บมจ.บีอีซี เวิลด์)

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า