fbpx

Bomb the System อัลบั้มที่จะระเบิดทุกระบบ ทุกเซฟโซนและโสตประสาทไปกับ Bomb At Track

ถ้าย้อนกลับไปปี 2017 เพลงอำนาจเจริญของศิลปินหน้าใหม่ ณ ตอนนั้นอย่าง Bomb At Track ได้ผ่านหูผู้ฟังและเริ่มมีการพูดถึงแบบปากต่อปาก ทั้งในแง่ดนตรีที่เป็น Metal มี Slap Bass อันเร้าใจ เสียงกีตาร์ที่ภาค Rhythm หนักแน่นไปกับเสียงกีตาร์ที่สร้าง Sound Designc อันหวือหวา ที่ชวนนึกถึงมือกีตาร์รุ่นใหญ่อย่าง Tom Morello จากคณะ Rage Against The Machine รวมไปถึงลีลาการแรปอีก

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาก็แอบที่จะไม่ถึงวงอย่าง Rage Against The Machine ขึ้นมาทันใด แต่จากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้ทางวงก็พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าตัววงมีของมาก ที่จะประกาศศักดาเป็นวงที่ถูกกล่าวถึงในแง่ดนตรีที่จัดจ้านและเนื้อหาที่เสียดสีและท้าชนกับความอยุติธรรมชนิดเจ็บแสบ

ถึงแม้วงมีการเติบโตจนถึงขั้นมีคอนเสิร์ตใหญ่จนกระทั่งพอมีโรคระบาด COVID-19 นั้น ทางวงก็ได้ผลกระทบเรื่องนี้ไม่ต่างกับทุกวง ประกอบกับการหมดสัญญาจากค่าย Wayfer Records จนเป็นศิลปินอิสระ โดยได้ปล่อยเพลงแค่เรื่องเล่า เป็นเพลงให้กำลังใจผู้คนในช่วงการระบาดของ COVID-19

หลังจากนั้นเราเริ่มสงสัยว่าทิศทางของวงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร จนกระทั่งปีที่แล้วที่ค่าย Genie Records ได้ประกาศว่า Bomb At Track ได้เป็น 1 ในศิลปินของค่าย ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาและคำถามจากแฟนเพลงว่า การอยู่ค่ายใหญ่ที่ชื่อว่าเป็นค่ายรวมวงร็อคจะทำให้เขาไม่สามารถพูดถึงการเมืองและเรื่องอยุติธรรมในบ้านเราหรือเปล่า

แต่อัลบั้ม Bomb The System ก็เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่า “ค่ายไม่เกี่ยว พี่ใส่เดี่ยวได้หมด”

อัลบั้ม Bomb The System เป็นอัลบั้มที่ 2 ของวงที่มาในคอนเซปต์ “Unsolved Case File” (แฟ้มคดีที่ยังไม่ถูกคลี่คลาย) ที่ออกแบบโดย Dogkillmen หรือเป๋ง-ชานนท์ ยอดหงษ์ ที่ถ้าคุณเป็นแฟนคลับศิลปินค่าย Genie Records คุณก็ต้องคุ้นตากับงานของเขาอย่างแน่นอน ซึ่งใน Boxset ก็มี Packaging ใส่ Booklet กับ Poster ที่เหมือนกับแฟ้มเอกสารลับ, ซีดีที่ดูแตกจริง (แต่สามารถใช้งานได้) บรรจุ 9 เพลง, Stecil Block ที่เอาไปพ่นสเปรย์ได้ และสติ๊กเกอร์

ซึ่งหลังจากอ่านรีวิวจบแล้วรู้สึกสนใจที่อยากจะเก็บ Boxset นี้ก็จับจ่ายตามช่องทางออนไลน์ได้เลย

ไม่รอช้า เราจะรีวิวแบบ Track By Track เช่นเคย ซึ่งทั้ง 9 เพลงนั้นก็มีเนื้อหาที่พูดถึงการเมือง ความอยุติธรรมอย่างเคย แต่ก็เพิ่มมิติกับเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง การให้กำลังใจและความรัก

Track By Track

คำสั่ง 

เปิดหัวอัลบั้มมาด้วย Synth Bass และกลองที่ให้กลิ่นอาย Indrustrial Metal สอดรับกับเสียง Synth Lead ที่เหมือนกับเสียงหวอตำรวจ ก่อนจะซัดเต็มแบนด์ในช่วงกลางกับเนื้อหาที่สะท้อนช่วงการที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงกับประชาชนในการเกิดม๊อบที่สะท้อนความต้องการในการเปลี่ยนแปลงและความเดือดร้อนใน 1-2 ปีก่อนที่ไร้ซึ่งการตระหนักต่อจริยธรรม การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ที่ถูกเลือนหายไปไม่ต่างจากสัตว์ที่ได้แต่รอคำสั่งไปวัน ๆ เป็นแทร็กแรกที่กระแทกกระทั้นและเชื่อมโยงกับอัลบั้มที่แล้ว และเป็นสัญญาณบอกว่าค่ายใหญ่ไม่ได้จำกัดความคิดของศิลปินแน่นอน

เสียงในหัว

เป็นการฉุดกระชากอารมณ์กับบรรยาศที่มีความนิ่งสงบและน่าระแวงไปในเวลาเดียวกัน เสียงเบสที่มีความนิ่งและความน่าสงสัยและ Sound Design ที่น่าพิศวงไปในเวลาเดียวกัน กับเนื้อหาของคนที่รับมือกับสิ่งรอบข้างไม่ได้ที่เต้ นักร้องนำของวงได้เผชิญอาการนี้ในเวลาหนึ่ง ซึ่งเนื้อเพลงมันเต็มไปด้วยหลากเนื้อหาราวกับความคิดในหัวกำลังตีกันจนเกิดความยุ่งเหยิงสอดรับกับลีลาการแรปของเต้ที่สับรัว ๆ โชว์ความไหลลื่น ก่อนที่ท้ายเพลงจะมีเสียงคียบอร์ดแบบ Lo-Fi ที่เป็นการลดความตึงเครียด

อะดรีนาลีน

เปิดด้วยเสียงเบสหนึบ ๆ กับเนื้อหาที่อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนพุ่งทะยาน พลุ่งพล่าน โลดแล่นไปตามใจตัวเอง เป็นเพลงที่สร้างความมันส์ในการเล่นสดชนิดที่ให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีนเหมือนชื่อเพลง

บ้ายอ

เพลงแรกที่เปิดตัวกับค่าย Genie Records กับเนื้อหาของคนที่หลงใหลในอำนาจที่ต้องการแต่คำสรรเสริญจนละต่อคำวิจารณ์ ยิ่งอำนาจเยอะ ยิ่งมัวเมาละยิ่งตกต่ำลงไป มาพร้อมดนตรีที่เรียบเรียงได้อย่างมีชั้นเชิง มีท่อนแรป มีท่อนดนตรีแบบ Trap มีท่อนหยุด ท่อนไปให้เพลงไม่มีความน่าเบื่อ เสิร์ฟด้วยริฟฟ์กีตาร์ที่ไม่หยุดนิ่งและตบท้ายด้วยลีลาการแรปของเต้ที่เรียกว่าเขาคนนี้ฟาร์มของจนเลเวลสูงแล้ว

จำ

นี่คือ 1 ในเพลงที่กลายเป็นเพลงดังของวงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับเพลงรักเพลงแรกของวงกับเนื้อหาที่ต่อให้วันนี้เราจะจากกันไปแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ได้แค่จดจำความรักครั้งเก่า โดยไม่ได้ต้องการย้อนไปเพื่อแก้ไขอดีต แต่ย้อนไปเพื่อทบทวนเรื่องราวรักครั้งนั้นว่ามันสวยงามแค่ไหน ไปทบทวนมันด้วยความเข้าใจ เป็นเพลงที่มีองค์ประกอบที่สามารถสร้างความประทับใจกับผู้ฟังและมีลายเซ็นของวงชัดเจน มากไปกว่านั้นการได้ พัด นักร้องนำวง Zweed n’ roll ก็ได้สร้างอารมณ์และมิติเพลงได้ดียิ่งขึ้นราวกับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ที่สำคัญนี่คือการโชว์โซโล่กีตาร์ที่หวานมาก ๆ ของเมษ มือกีตาร์ของวงที่ได้โชว์อีกด้านของตัวตนที่มีมากกว่าการสร้างความหวือหวาของเสียงกีตาร์ในเพลงแต่ละเพลงแค่อย่างเดียว

ถ้าใครชอบเพลง จด จากอัลบั้มที่แล้ว คุณจะรักเพลงนี้อย่างแน่นอน

แค่เรื่องเล่า

เป็นเพลงที่ปล่อยในช่วง Covid 19 กำลังระบาดอย่างหนัก เป็นเพลงที่ให้กำลังใจกับวงกับผู้ฟังที่ย้ำเตือนว่าในวันนี้จะเจอเรื่องดีหรือเรื่องร้ายแค่ไหน ถ้าเราผ่านมันไปมันก็กลายเป็นเรื่องเล่า มากับเสียงกีตาร์อคูสติกช้า ๆ ก่อนที่ท่อนฮุคจะซัดเราโดยมีกลิ่นแบบอเมริกันร็อคในยุค 2000 เป็นเพลงที่มีความอ่อนหวานและหนักแน่นในเพลงเดียวกัน

เด็กเอ๋ยเด็กดี

กลับมาสู่อารมณ์เดือด ๆ กับดนตรีที่มีความเป็น Indrustial Metal สอดไปด้วยการแรปของเต้และมิลลิที่ตอนนี้กลายเป็นศิลปินเจนใหม่ที่น่าจับตามองทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ กลายเป็นเพลงนี้เป็นการปล่อยของด้านการแรปที่แบ่งรับแบ่งสู้กันอย่างสูสีกับเนื้อหาของที่ตั้งคำถามระบบการศึกษาและสถาบันครอบครัว ว่าสุดท้ายการเป็นเด็กดีมันคืออะไร ดีด้วยการทำตามความคาดหวังของครอบครัวโดยที่ไม่ถามตัวเด็ก ดีด้วยการฟังคำสอนและทำตามโดยไม่ตั้งคำถามต่อยุคสมัยหรือดีด้วยการที่เคารพต่อความอาวุโสที่ไร้ซึ่งการตั้งคำถาม ความสงสัย เพราะถ้าสงสัยและถามไปก็จะกลายเป็นเถียง มันจึงเป็นเพลงที่เป็นกระบอกเสียงว่าควรที่จะรับฟังเด็กรุ่นใหม่เสียบ้าง เพราะกับรับฟังเป็นเครื่องมือที่สานสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน มันเลยเป็นเพลงที่สะท้อนปัญหาของเด็กที่บางคนบ้านและโรงเรียนก็ไม่ Safe Zone ของเด็กเลยสักนิด

นับถอยหลัง

ไม่มีใครที่จะใช้ชีวิตของเราได้อย่างเต็มที่นอกจากตัวเราเอง ประเด็นสำคัญของเพลงนี้ที่อยากให้ผู้ฟังไปใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการ เป็นอิสระต่อคำพูดคนอื่นและซื่อสัตย์กับตัวเองไว้ ไม่มีใครเข้าใจตัวเองเท่าตัวเรา เป็นเพลง Altertive Rock จังหวะสนุกและพุ่งทะยานมาก

ช่วงเปลี่ยนผ่าน

เพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่สรุปเรื่องราวใน 8 เพลงที่ผ่านมา กับเนื้อหาที่สะท้อนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่บอกกับเราว่าไม่ว่าจะดีหรือร้าย ลงมือทำแล้วไม่ดีเท่าใคร แต่มันเป็นสื่งที่เราเลือก ต่อให้มันจะผิดพลาด ต่อให้ไม่สมหวังแต่มันคือช่วงเปลี่ยนผ่านช่วงหนึ่งของเรา เพลงจังหวะกลางที่ช่วงท้ายก็ยังความจัดจ้านของวงอย่างเช่นเคย

Final Thoughts

หลังจากฟังจบแล้ว เรารู้สึกว่าอัลบั้มสมกับชื่ออัลบั้ม Bomb The System บางเพลงก็ยังมีเนื้อหาเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคย มี Vibe ดนตรีที่เรายังชื่นชอบเหมือนเดิม บางเพลงวงก็ลองที่จะฉีกแนวทางเดิม ระเบิด Safe Zone ที่เคยอยู่แม้ไม่รู้ว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไร แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่พิสูจน์ได้คือลีลาการแรปของเต้ นักร้องนำที่เราเชื่อว่าเขาฟาร์มของมากพอที่จะสร้างสีสันใหม่ ๆ ของวงได้ในหลังจากนี้และภาคดนตรีที่ยกระดับอย่างชัดเจน

แม้จะลดความดิบลง แต่สอดแทรกแนวทางใหม่ได้อย่างกล้าหาญ ทั้งเรื่อง Synth และ Sound Design ที่นึกถึงดนตรีแนว Indrustial Metal เป็นระยะ ๆ หลายเพลงเองวงก็เลือกที่จะกระจายฐานผู้ฟังหน้าใหม่มากขึ้น รวมไปถึงตัวผู้เขียนเองก็ได้ไปคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม Bomb The System เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านก็ยิ่งทำให้เราเห็นภาพชัดเจนถึงพัฒนาการของตัววงที่เล่นเคลียร์ ชัดเจนและทีมเวิร์คที่ดีเยี่ยมและการได้ฟัง 9 เพลงแบบสด ๆ สลับกับเพลงเก่า ๆ ของวงก็ยืนยันได้ว่าความจัดจ้านของวงก็ไม่ลดหายไป ซึ่งหลังจากนี้เราเชื่อว่า Bomb At Track จะสามารถระเบิดตัวตนให้ผู้ฟังได้รับฟังเป็นวงกว้างมากกว่านี้อีกแน่นอน

Special Thanks
Genie Records
GMM Grammy

Content Creator

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า